เมื่อ : 13 พ.ค. 2565 , 439 Views
รอยัล เอ็นฟีลด์ ปิดฉากการแข่งขัน Busted Knuckles Build-Off ซีซั่น 2
  • • ตัวแทนจำหน่าย 5 ราย กับ 1 เป้าหมายเดียวกัน: ปลดปล่อยจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์เพื่อปรับแต่ง 650 Twins ให้กลายเป็นรถจักรยานยนต์คัสตอมที่ใครมองแล้วก็ต้องสะดุดตากับความสวยเท่ และความแปลกใหม่
    • Busted Knuckles Build-Off เป็นหนึ่งในการแข่งขันปรับแต่งรถจักรยานยนต์ที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดของรอยัล เอ็นฟีลด์
    • รถจักรยานยนต์คัสตอมทั้ง 5 คัน ปรับแต่งโดย Royale M/C NZ, Surfside Sydney, Revelry Sydney, Moto Max Perth และ Fast Fuel Albury
 
กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 – รอยัล เอ็นฟีลด์ ผู้นำระดับโลกด้านรถจักรยานยนต์ขนาดกลาง (250cc-750cc) ปิดฉากการแข่งขัน Busted Knuckles Build-Off ซีซั่น 2 ซึ่งเป็นหนึ่งในการแข่งขันแต่งรถจักรยานยนต์ที่โด่งดังที่สุดของแบรนด์ โดยตัวแทนจำหน่าย 5 ราย จากประเทศออสเตรเลีย และประเทศนิวซีแลนด์ได้ปรับแต่งรอยัล เอ็นฟีลด์ 650 Twins และ Himalayan ให้กลายเป็นรถจักรยานยนต์คัสตอมที่มีสไตล์สวยเท่ พร้อมบ่งบอกถึงตัวตนของตัวเองอย่างมีศิลปะไปด้วยในเวลาเดียวกัน

 

ตัวแทนจำหน่าย MotoMax - เมืองเพิร์ท - รถ ‘Regency’ Interceptor 650 Twin Scrambler
 
ริก สตีล (Ric Steele) เป็นเจ้าของธุรกิจ และตัวแทนจำหน่ายรอยัล เอ็นฟีลด์มาตั้งแต่ปีค.ศ. 2015 ริกกล่าวว่า Interceptor ใหม่ นั้นเหมาะสำหรับการปรับแต่งให้เป็นรถจักรยานยนต์แนวสแกรมเบลอร์มาก ด้วยตำแหน่งของเบาะ และแฮนด์บาร์ที่ทางโรงงานจัดไว้ให้ตั้งแต่ต้น รวมถึงการเป็นที่นิยมในหมู่นักโต้คลื่นฝั่งตะวันตก ในยุควัฒนธรรมการโต้คลื่น และพักผ่อนหย่อนใจบนหาดทรายในรัฐแคลิฟอร์เนีย ค.ศ. 1960 ‘Regency’ Interceptor 650 Twin Scrambler สามารถวิ่งได้จริงบนทุกถนน มาพร้อมอุปกรณ์ตกแต่งต่าง ๆ ที่เข้าชุดกันอย่างลงตัว

 

ตัวแทนจำหน่าย Revelry Cycles - เมืองซิดนีย์ - รถ ‘RevElation’ 650 Twin Salt Racer
 
Revelry Cycles Sydney เริ่มจำหน่ายรถจักรยานยนต์รอยัล เอ็นฟีลด์ เมื่อปีค.ศ. 2014 โดยดำเนินธุรกิจมากว่า 10 ปี แล้ว ‘RevElation’ 650 Twin Salt Racer คันนี้ผ่านการปรับแต่งมาให้เป็นรถจักรยานยนต์แนวซอลท์ เรเซอร์ ซึ่งมีต้นกำเนิดอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อสร้างเฟรมขึ้นใหม่ทั้งหมดเสร็จแล้ว งานที่ยากยิ่งกว่าอย่างการเติมสารพัดชิ้นส่วนสำหรับเพิ่มความเร็วเข้าไปก็เริ่มขึ้น ตามมาด้วยการเพิ่มความจุของเครื่องยนต์จาก 650cc เป็น 960cc พร้อมชุดกระบอกสูบขนาดใหญ่ของ S&S และเพลาข้อเหวี่ยงขนาดใหญ่ขึ้น นอกจากนี้ยังมีชุดลิ้นปีกผีเสื้อที่ Revelry สร้างขึ้นเอง ระบบเกียร์แบบ Air-Shift และท่อไอเสียคัสตอมที่ให้เสียงดัง

