เมื่อ : 08 เม.ย. 2566 , 377 Views
อโกด้า เผยขอนแก่นเป็นจุดหมายปลายทางราคาย่อมเยาที่สุด ในเดือนเมษา’66

อโกด้าช่วยนักล่าดีลด้วยการเปิดเผยจุดหมายปลายทางที่ถูกที่สุดในช่วงเดือนเมษายน

 

กรุงเทพฯ ประเทศไทย – 4 เมษายน พ.ศ. 2566 – สำหรับวันหยุดยาวเดือนเมษาที่เหล่านักท่องเที่ยวทั่วเอเชียและออสเตรเลียตั้งตารอกำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า อโกด้า แพลตฟอร์มดิจิทัลสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวระดับโลก เอาใจนักท่องเที่ยวสายประหยัดโดยได้คำนวณตัวเลขพร้อมเปิดสถานที่ท่องเที่ยวที่ถูกที่สุดในประเทศไทย และเป็นจังหวัดขอนแก่นที่คว้าอันดับ 1 ไป เพื่อให้นักเดินทางเพลิดเพลินไปกับห้องพักราคาย่อมเยาในช่วงวันหยุดยาวที่มีการแข่งขันสูงที่สุดในเดือนนี้

 

จุดหมายสูงสุดของอโกด้า คือการทำให้นักท่องเที่ยวได้รับข้อเสนอที่ดีและคุ้มค่าที่สุดท่ามกลางช่วงเวลาที่เรทราคามีการแข่งขันสูง โดยแพลตฟอร์มการเดินทางดิจิทัลได้วิเคราะห์ราคาเฉลี่ยห้องพักของสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยภายในช่วงเดือนเมษายน ซึ่งข้อมูลแสดงผลเป็นจังหวัดขอนแก่นที่มีข้อเสนอห้องพักราคาย่อมเยามากที่สุด ด้วยราคาเฉลี่ยเพียงคืนละ 1030 บาท และนอกจากขอนแก่นแล้ว ยังมีอีก 5 จังหวัดที่มีข้อเสนอห้องพักสุดคุ้มซึ่งได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครราชสีมา อุดรธานี และหาดใหญ่ ตามลำดับ

 

และเมื่อพูดถึงจุดหมายปลายทางที่มีค่าที่พักเฉลี่ยถูกที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกแล้ว มีถึง 9 จุดหมายปลายทางด้วยกัน ซึ่งได้แก่ Sibu ในมาเลเซีย Surakarta ในอินโดนีเซีย Puri ในอินเดีย Bacolod ในฟิลิปปินส์ Ninh Binh ในเวียดนาม Chiba ในประเทศญี่ปุ่น Gwangju ในเกาหลีใต้ หมู่เกาะ Kinmen ในไต้หวัน และ Brisben ในออสเตรเลีย

 

คุณพีรพล สง่าเมือง ผู้อำนวยการประจำประเทศไทย อโกด้า กล่าวว่า “การท่องเที่ยวในช่วงต้นปี 2023 ดำเนินไปได้ด้วยดี นอกจากนี้วันหยุดนักขัตฤกษ์ก็กำลังใกล้เข้ามาในอีกหลายภูมิภาค ทำให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากเริ่มมองหาการพักผ่อนที่คู่ควรกับช่วงเวลาหยุดยาว แต่ในขณะที่ค่าครองชีพทั่วโลกมีเกณฑ์ที่สูงขึ้น ทำให้ทุกคนต้องใช้จ่ายอย่างชาญฉลาดมากขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน เราจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผลสำรวจและข้อเสนอสุดคุ้มจากอโกด้าจะช่วยให้นักท่องเที่ยวออกเดินทางไปยังจุดหมายที่น่าตื่นเต้นและสามารถประหยัดเงินไปได้ในเวลาเดียวกัน”

 

และแม้จะเป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับผลสำรวจว่ามีราคาต่ำที่สุด แต่ก็มี Hidden gems หลายแห่งที่น่าสนใจให้ไปเยือน พร้อมทั้งข้อเสนอสุดคุ้มค่าอีกมากมาย โดยมีตั้งแต่ชายหาดที่เต็มไปด้วยผู้คน หรือสวนสนุกธีมพาร์คสุดหวาดเสียว ไปจนถึงวัดวาอารามและสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ อีกทั้งแหล่งรวมย่านอาหารอร่อย ซึ่งอโกด้าได้รวมรวมไฮไลท์บางส่วนจากทั้ง 10 จุดหมายปลายทางที่ถูกที่สุดมาไว้ให้แล้ว

