เมื่อ : 27 เม.ย. 2567 , 122 Views
อะกริเทคนิก้า เอเชีย และฮอร์ติ เอเชีย และผู้นำภาคอุตสาหกรรมการเกษตรพร้อมขับเคลื่อนเพื่อการเกษตรยั่งยืนในอนาคต

นางแคธาริน่า สแตส์เก้ (Katharina Staske) กรรมการผู้จัดการสมาคมเกษตรกรรมเยอรมัน ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก เน้นย้ำถึงความสำคัญของการจัดงานแสดงสินค้าในปีนี้ ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 4 ของการจัดงาน อะกริเทคนิก้า เอเชีย โดยมีขนาดและผู้เข้าร่วมแสดงนวัตกรรมทางการเกษตรเพิ่มขี้นกว่าเท่าตัวว่า “ภายในงาน ผู้เข้าชมงานได้พบกับผู้ผลิตชั้นนำจากทุกภาคส่วน รวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านการเพาะปลูกดิน เช่น เล็มเค่น (Lemken) จากประเทศเยอรมนี แชคติมาน  (Shaktiman) จากประเทศอินเดีย และ เคดับเบิ้ลยู เมทัล เวิร์ค (KW Metal work) จากประเทศไทย” 

 

นางสแตส์เก้กล่าวเสริมว่า “ปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนเพื่อเข้าชมงานแล้วจาก 62 ประเทศทั่วโลก ตอกย้ำให้เห็นว่า งาน อะกริเทคนิก้า เอเชีย และฮอร์ติ เอเชีย  เป็นศูนย์กลางระดับนานาชาติสำหรับชุมชนเกษตรกรรมในการเรียนรู้ถึงแนวปฏิบัตด้านความยั่งยืนและนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมทางการเกษตร ภายใต้แนวคิดหลักในปีนี้ “การร่วมสร้างสรรค์และเครือข่ายที่ยั่งยืน” (Co-Creation and Sustainable Networks)

 

“ในส่วนการประชุมและการเสวนา ในปีนี้ เราจะเจาะลึกถึงประเด็นเร่งด่วน เช่น การลดมลพิษทางอากาศจากการปฏิบัติทางการเกษตร เส้นทางสู่การบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน และการนำโซลูชั่นการทำฟาร์มอัจฉริยะมาใช้ ซึ่งการอภิปรายหลักทางงานได้รับความร่วมมือจากองค์กรที่มีชื่อเสียง อาทิ สมาคมเทคโนโลยีอ้อยน้ำตาลแห่งประเทศไทย สถาบันวิจัยข้าวนานาชาติ สมาคมวิศวกรรมเกษตรไทย และสมาคมวิศวกรรมเกษตรแห่งเอเชีย”

 

ทางด้านนางสาวปนัดดา ก๋งม้า รองประธานฝ่ายธุรกิจ บริษัท วีเอ็นยู เอเชียแปซิฟิค จำกัด เน้นถึงความสำคัญของการจัดงาน ฮอร์ติ เอเชีย กล่าวว่า “ในปีนี้นับเป็นการจัดงานครั้งที่ 8 ทางคณะผู้จัดงานฯ มีความตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ด้านพืชสวนและเทคโนโลยีการเกษตรอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีบริษัทเข้าร่วมกว่า 300 แห่งจาก 28 ประเทศ รวมถึงผู้นำในอุตสาหกรรมชั้นนำ อาทิ เนต้าฟิม (Netafim) และ คลาสมาน-เดลมันน์ (Klasmaan-Deilmann) ร่วมถึงพันธมิตรอย่าง  ดูมเมน ออ-เร้นจ์ (Dummen Orange) และ อะการิส (Agaris) งานนี้ถือเป็นงานรวมตัวของเหล่าสุดยอดผู้ผลิตนวัตกรรมทางการเกษตรในอุตสาหกรกรรม ทางคณะผู้จัดงานฯ รู้สึกเป็นเกียรติ และภูมิใจที่มีโอกาสได้ร่วมมือกับหน่วยงานและองค์กรสำคัญในภาคส่วนต่างๆ เช่น สถานทูตเนเธอร์แลนด์ สมาคมวิทยาศาสตร์พืชสวนแห่งประเทศไทย สมาคมเกษตรกรรุ่นใหม่จังหวัดเชียงใหม่ ฯลฯ ถือเป็นการตอกย้ำความสำคัญของภาคอุตสาหกรรมผ่านการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และความร่วมมือระดับโลกผ่านงานประชุมและสัมมนาวิชาการภายในงานครั้งนี้”


