เมื่อ : 09 ก.ค. 2566 , 202 Views
ครั้งแรกของ Dyson กับเครื่องดูดฝุ่นแบบถูพื้นได้ Dyson V12s Detect Slim SubmarineTM  ทำได้ทั้งดูดฝุ่นและถูพื้น ครบ จบ ในเครื่องเดียว

มาพร้อมกับเทคโนโลยีดั้งเดิมในเครื่องดูดฝุ่นของ Dyson ทั้งเลเซอร์ตรวจจับฝุ่นและเทคโนโลยีดูดจับเส้นผมโดยไม่พันกัน เสริมพลังด้วยเทคโนโลยีการทำความสะอาดด้วยน้ำ ดูดจับ และคัดแยกสิ่งสกปรก ที่มาในหัวดูดลูกกลิ้งแบบเปียก ทำให้ Dyson V12s Detect Slim SubmarineTM ทำได้ทั้งดูดฝุ่นและถูพื้นอย่างมีประสิทธิภาพ

 

กรุงเทพฯ 7 กรกฎาคม 2566 - Dyson เปิดตัวผลิตภัณฑ์เครื่องดูดฝุ่นไร้สายแบบทำได้ทั้งดูดฝุ่นและถูพื้นเครื่องแรกในประเทศไทย Dyson V12s Detect Slim Submarine เครื่องดูดฝุ่นที่สามารถถูพื้นได้ พัฒนาโดยทีมวิศวกรของ Dyson เพื่อทางเลือกที่ดีกว่าในการทำความสะอาดบ้าน เครื่องดูดฝุ่นรุ่นใหม่ล่าสุดนี้ สามารถดูดจับฝุ่นบนพื้นแข็งได้ทุกรูปแบบ ด้วยการทำงานทั้งแบบเปียกและแบบแห้ง ให้ผู้ใช้งานสะดวกสบายด้วยฟังก์ชันที่หลากหลาย เพื่อทั้งกำจัดฝุ่นและจัดการคราบของเหลวได้หลากหลายสถานการณ์ ครบ จบ ในเครื่องเดียว

 

เผยโฉมหัวดูดลูกกลิ้งแบบเปียก ครั้งแรกของ Dyson ใน Dyson Submarine™

 

หัวดูดลูกกลิ้งแบบเปียก Dyson Submarine™ ได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมที่แม่นยำเพื่อทำความสะอาดด้วยน้ำที่หยดลงบนลูกกลิ้งเพื่อขจัดสิ่งสกปรก คราบฝังแน่น และเศษขยะชิ้นเล็กอย่างเศษอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

การผสานระหว่างเทคโนโลยีการทำความสะอาดด้วยน้ำ ระบบดูดจับ และระบบคัดแยกสิ่งสกปรก ทำให้ Dyson Submarine™ ยกระดับการกำจัดคราบสกปรกเพื่อพื้นที่สะอาดได้โดยไม่เปียกชุ่มจากน้ำมากเกินไป วิศวกรของ Dyson ได้ออกแบบระบบทำความสะอาดด้วยน้ำ โดยใช้ช่องแรงดันเพื่อให้น้ำหยดทั่วลูกกลิ้งอย่างทั่วถึงและสม่ำเสมอทำให้ตัวลูกกลิ้งชุ่มน้ำในระดับพอดี โดยจุดหยดน้ำทั้ง 8 จุด ที่อยู่ตลอดแนวลูกกลิ้งจะทำหน้าที่ปล่อยน้ำ 18 มิลลิลิตรในทุก ๆ 1 นาที เพื่อทำความสะอาดพื้นและป้องกันไม่ให้พื้นเปียกจนเกินไปหลังการทำความสะอาด

 

ลูกกลิ้งมอเตอร์ไมโครไฟเบอร์สามารถกำจัดรอยเปื้อน คราบของเหลวแห้งกรัง และสิ่งสกปรกชิ้นเล็ก โดยแผ่นเพลทด้านในจะแยกน้ำที่ปนเปื้อนกับสิ่งสกปรกออกจากหัวลูกกลิ้งและทิ้งน้ำนั้นลงในถังน้ำเสียที่แยกออกต่างหากเพื่อให้เททิ้งได้ง่าย

 