 

1. ขอนแก่น ประเทศไทย (ราคาห้องพักเฉลี่ยต่อคืน: 1030 บาท)

ขอนแก่นอาจได้รับสมญานามว่าเป็นดินแดนไดโนเสาร์ของประเทศไทย หากแต่เป็นเมืองที่ทันสมัยด้วยความที่เป็นเมืองมหาวิทยาลัยเลยมีคาเฟ่อินเทรนด์ตั้งอยู่มากมาย ทั้งทะเลสาบประจำเมืองที่จัดงานเทศกาลตลอดปี ตลาดโต้รุ่งต้นตาลที่เป็นแหล่งรวมสตรีทฟู้ด พร้อมโชว์ดนตรีสด และอื่น ๆ อีกมากมาย จังหวัดขอนแก่นยังเป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การสำรวจประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นการขุดหาสมบัติจูราสสิค หรือการไปทำบุญที่วัดถ้ำแสงบนยอดเขาอันสวยงาม

 

หากวางแผนจะไปเที่ยวขอนแก่นในเดือนเมษายน ก็อย่าลืมที่จะนำลูกโป่งน้ำและปืนฉีดน้ำพกติดตัวมาด้วย เพราะขอนแก่นเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่จัดงานสงกรานต์ (ปีใหม่ไทย) ได้ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเทศกาลสงกรานต์ตั้งแต่วันที่ 13-15 เมษายน ซึ่งนักท่องเที่ยวจะสามารถเยี่ยมชมบึงแก่นนครไปพร้อม ๆ กับการเล่นสาดน้ำกันอย่างสนุกสนานในงานเทศกาลอันน่าตื่นตาตื่นใจที่สุดงานหนึ่งของเอเชีย

 

สนามบินทั้งสองแห่งของกรุงเทพฯ มีบริการเที่ยวบินสำหรับเดินทางไปยังจังหวัดขอนแก่นทุกวัน และยังมีราคาอันแสนย่อมเยาอีกด้วย โดยตั๋วเที่ยวเดียวที่มีจำหน่ายในช่วงเดือนเมษายน จะมีราคาเริ่มต้นต่ำกว่า 750 บาท (หรือประมาณ 22 ดอลล่าร์สหรัฐ) โดยสามารถตรวจสอบราคาได้ที่ www.agoda.com/flights 

 

2. ซีบุ ประเทศมาเลเซีย (ราคาห้องพักเฉลี่ยต่อคืน: 1170 บาท)

เมืองซีบุ ตั้งอยู่ในรัฐ Sarawak บนเกาะบอร์เนียวอันเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ที่มักถูกมองข้าม แท้ที่จริงแล้วเป็นดินแดนที่เปี่ยมไปด้วยมรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม อีกทั้งยังสามารถดื่มด่ำไปกับอาหารที่แสนมีชีวิตชีวา และประเพณีโบราณของวัด Tua Pek Kong นอกจากนี้ยังเปรียบเหมือนสวรรค์สำหรับสายอนุรักษ์ที่สามารถชื่นชมความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ เช่น เขตอนุรักษ์ Bukit Lima สวนทะเลสาบ Sibu และเส้นทางมรดก Sungai Merah

 

เช่นเดียวกันกับจุดหมายปลายทางอื่น ๆ ในมาเลเซีย เมืองซีบุเป็นแหล่งที่รวบรวมร้านอาหารไว้มากมาย โดยมีตั้งแต่ร้านโกปี๊เตี้ยมหรือร้านกาแฟสไตล์เก่าแก่ ที่พบเจอได้ตามท้องถิ่น ไปจนถึงตลาดกลางคืนเมืองซีบุ และเมนูเด็ดที่พลาดไม่ได้เลยคือ Mee Sua (บะหมี่รสเลิศในซุปสมุนไพรเข้มข้น) และบะหมี่ Kampua หรือ Kompia (บะหมี่เส้นแบนรับประทานพร้อมเนื้อสัตว์ตามใจชอบ) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเมนูยอดนิยมที่ต้องลิ้มลอง

 

เริ่มออกเดินทางและไปสำรวจอัญมณีแห่งซีบุในรราคาย่อมเยาด้วยตัวเอง และอย่าลืมที่จะแวะซื้อของฝากที่ระลึกเพื่อคนที่คุณรักจากตลาดซีบุเซ็นทรัล