นางสาวปนัดดา ก๋งม้า กล่าวเสริมว่า “ภายในงานสัมมนา ทางหน่วยงานที่เข้ามาร่วมจัดงานได้คัดสรรหัวข้อที่น่าสนใจมานำเสนอให้กับผู้เข้าชมงาน อาทิ หัวข้อ  ’นวัตกรรมพืชสวนที่ยั่งยืน: แรงบันดาลใจไทย-ดัตช์ในบริบทโลก’ ซึ่งจะเป็นการให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแนวโน้มของอุตสาหกรรมที่กำลังพัฒนา โดยเน้นการบูรณาการเทคโนโลยีอัจฉริยะและการทำฟาร์มแบบแม่นยำ เรามุ่งมั่นที่จะส่งเสริม ประสิทธิภาพและเสริมสร้างการพัฒนาเชิงก้าวกระโดดให้กับภาคการเกษตรของภูมิภาคโดยการนำเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น การคาดการณ์โรค และการติดตามการผลิตผ่านทางแอปพลิเคชั่นอัจฉริยะ”

 

ดร. วนิดา กำเนิดเพ็ชร์ ผู้อำนวยการสำนักกิจการการเกษตรต่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เน้นย้ำถึงการตอบสนองเชิงกลยุทธ์ของประเทศไทยต่อความท้าทายทางการเกษตรระดับโลกว่า “เมื่อพิจารณาถึงความท้าทายเร่งด่วนระดับโลกที่เราเผชิญ ทั้งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความยั่งยืน และความมั่นคงทางอาหาร จำเป็นอย่างยิ่งที่ประเทศไทยจะต้องปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกัน” ดร. วนิดาอธิบายว่า "แนวคิดเชิงนวัตกรรมและการทำงานร่วมกันถือเป็นสิ่งสำคัญในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ซึ่งคุณจะพบได้ที่งาน อะกริเทคนิก้า เอเชีย และฮอร์ติ เอเชีย ซึ่งสอดคล้องกับธีม “การร่วมสร้างสรรค์และเครือข่ายที่ยั่งยืน” ประจำปีนี้อย่างสมบูรณ์แบบ"

 

ดร. ไกส์ ทูนิสเซ่น (Gijs Theunissen) อัครราชฑูตที่ปรึกษา (ฝ่ายเกษตร) – สถานเอกอัครราชทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย เน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือระหว่างประเทศว่า "การจัดการกับความท้าทายด้านความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืนเมื่อเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นสิ่งสำคัญยิ่งสำหรับพวกเราในภาคเกษตรกรรม" ดร. ทูนิสเซ่นกล่าวเสริมว่า "ที่ ฮอร์ติ เอเชีย 2567 สถานทูตเนเธอร์แลนด์ร่วมกับพันธมิตรชาวไทย จะเป็นเจ้าภาพการประชุมไทย-ดัตช์ ซึ่งเน้นในหัวข้อ ‘นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนในการปลูกพืชสวน’: แรงบันดาลใจของไทย-ดัตช์ในบริบทระดับโลก’ เป้าหมายของเราคือการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนแนวทางปฏิบัติทางการเกษตรที่เป็นนวัตกรรมและความรู้ด้านพืชสวน เพื่อสนับสนุนความมั่นคงด้านอาหารอย่างยั่งยืน  จึงอยากขอเรียนเชิญทุกคนที่สนใจในประเด็นสำคัญเหล่านี้ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2567 เพื่อมีส่วนร่วมและหารือกับผู้เชี่ยวชาญจากประเทศไทยและเนเธอร์แลนด์”

 

นายคาร์สเต้น ซีเบลล์ (Karsten Ziebell) หัวหน้าโครงการความร่วมมือทางการเกษตรเยอรมัน-ไทย หรือ GETHAC ให้ข้อมูลว่า วัตถุประสงค์ของโครงการคือการยกระดับความยั่งยืนของการผลิตทางการเกษตรและมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงของภาคเกษตรกรรมของไทย เราจึงอยากเรียนเชิญผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีที่ยั่งยืนสมัยใหม่มาร่วมสร้างโซลูชั่นที่มีประสิทธิภาพในวันที่ 24 พฤษภาคม 2567 ร่วมกันกับเรา 