ในส่วนของถังบรรจุน้ำสะอาดขนาด 300 มิลลิลิตร สามารถใช้ทำความสะอาดพื้นได้ถึง 110 ตร.ม. ขณะที่ถังเก็บน้ำสกปรกมีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อยที่ 360 มิลลิลิตร ช่วยให้ผู้ใช้มั่นใจได้ว่าฝุ่นและเศษขยะจะไม่กลับไปอยู่บนพื้นอีก และลูกกลิ้งยังคงเปียกชุ่มด้วยน้ำสะอาดเพื่อการทำความสะอาดที่ทรงประสิทธิภาพตั้งแต่เปิดเครื่องจนปิดเครื่อง

 

หัวดูดลูกกลิ้งแบบเปียก Dyson Submarine™ ออกแบบมาเพื่อการทำความสะอาดที่หมดจดในทุกซอกมุม โดยสามารถกำจัดฝุ่นผง คราบสกปรก และเศษขยะชิ้นเล็กที่อยู่ลึกใต้เฟอร์นิเจอร์หรือจุดที่เข้าถึงยากได้อย่างง่ายดาย

 

ชาร์ลี พาร์ค รองประธานฝ่ายวิจัยและพัฒนาด้านเทคโนโลยีการทำความสะอาดพื้นของ Dyson กล่าวว่า

 

“วิธีทำความสะอาดบ้านด้วยการถูพื้นมักมาพร้อมปัญหาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นความคล่องตัวขณะทำความสะอาด การเก็บรักษา และประสิทธิภาพการใช้งาน แต่เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของเราสามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างง่ายดายด้วยเครื่องดูดฝุ่นมัลติฟังก์ชันขนาดกะทัดรัดทรงพลัง แถมยังมอบประสบการณ์การทำความสะอาดที่ล้ำขึ้นไปอีกขั้นให้แก่ผู้ใช้งาน

 

โดยการเปิดตัว Dyson V12s Detect Slim Submarine™ เครื่องดูดฝุ่นแบบเปียกและแบบแห้งครบวงจรเครื่องแรกของเรา เป็นก้าวสำคัญของ Dyson ที่จะเพิ่มความสะดวกสบายให้ชีวิตประจำวัน และให้บ้านของผู้ใช้งานสะอาดและถูกสุขลักษณะยิ่งขึ้น นับเป็นครั้งแรกที่เรานำเทคโนโลยีเลเซอร์ดักจับฝุ่น การตรวจจับฝุ่นด้วยเซ็นเซอร์ เข้ามารวมกับเทคโนโลยีการป้องกันการพันกันของเส้นผมและขนสัตว์เลี้ยง ควบคู่ไปกับหัวลูกกลิ้งแบบเปียกใหม่ทรงพลังเพื่อการทำความสะอาดอย่างครบวงจร”

 

หัวดูดทำความสะอาด Fluffy OpticTM

เทคโนโลยีเลเซอร์ดักจับฝุ่นของ Dyson เปิดตัวครั้งแรกในปี 2564 และได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อตรวจจับอนุภาคขนาดเล็กและฝุ่นขนาดจิ๋วที่โดยปกติไม่สามารถมองไม่เห็นได้ด้วยตาเปล่า โดยการใช้เลเซอร์ที่อยู่ในตำแหน่งปลายหัวทำความสะอาด เลเซอร์ที่ทำมุมอย่างเหมาะเจาะเผยให้เห็นฝุ่นที่มองไม่เห็นบนพื้น การทำความสะอาดจึงทำได้อย่างหมดจดและง่ายดาย

 

 

เทคโนโลยี Acoustic Dust Sensing อัจฉริยะ

เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson V12s Detect Slim Submarine™ มาพร้อมเทคโนโลยี Acoustic Dust Sensing เผยให้เห็นขนาดและจำนวนของอนุภาคขนาดเล็กบนหน้าจอแสดงผล LCD พร้อมข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ว่าสามารถทำความสะอาดได้อย่างหมดจดแบบเรียลไทม์ โดยนับและวัดอนุภาคของฝุ่นละอองที่เล็กจนมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น ด้วยเซ็นเซอร์เพียโซ (Piezo Sensor) ที่ช่วยเพิ่มพลังดูดสิ่งสกปรกตามพื้นผิวต่าง ๆ และปริมาณฝุ่นได้โดยอัตโนมัติ[1]

