ฮอนด้า ประกาศราคาอย่างเป็นทางการและเปิดจำหน่าย “เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่”
เมื่อ : 21 พ.ย. 2564 ,
1088 Views
ฮอนด้า ประกาศราคาอย่างเป็นทางการและเปิดจำหน่าย “เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่”
มาพร้อมขุมพลังฟูลไฮบริด e:HEV และ Honda SENSING ทุกรุ่นย่อย
ราคาเริ่มต้น 979,000 บาท
ตั้งเป้าครองตำแหน่งผู้นำตลาดเอสยูวีในประเทศไทย
มาพร้อมขุมพลังฟูลไฮบริด e:HEV และ Honda SENSING ทุกรุ่นย่อย
ราคาเริ่มต้น 979,000 บาท
ตั้งเป้าครองตำแหน่งผู้นำตลาดเอสยูวีในประเทศไทย
• เสริมทัพความแข็งแกร่งไลน์อัป e:HEV ของฮอนด้าเพิ่มอีกรุ่น เดินหน้าเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ไฮบริด (HEV: Hybrid Electric Vehicle) ในกลุ่มรถยนต์นั่งส่วนบุคคลในประเทศไทย พร้อมตั้งเป้าครองตำแหน่งผู้นำตลาดเอสยูวีในประเทศไทย
• พร้อมเป็นเอสยูวีสำหรับทุกคน ด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ซึ่งทุกรุ่นย่อยมาพร้อมระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV มอบแรงบิดสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร ประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 25.6 กม./ลิตร และเทคโนโลยี ความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING
• เสริมความมั่นใจด้วยการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง** อีกทั้งแคมเปญพิเศษด้านการบริการอื่นๆ** อาทิ โปรแกรมการให้บริการพิเศษด้านคุณภาพรถยนต์ ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ พร้อมด้วยบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง และฟรีค่าแรงในการเช็กระยะเป็นเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร
(กรุงเทพฯ – 19 พฤศจิกายน 2564) บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศราคาพร้อมเปิดจำหน่าย ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ อย่างเป็นทางการ โดยรุ่น e:HEV E ราคา 979,000 บาท รุ่น e:HEV EL ราคา 1,079,000 บาท และรุ่น e:HEV RS ราคา 1,179,000 บาท ตั้งเป้าขึ้นเป็นอันดับ 1 ของตลาดเอสยูวีในประเทศไทย ตอกย้ำการเป็นยนตรกรรมสปอร์ตพรีเมียมเอสยูวีสำหรับทุกคน อย่างแท้จริง ด้วยเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV และเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ทั้งไลน์อัป มาพร้อมดีไซน์ใหม่ทั้งภายนอกและภายในที่ผสานเอกลักษณ์ความสปอร์ตโดดเด่นเข้ากับความอเนกประสงค์ไว้ได้อย่างลงตัว ตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายด้วยเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกและฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน เสริมความมั่นใจยิ่งขึ้นด้วยการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปีและรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง** อีกทั้งแคมเปญพิเศษด้านการบริการอื่นๆ** อาทิ โปรแกรมการให้บริการพิเศษด้านคุณภาพรถยนต์ ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ (Honda Ultimate Care) ขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่โดยเพิ่มระยะเวลาอีก 2 ปี หรือระยะทาง 40,000 กิโลเมตร พร้อมด้วยบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง อีกทั้งฟรีค่าแรงในการเช็กระยะเป็นเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร พร้อมเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้สัมผัสกับ ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ เป็นครั้งแรกได้ที่ลานโปรโมชัน ชั้น G ณ ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ ระหว่างวันที่ 19 – 20 พฤศจิกายน 2564 นี้ และสัมผัสได้ที่งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 38 (Motor Expo 2021) ตั้งแต่วันที่ 2 – 12 ธันวาคม 2564 และที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2564 เป็นต้นไป**
นายโนริยุกิ ทาคาคุระ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ฮอนด้า เอชอาร์-วี นับเป็นรถยนต์ที่ลูกค้ารอคอยและให้ความสนใจ อีกทั้งประสบความสำเร็จด้านยอดขายในตลาดเอสยูวีมาอย่างต่อเนื่อง โดยนับตั้งแต่การเปิดตัว ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ก็ได้รับกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยมด้วยยอดการจองสิทธิ์ประมาณ 2,500 คัน ภายในระยะเวลาเพียง 2 สัปดาห์ ในวันนี้หลังจากการเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ จะมีส่วนช่วยกระตุ้นตลาดรถยนต์ในภาพรวมที่กำลังฟื้นตัวให้กลับมาคึกคักยิ่งขึ้น และจะสามารถสร้างมิติใหม่ให้กับตลาดเอสยูวีในประเทศไทยได้อีกครั้ง อีกทั้งจะช่วยให้ฮอนด้าก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำในตลาดเอสยูวีของประเทศไทย ในฐานะของการเป็นเอสยูวีสำหรับทุกคน ด้วยการนำเสนอเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ทั้งด้านระบบขับเคลื่อนและด้านความปลอดภัย ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้อย่างแท้จริง พร้อมตั้งเป้าจำหน่าย 20,000 คัน ภายในหนึ่งปีนับจากเปิดตัว”