 

3. สุราการ์ตา (หรืออีกชื่อ โซโล) ประเทศอินโดนีเซีย (ราคาห้องพักเฉลี่ยต่อคืน: 1265 บาท)

ในอดีตสุราการ์ตาเคยเป็นศูนย์กลางอำนาจในชวากลาง ในปีค.ศ. 1745 ศาลมาตารัมถูกย้ายจากยอกยาการ์ตามาที่นี่ และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาสุราการ์ตาก็ค่อย ๆ สร้างชื่อของตัวเองขึ้นในฐานะศูนย์กลางทางวัฒนธรรม ซึ่งมีความหลากหลาย เช่น ระบำโซโลเนเซ การเชิดหุ่นกระบอกวายัง และผ้าบาติกทำมือ ผู้คนเมืองนี้ภาคภูมิใจในประเพณีทางศิลปะที่สวยงาม และละเอียดลออของตัวเอง สุราการ์ตาเป็นที่สนใจของคนทั่วไปมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นบ้านเกิดของประธานาธิบดีโจโค “โจโกวี” วิโดโด

 

ใคร ๆ ก็สามารถเพลิดเพลินกับการนั่งรถสามล้อชมเมืองเก่าได้ แต่สำหรับใครที่ชื่นชอบดนตรีพื้นบ้าน สุราการ์ตาถือว่าเป็นเมืองที่น่าไปมาก โดยปกติแล้วแต่ละปีที่นี่จะมีงานใหญ่จัดขึ้น 2 งาน ได้แก่ Solo Menari (แปลว่า การเต้นรำเดี่ยว) ซึ่งเป็นงานฉลองวันเต้นรำโลกในวันที่ 29 เมษายน ของทุกปี และ Solo Keroncong Festival ซึ่งเป็นงานส่งเสริมดนตรีพื้นบ้านดั้งเดิมที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองประจำปี ช่วงวันที่ 22-23 กรกฎาคม

 

4. ปูรี ประเทศอินเดีย (ราคาห้องพักเฉลี่ยต่อคืน: 1310 บาท)

ปูรีเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศอินเดีย และเป็นที่รู้จักในฐานะ 1 ใน 4 สถานที่จาริกแสวงบุญอันศักดิ์สิทธิ์ของประเทศ ซึ่งเรียกว่า "ชาร์ ดัมส์" มักมีผู้ศรัทธา ผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ และนักสำรวจเดินทางไปปูรีตลอดทั้งปี เมืองนี้จึงเปรียบเสมือนตัวแทนทางประวัติศาสตร์ของอินเดียที่ถ่ายทอดศิลปะวัฒนธรรมออกมาได้อย่างวิจิตรบรรจง ผ่านตัวละครในตำนาน และเรื่องราวบนงานหัตถกรรม

 

เมื่อไปถึงปูรีแล้วก็ไม่ควรพลาดอาหารอร่อย อย่าง ’มัลปัว’ และจานกุ้ง ’ชุงกี มาลัย’ นอกจากนี้ยังมีชายหาดสีทองของที่ได้รับการรับรองว่าเป็นหนึ่งในชายหาดที่สะอาดที่สุดในประเทศอินเดีย ถึงเวลาวางแผนไปเที่ยวปูรี เมืองที่ไม่แพง และเต็มไปด้วยศิลปะวัฒนธรรมแล้ว

 

5. บาโคลอด ประเทศฟิลิปปินส์ (ราคาห้องพักเฉลี่ยต่อคืน: 1620 บาท)

บาโคลอด ถูกขนานนามว่าเป็น ’เมืองแห่งรอยยิ้ม’ เพราะผู้คนในท้องถิ่นนั้นน่ารัก เป็นมิตร อีกทั้งรู้วิธีมอบประสบการณ์ด้านอาหารที่น่าประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยว

 