 

นางวิไลวรรณ ทวิชศรี เลขาธิการสมาคมอนุรักษ์และพัฒนาน้ำมันมะพร้าวไทย กล่าวว่า ในความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน สถาบันวิจัยพืชสวน กรมวิชาการเกษตร สมาคมพืชสวนไทย ชุมชนมะพร้าวนานาชาติ และบริษัท วีเอ็นยู เอเชีย แปซิฟิค จำกัด เราภูมิใจที่ได้เป็นเจ้าภาพการประชุมมะพร้าวนานาชาติครั้งที่ 3 หัวข้อหลักของปีนี้ ’เทคโนโลยีการผลิตมะพร้าวอัจฉริยะและโอกาสทางการตลาด’ จะรวบรวมผู้เชี่ยวชาญจาก 6 ประเทศ รวมถึงอินเดีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย และไทย การประชุมจะมีระยะเวลา 2 วัน โดยมีการบรรยายเชิงลึกและเยี่ยมชมสวนมะพร้าวหอมในจังหวัดปทุมธานี และโรงงานเครื่องสำอางที่ใช้น้ำมันมะพร้าว เราได้รับการสนับสนุนจากบริษัทเอกชน 8 แห่งและภาครัฐ ผมขอเชิญชวนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกท่านมาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างมีประสิทธิผลและรับข้อมูลเชิงลึกอันทรงคุณค่าเกี่ยวกับความก้าวหน้าในการผลิตมะพร้าว
 

สำหรับไฮไลท์ของงานประกอบด้วย:
การจัดแสดงนวัตกรรม: จะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมจากบริษัทผู้แสดงสินค้าชั้นนำระดับนานาชาติกว่า 300 ราย เช่น เนต้าฟิม (Netafim)   คลาสมาน-เดลมันน์ (Klasmaan-Deilmann) ดูมเมน ออเร้นจ์ (Dummen Orange) คลาส (CLAAS) จอน เดียร์ (John Deere) มาฮินทรา และมาฮินทรา (Mahindra & Mahindra) แอ๊คโค่ (AGCO) ซีเอ็นเอช (CNH) และ คลาส (CLAAS)
- การเจรจาธุรกิจ: มุ่งเน้นเป็นพิเศษในการอำนวยความสะดวกทางธุรกิจระหว่างผู้ผลิตและผู้นำเข้า โดยมีเป้าหมายในการเข้าสู่ตลาดในฟิลิปปินส์หรือไทย
- การถ่ายทอดองค์ความรู้: จากความร่วมมือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อให้เกษตรกรไทยกว่า 1000 รายได้รับข้อมูลเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการเกษตรจากทั่วโลกผ่านไกด์นำชมงานเพื่อลดช่องว่างทางการสื่อสารและส่งเสริมการเจรจาธุรกิจ

 

งาน อะกริเทคนิก้า เอเชีย และฮอร์ติ เอเชีย ไม่เพียงแต่ทำหน้าที่เป็นเวทีสำหรับจัดแสดงนวัตกรรมทางการเกษตรและพืชสวนระดับนานาชาติเท่านั้น แต่ยังเป็นเวทีสำหรับการอภิปรายแนวทางการแก้ปัญหาที่ยั่งยืนต่อความท้าทายที่อุตสาหกรรมการเกษตรในปัจจุบันำกำลังเผชิญอยู่ ด้วยแนวทางที่ครอบคลุมซึ่งผสมผสานธุรกิจ นวัตกรรม และการถ่ายทอดความรู้ เหตุการณ์เหล่านี้จึงเป็นส่วนสำคัญในการกำหนดอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับการเกษตรทั่วโลก

 

ผู้สนใจเข้าชมงาน สามารถลงทะเบียนตอนนี้เพื่อเข้าร่วมการรวมตัวของผู้เชี่ยวชาญด้านการเกษตรและพืชสวนที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย และเป็นส่วนหนึ่งของการกำหนดอนาคตของการเกษตร สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนล่วงหน้ามีสิทธิลุ้นรับรางวัลมากมาย และจับจองที่นั่งในงานสัมมนาก่อนใครโดยไม่มีค่าใช้จ่าย แต่สำหรับการลงทะเบียนหน้างานจะมีค่าใช้จ่ายในการเข้าชมงาน