โดยราคาจำหน่าย ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ ทั้ง 3 รุ่นย่อย ได้แก่
- • รุ่น e:HEV RS ราคา 1,179,000 บาท
• รุ่น e:HEV EL ราคา 1,079,000 บาท
• รุ่น e:HEV E ราคา 979,000 บาท
ทั้งนี้ สำหรับลูกค้าที่ลงทะเบียนจองสิทธิ์ ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ ระหว่างวันที่ 5 พฤศจิกายน 2564 ตั้งแต่เวลา 11.00 น. – วันที่ 18 พฤศจิกายน 2564 เวลา 19.00 น. จะต้องทำการจองและรับรถตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายน 2564 – 31 ธันวาคม 2564** เพื่อรับฟรีชุดอุปกรณ์ตกแต่ง Utility Package ประกอบด้วยกระบะใส่ของท้ายรถ มูลค่า 1,100 บาท และแผ่นกันรอยเบาะพนักพิงหลัง มูลค่า 1,700 บาท รวมมูลค่า 2,800 บาท
ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ มาพร้อมดีไซน์สปอร์ตพรีเมียมสไตล์เอสยูวี โดดเด่นด้วยตัวถังในสไตล์ Fastback มาพร้อมระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่ผสานการทำงานอันทรงพลังร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลัง ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร และประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 25.6 กม./ลิตร และมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 94 กรัม/กิโลเมตร โดยระบบสามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้อย่างชาญฉลาด เหมาะสมกับการขับขี่ในทุกสถานการณ์ถึง 3 โหมด ได้แก่ โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode) พร้อมทั้งยังสามารถเลือกโหมดการขับขี่
ได้อย่างง่ายดายตามความต้องการผ่านสวิตซ์ฟังก์ชัน Drive Mode 3 โหมด ได้แก่ โหมดการขับขี่แบบประหยัด (ECON Mode) โหมดการขับขี่แบบปกติ (Normal Mode) และ โหมดการขับขี่แบบสปอร์ต (Sport Mode)
เสริมความมั่นใจในการขับขี่ ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ ด้วยการมอบแคมเปญพิเศษด้านการบริการ
หลังการขาย** ได้แก่
• ฟรีค่าแรงในการเช็กระยะเป็นเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
• โปรแกรมการให้บริการพิเศษด้านคุณภาพรถยนต์ ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ (Honda Ultimate Care) ขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่โดยเพิ่มระยะเวลาอีก 2 ปี หรือระยะทาง 40,000 กิโลเมตร ต่อจากระยะเวลาหรือระยะทางการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่ 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตรแรกสิ้นสุดลง รวมสูงสุด 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง (Honda 24hr Roadside Assistance)
โดยทุกรุ่นย่อย มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ที่ทำงานร่วมกับกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์และคนเดินถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งประกอบไปด้วยฟังก์ชันการทำงานหลักๆ ดังนี้
- • ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
• ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
• ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
• ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
• ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง สะดวกสบายในทุกที่นั่ง ครบครันด้วยฟังก์ชันการใช้งานและคงอรรถประโยชน์สไตล์เอสยูวีไว้ได้อย่างดีเยี่ยม โดดเด่นด้วยระบบปรับอากาศอัตโนมัติ (Automatic Air Conditioning) ที่มาพร้อมระบบ Air Diffusion System ที่สามารถมอบทิศทางลมที่หมุนเวียนอย่างมีประสิทธิภาพ กระจายลมได้
อย่างเหมาะสมทั่วถึงทั้งห้องโดยสาร พร้อมด้วยช่องปรับอากาศตอนหลัง (รุ่น e:HEV EL และรุ่น e:HEV RS) โดยมาพร้อมห้องสัมภาระท้ายขนาดใหญ่และเบาะนั่งด้านหลังแบบอเนกประสงค์แยกพับแบบ 60:40 ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ 3 รูปแบบ อันเป็นเอกลักษณ์ของฮอนด้าได้แก่
• Long Mode: เบาะด้านหน้าและด้านหลังปรับพับ เพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวยาว
• Tall Mode:<