 

ตัวแทนจำหน่าย Fast Fuel - เมืองอัลเบอรี่ - รถ ‘Dr. No’ GT 650 Twin Cafe Racer
 
ลินคอล์น สมาร์ท (Lincoln Smart) เป็นเจ้าของ Fast Fuel Motorcycles ในเขตเมืองแฝด อัลเบอรี่-โวดองกา ‘Dr. No’ GT 650 Twin Cafe Racer ที่ทางลินคอล์นนำเข้าแข่งขันใน Busted Knuckles Build-Off ซีซั่นล่าสุดนี้ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในรถจักรยานยนต์แนวคาเฟ่ เรเซอร์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่ Fast Fuel Motorcycles เคยคัสตอมมา โดยลินคอล์นทำการปรับชุดแต่งรอบคันจาก C-Racer ในประเทศกรีซก่อนนำไปประกอบเข้ากับตัวรถ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาตรงกับที่เขานึกภาพไว้มากที่สุด “ตัวรถมาพร้อมไฟเบรกที่รวมเข้ากับชิ้นส่วนบริเวณท้ายรถ แต่เพราะเราต้องการภาพลักษณ์ที่ดูโฉบเฉี่ยว เราจึงดัดแปลงให้ดูมีความมินิมอลมากขึ้น” ส่วนท่อไอเสียนั้นลินคอล์นใช้ของที่ผลิตในประเทศออสเตรเลีย และมีความคิดจะทำเป็นแนวแดร็กในตอนแรก แต่สุดท้ายเขาก็เห็นด้วยกับความคิดของซัพพลายเออร์ที่ว่าท่อไอเสียแนวเรเซอร์จะทำให้ภาพรวมของตัวรถดูแตกต่าง โดดเด่นกว่า อีกทั้งให้เสียงดีกว่า
 

ตัวแทนจำหน่าย Royale Motorcycles - เมืองแฮมิลตัน - รถ No. 55 GT 650 Production Racer
 
Royale Motorcycles เลือกนำการแข่งขัน Royal Enfield 'GT Cup' Production Racing series ที่ประเทศอินเดียมาเป็นแรงบันดาลใจในการปรับแต่ง No. 55 GT 650 Production Racer ให้คล้ายคลึงกับรถจักรยานยนต์แนวสปอร์ต และเมื่อผู้คนนึกถึงรถจักรยานยนต์แนวสปอร์ต ก็อาจจะคิดว่านั่นเป็นอะไรที่ห่างไกลจาก GT Enfield’s แต่ GTs นั้นก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถแนวคาเฟ่ เรเซอร์ ในการแข่งขัน The Isle of Man TT ในยุค 50 และ 60 ด้วยเช่นกัน และนั้นก็นับว่าเป็นรถจักรยานยนต์แนวสปอร์ตในยุคนั้น ดังนั้นการสร้างนักแข่งสมัยใหม่จาก 650 twin จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ ล้อขนาด 17 นิ้วได้รับการติดตั้งด้วยยางรถแข่งจาก Pirelli Diablo ที่ด้านหลัง นอกจากนั้น ทางทีมยังได้ติดตั้งระบบท่อไอเสียเพื่อระบายความร้อนจากเครื่องยนต์ โดยได้เลือกท่อจาก HP Corse สุดเท่เพื่อเพิ่มกลิ่นอายความเป็นรถแข่งและเสียงที่ดีขึ้นของเครื่องยนต์ และเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายขึ้นอีกระดับ ตัวโครงของรถจักรยานยนต์จึงทำจากเหล็กไม่ใช่อะลูมิเนียม เพื่อให้การโมดิฟาย GT’s bones ง่ายขึ้นสำหรับร้านรับทำงานคัสตอมทั่วไป รวมถึงผู้ขี่ที่อยากจะคัสตอมเอง

 

ตัวแทนจำหน่าย SurfSide Motorcycle Garage - เมืองซิดนีย์ - รถ ‘No. 40’ Himalayan 650 Twin
 