ร้านอาหาร Sharyn’s Cansi House ในเมืองนั้นขึ้นชื่อเรื่องอาหารแบบดั้งเดิมในภูมิภาคเนโกรส์ (ซึ่งเป็นที่ตั้งของบาโคลอด) จันดี คือซุปที่ทำจากเนื้อส่วนขาและไขกระดูก ซึ่งมักจะราดด้วย Batuan ผลไม้รสเปรี้ยวที่คนในพื้นที่นิยมใช้ แต่ถ้าใครชอบทำอาหารด้วย ที่ Bong Bongs ก็มีเวิร์คช็อปทำจานอร่อยอย่าง ปี่ยา ขนมปังแบนไส้มัสโควาโดและน้ำเชื่อมกลูโคสสูตรของคนในพื้นที่ อีกหนึ่งจานที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ อินาซาลไก่ ของคนอิโลงโกที่โดดเด่นด้วยกลิ่นควัน ซึ่งมีขายในพื้นที่ที่มีร้านอาหารอยู่รวมกันเยอะ ๆ ชื่อ Manukan Country สุดท้ายจบทริปด้วยพายโคลนช็อกโกแลต ของหวานจานเด็ดของร้าน Calea

 

6. นิงห์บิงห์ ประเทศเวียดนาม (ราคาห้องพักเฉลี่ยต่อคืน: 1620 บาท)

ความงดงามของนิงห์บิงห์ทำให้ผู้ที่สัญจรผ่านไปมาต้องตกตะลึงเป็นเวลากว่าพันปีแล้วด้วยยอดเขาสูงตระหง่าน ทางน้ำที่เงียบสงบ วัดขนาดมหึมา และเจดีย์ที่มีเรื่องราวมากมาย นิงห์บิงห์อยู่ห่างจากกรุงฮานอยเพียง 1 ชั่วโมง

 

หลังจากถูกคัดเลือกให้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์ฟอร์มยักษ์ Kong เมืองที่ได้รับการคุ้มครองจากองค์การยูเนสโกแห่งนี้ก็ได้รับความสนใจมากขึ้นอย่างล้นหลามตาม ‘Great Wall of Vietnam’ พายเรือผ่านแม่น้ำที่ระยิบระยับ และเดินขึ้นบันได 500 ขั้น เข้าถ้ำมัวบนภูเขาอันสูงชัน

 

ทัศนียภาพอันสวยงามของที่นี่เปลี่ยนไปตลอดทั้งปี และการเดินทางไปนิงห์บิงห์ก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะมีบริษัทท่องเที่ยวฮานอยจำนวนมากที่มีทัวร์แบบกลุ่มทุกขนาดให้นักท่องเที่ยวเลือกซื้อในราคาทุกระดับ เพื่อไปสัมผัสเสน่ห์ของเวียดนาม

 

7. ชิบะ ประเทศญี่ปุ่น (ราคาห้องพักเฉลี่ยต่อคืน: 2375 บาท)

จังหวัดชิบะ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงโตเกียวเพียงไม่กี่สถานีรถไฟ มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายสำหรับผู้คนทุกวัย เช่น โตเกียวดิสนีย์แลนด์และดิสนีย์ซี และคาบสมุทรโบโซที่มีแนวชายฝั่ง ชายหาดสวยสะอาด รวมถึงป่าเขียวชอุ่ม เมืองชิบะเป็นเมืองหลวงของจังหวัด และเป็นศูนย์กลางความบันเทิง โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าไปอยู่มาก เช่น สวนริมทะเลมาคุฮาริ และอิออนมอลล์ มาคุฮาริ ชินโทชิน

 

หนึ่งในสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปจังหวัดชิบะคือนาริตะซัง ชินโชจิในเมืองนาริตะ วัดพุทธแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 10 โด่งดั่งด้านสถาปัตยกรรม งานแกะสลัก และสวนที่ทั้งสวยงามและประณีต

 

หลังจากท่องเที่ยว และอิ่มอร่อยกับอาหารท้องถิ่นมาทั้งวันแล้ว ก็ถึงเวลาผ่อนคลายได้ที่บ่อน้ำพุร้อน อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัด ชิบะเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับใครที่มองความงามทางธรรมชาติ มรดกทางวัฒนธรรม สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าตื่นเต้น และอาหารเลิศรสของประเทศญี่ปุ่น

 

สามารถไปดูบริการรถรับ-ส่ง ไป-กลับชิบะ และกิจกรรมในพื้นที่อื่น ๆ ได้ที่หน้ากิจกรรมของอโกด้า: https://www.agoda.com/activities/ 

 

8. กวางจู ประเทศเกาหลีใต้ (ราคาห้องพักเฉลี่ยต่อคืน: 3120 บาท)