 

แรงดูดอันทรงพลัง

มอเตอร์ Dyson Hyperdymium™ คิดค้นโดย Dyson และถูกพัฒนาให้หมุนด้วยความเร็วสูงสุด 125000 รอบต่อนาที 
สร้างแรงดูดอันทรงพลัง 150 วัตต์[2] โดยเมื่อเปลี่ยนเป็นหัวดูดลูกกลิ้งแบบเปียก Dyson Submarine™ เรียบร้อยแล้ว ระบบของมอเตอร์ Dyson Hyperdymium™ จะหยุดทำงานอัตโนมัติเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าสู่มอเตอร์และช่วยให้แน่ใจว่าน้ำและสิ่งสกปรกที่ปนเปื้อนจะถูกเก็บไว้ภายในถาดน้ำเสียบริเวณหัวลูกกลิ้งแบบเปียก

 

ระบบการกรอง

ระบบการกรอง HEPA ของ Dyson ดักจับอนุภาคขนาดเล็กถึง 0.1 ไมครอน ได้ 99.99% ช่วยกระจายอากาศที่สะอาดยิ่งขึ้น ควบคู่กับเทคโนโลยีไซโคลนของ Dyson ซึ่งมีประสิทธิภาพในการแยกฝุ่นและสิ่งสกปรกออกจากพื้นได้อย่างชาญฉลาด 
และปิดผนึกตัวเครื่องอย่างแน่นหนาไม่ให้ฝุ่นรั่วไหลกลับเข้าไปในบ้านของผู้ใช้งาน

 

หัวดูดทำความสะอาด Hair Screw Tool

นอกจาก ‘หัวดูดทำความสะอาดแบบ 2 in 1’ และ ‘หัวดูดทำความสะอาดแบบปากแคบ’ แล้ว Dyson V12s Detect Slim Submarine™ ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีป้องกันเส้นผมพันกันด้วยมอเตอร์ในหัวดูดเก็บเส้นผมของ Dyson เพื่อการดูดเส้นผมและขนสัตว์เลี้ยงได้อย่างง่ายดาย แถบแปรงทรงกรวยและขนแปรงทำมุมที่ออกแบบมาอย่างแม่นยำเพื่อป้องกันไม่ให้เส้นผมพันรอบแกนดูด ช่วย “ดูด” เส้นผมลงมาตามแท่งแปรงอย่างง่ายดาย และสามารถม้วนเส้นผมให้หลุดออกไปที่ถังเก็บฝุ่นได้รวดเร็ว

 

ในขณะที่หัวดูดทำความสะอาดของ Dyson V12s Detect Slim Submarine™ ช่วยให้การกำจัดเศษขยะอนุภาคขนาดใหญ่ภายในบ้านเป็นไปได้อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว หัวดูดทำความสะอาด Hair Screw Tool ถูกคิดค้นเพื่อครอบคลุมการทำความสะอาดอย่างล้ำลึก ช่วยในการดูดจับฝุ่นออกจากบริเวณที่มักมองไม่เห็น เข้าถึงได้ทุกองศา ไม่ว่าจะใต้ที่นอนหรือใต้โซฟา เพื่อบ้านที่สะอาดและมีสุขอนามัยที่ดียิ่งขึ้นของทุกคน

 

*เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson V12s Detect Slim Submarine™ เริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 7 กรกฎาคม 2566 เป็นต้นไป ในราคาเริ่มต้น 33900 บาท ที่ www.dyson.co.th หรือร้าน Dyson Demo สาขาเมกาบางนา เซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลลาดพร้าว ไอคอนสยาม และสยามพารากอน


[1] แม่นยำที่สุดในโหมด Auto คุณสมบัติเพิ่มแรงดูดอัตโนมัติมีเฉพาะในโหมด Auto เท่านั้น การทดสอบอิงตามการใช้งานโดยเฉลี่ยภายในบ้านตามข้อมูลการทดสอบภายในของ Dyson คำนิยามของฝุ่นละอองขนาดเล็กคืออนุภาคที่เล็กกว่า 100 ไมครอน

[2] ผ่านการทดสอบการดูดฝุ่นตามมาตรฐาน IEC62885-4 วรรคที่ 5.8 และ 5.9 โดยดูดฝุ่นจนเต็มถังในโหมด Boost