ทีม Surfside ได้ช่วยกันผนึกกำลังทำให้ ‘No. 40’ Himalayan 650 Twin สำหรับ Busted Knuckles Build-Off ซีซั่นล่าสุดนี้ เป็นอีกหนึ่งตำนานที่ผู้คนจะจดจำ โดยผู้คนต่างตื่นเต้น และคาดเดากันไปมาก แต่ไม่มีใครเคยเห็นได้เห็นเลย ตั้งแต่เครื่องยนต์ 650 Twin ออกสู่ตลาดในปีค.ศ. 2018 ตัวรถมีชุดขยายความจุจาก S&S ขนาด 856cc และมี Hallam Engineering ในเมืองเมลเบิร์นคอยดูแลด้านการออกแบบ ซึ่งตัวรถจักรยานยนต์ได้เปลี่ยนชุดวาล์วที่ใหญ่กว่าเดิม และแคมของ Hallam นอกจากนี้ทีมยังได้ติดตั้งลิ้นปีกผีเสื้อขนาดใหญ่และท่อจาก Verex โดยรถจักรยานยนต์จะมีน้ำหนักอยู่ที่ 182 กิโลกรัม พร้อมของเหลว และสามารถทำแรงม้าได้มากกว่า 70 แรงม้า เพื่อให้รถจักรยานยนต์คันนี้สมบูรณ์แบบมากขึ้น ตัวถังอะลูมิเนียมใหม่ของ Tommy ได้รับการเสริมด้วยยาง Mitas แบบออฟโรด สวิงอาร์มที่ยาวขึ้น การเปลี่ยนโช้คเดี่ยว และโช้ค YSS ปิดท้ายด้วยหน้าปัด Garmin Montana 700i สุดเจ๋งพร้อมปุ่ม SOS
 
คุณอนุจ ดัว, หัวหน้าฝ่ายธุรกิจประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก, รอยัล เอ็นฟีลด์ กล่าวว่า “งานคัสตอมรถจักรยานยนต์ที่มีมายมายในตลาดเอเชียแปซิฟิกเป็นการตอกย้ำว่ารถจักรยานยนต์รอยัล เอ็นฟีลด์เป็นรถจักรยานยนต์ที่เหมาะสำหรับการปรับแต่งคัสตอมเป็นอย่างมาก จากที่เราเห็นมา ตัวแทนจากประเทศออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์นั้นถือได้ว่าเป็นหนึ่งในผู้ที่มีความสามารถด้านการสร้างสรรค์ผลงานคัสตอมมากที่สุดในโลก สิ่งที่ทำให้การแข่งขัน Busted Knuckles Build-Off ซีซั่น 2 พิเศษก็คือการที่ตัวแทนจำหน่ายของเราเข้ามาเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญของการจัดงาน เนื่องจากเรามีนักขี่ไฟแรงมากมายในประเทศออสเตรเลีย และประเทศนิวซีแลนด์ เราจึงมีกลุ่มผู้ชื่นชอบการปรับแต่งรถจักรยานยนต์ที่ใหญ่ โดยการคัสตอมรถนั้นเปรียบเสมือนการเสริมบุคลิกภาพของผู้ขับขี่ไปในตัวอีกด้วย ด้วยโครงสร้างที่เรียบง่ายและไม่ซับซ้อน รถจักรยานยนต์ของเราจึงเหมาะสำหรับการออกแบบและแสดงความสร้างสรรค์อันเป็นเอกลักษณ์ส่วนบุคคลของผู้แต่งรถคัสตอมที่เก่งที่สุดทั่วโลกเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งนอกจากการตีความหมายผลงานออกแบบที่สวยงามแล้ว ทางรอยัล เอ็นฟีลด์ยังได้มีส่วนผลักดันการสร้างสรรค์ที่สามารถกำหนดแบบเองได้ในแง่ของความสามารถด้วยเช่นกัน โดยในประเทศออสเตรเลีย เรามีผลงานคัสตอมมากกว่า 25 แบบแล้ว และเราเชื่อว่าโปรแกรมคัสตอมของเราเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้สร้างได้สำรวจความคิดสร้างสรรค์ของพวกเขาอย่างแท้จริง ตลอดจนสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้อื่นและผู้ที่ชื่นชอบรถจักรยานยนต์อีกด้วย”