กวางจูเป็นที่รู้จักในฐานะเมืองแห่งวัฒนธรรมและศิลปะ มีสถานที่และกิจกรรมทางวัฒนธรรม รวมถึงศิลปะที่หลากหลายตลอดปี เช่น ถนนทั้งเส้นที่อุทิศให้กับงานศิลปะ พิพิธภัณฑ์ Asia Art Center พิพิธภัณฑ์ Gwangju Museum of Art แกลเลอรีต่าง ๆ และร้านค้าวัตถุโบราณมากมาย ทั้งหมดนี้ทำให้กวางจูเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบศิลปะ การแสดง และโรงละคร

 

ฤดูใบไม้ผลินี้กวางจูยังมีจัด Gwangju Biennale ครั้งที่ 14 ซึ่งเป็นเทศกาลศิลปะที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในเอเชียด้วย ซึ่งจะจัดขึ้นทั่วเมืองตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน ถึง 9 กรกฎาคม ภายใต้ธีม "Soft and Weak Like Water"

 

9. หมู่เกาะจินเหมิน ไต้หวัน (ราคาห้องพักเฉลี่ยต่อคืน: 3223 บาท)

แม้จะไม่ค่อยมีใครรู้จักนัก แต่จินเหมินเป็นเกาะที่เต็มไปด้วยอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์และการทหาร แต่ที่สำคัญที่สุดที่ทำให้ไม่ควรพลาดคือปรากฏการณ์ ’Blue Tears’ สิ่งมีชีวิตเรืองแสงเป็นประกายสีน้ำเงินที่สามารถพบเห็นได้ตามชายฝั่ง

 

นอกจากอนุสรณ์เหล่านั้นแล้ว จินเหมินยังมีชื่อเสียงในเรื่อง Rock Oyster อีกด้วย และเหล่านักชิมก็โชคดีในเดือนนี้ เพราะตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน ถึง 21 พฤษภาคม จะมีการจัดงาน ’Rock Oyster and Wheat Cultural Festival’ ขึ้น ผู้เข้าชมต้องลองเก็บหอยนางรมจากฟาร์มและเข้าร่วมการแข่งขันแกะหอยนางรม สิ่งที่ดีที่สุดคือผู้เก็บสามารถนำหอยนางรมทั้งหมดที่แกะเปลือกติดตัวกลับไปด้วยได้ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม อย่าง การเที่ยวชมทุ่งข้าวสาลีด้วยรถยนต์ไฟฟ้า ทัวร์ฟาร์มหอยนางรมเชิงนิเวศ และกิจกรรมที่เหมาะสำหรับครอบครัวอีกมากมาย

 

10. บริสเบน ประเทศออสเตรเลีย (ราคาห้องพักเฉลี่ยต่อคืน: 4317 บาท)

บริสเบน เมืองหลวงแห่งรัฐควีนส์แลนด์ เป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศออสเตรเลีย เมืองริมแม่น้ำที่มีชีวิตชีวาแห่งนี้มีชื่อเสียงในด้านวิถีชีวิต และเป็นสถานที่เหมาะสำหรับการเพลิดเพลินกับกิจกรรมกลางแจ้ง มีทั้งสวนพฤกษศาสตร์ที่สวยงาม เขตรักษาพันธุ์สัตว์ และเขตวัฒนธรรม South Bank นอกจากนี้ยังมีแผงขายของช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ คาเฟ่และบาร์ และชายหาดเทียมที่สวยงามริมแม่น้ำ

 

บริสเบนอยู่ห่างจากชายหาดที่สะอาดสวยงามของรัฐควีนส์แลนด์ไม่นาน เพียงขับรถไม่กี่นาทีก็จะได้สัมผัสทั้งคลื่น หาดทราย และแสงแดด บริสเบนไม่ได้เป็นเพียงสถานที่ท่องเที่ยวที่มีราคาย่อมเยาที่สุดในออสเตรเลียเท่านั้น แต่ยังเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีเสน่ห์น่าหลงใหลมากที่สุดด้วย

 

นอกจากการเผยจุดหมายปลายทางที่ราคาย่อมเยาที่สุดให้แล้ว อโกด้ายังช่วยให้นักท่องเที่ยวได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่าที่สุด ด้วยฟีเจอร์อีกมากมาย เช่น Price Freeze Price Alerts ส่วนลดแบบกลุ่ม ดีลรายวัน และ อื่นๆ ช่วยให้ผู้คนออกไปท่องเที่ยวได้มากขึ้นโดยจ่ายน้อยลง