ผลวิจัยตลาดของออราเคิลชี้ 97% ของวิสาหกิจในเอเชียแปซิฟิกที่ใช้ Public Cloud เลือกผู้ให้บริการที่มีโครงสร้างพื้นฐานแบบมัลติคลาวด์ (a Multicloud Infrastructure Provider Strategy)
ผู้บริหารด้านไอทีขององค์กรชั้นนำส่วนใหญ่เลือกใช้ผู้ให้บริการแบบมัลติคลาวด์
เพราะช่วยลดต้นทุนและควบคุมข้อมูลได้ดีกว่า
กรุงเทพฯ 4 เมษายน 2566 – 451 Research องค์กรวิจัยภายใต้ S&P Global Market Intelligence ซึ่งดำเนินงานโดยออราเคิล ชี้ว่าลูกค้าวิสาหกิจต่างต้องการผู้ให้บริการแบบ Multiple Cloud เพื่อตอบโจทย์ความต้องการระดับองค์กร ซึ่งทำให้มัลติคลาวด์คือสภาพความเป็นจริงของเทคโนโลยีระดับองค์กรของวันนี้ งานวิจัยรวบรวมข้อมูลจากผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 1500 รายในองค์กรวิสาหกิจ ซึ่งบอกเล่าถึงแนวทางการใช้งานคลาวด์ขององค์กร พบว่าเกือบทั้งหมดต่างเลือกใช้ระบบมัลติคลาวด์ (ผู้สนใจสามารถดูรายงานฉบับเต็มได้ที่นี่)
การใช้คลาวด์เริ่มกลายเป็นสิ่งเดียวกับการสร้างความคล่องตัวและประสิทธิภาพทางธุรกิจสำหรับองค์กร แม้เราจะเคยเห็นเทรนด์นี้เกิดขึ้นบ้างแล้วในอดีต แต่ผู้ตอบแบบสอบถามมากกว่า 90% ในเอเชียแปซิฟิกต่างเห็นพ้องว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นตัวกระตุ้นสำคัญที่ทำให้องค์กรต่าง ๆ หันมาสนใจและลงทุนกับเทคโนโลยีคลาวด์อย่างมหาศาล เมื่อองค์กรต่าง ๆ ต้องเผชิญกับความท้าทายใหม่ ๆ อาทิ การเพิ่มขึ้นของการทำงานและการร่วมมือระหว่างพันธมิตรและคู่ค้าธุรกิจทางไกล พวกเขาจึงเลือกใช้ระบบมัลติคลาวด์ เพื่อสร้างความยืดหยุ่นและการปรับขนาดการใช้งานให้ตอบรับกับสภาพความเป็นจริงใหม่นี้
“แนวคิดการให้บริการแบบจุดเดียวเบ็ดเสร็จได้หมดไปจากการมาถึงของระบบคลาวด์ และมัลติคลาวด์คือสภาพการณ์ของเทคโนโลยีระดับวิสาหกิจในปัจจุบัน เพราะองค์กรต่าง ๆ ต้องการส่วนผสมที่ลงตัวของโซลูชั่นและความสามารถที่หลากหลายในการทำงานให้มีประสิทธิภาพ” เมลานี โพซีย์ ผู้อำนวยการงานวิจัย ฝ่าย Cloud & Managed Services Transformation แห่ง 451 Research กล่าว “วันนี้คือยุคของมัลติคลาวด์ องค์กรวิสาหกิจต่าง ๆ เลือกโมเดลนี้เพราะเป็นประโยชน์แก่ธุรกิจหลายประเภทและตอบโจทย์ความต้องการในการดำเนินงานด้านต่าง ๆ ทั้งความยืดหยุ่นฉับไวทางธุรกิจหรือการเข้าถึงเทคโนโลยีที่ดีที่สุดอยู่เสมอ”
ข้อมูลสำคัญที่ได้จากงานศึกษาครั้งนี้
การใช้คลาวด์เกือบทั้งหมดเป็นแบบมัลติคลาวด์
· 97% ขององค์กรวิสาหกิจในเอเชียแปซิฟิกที่ทำการสำรวจ กำลังใช้หรือวางแผนที่จะใช้ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์อย่างน้อย 2 ราย และ 35% กำลังใช้งาน 4 รายขึ้นไป
· 95% ของผู้ตอบแบบสอบถามในเอเชียแปซิฟิกรายงานว่า พวกเขากำลังใช้หรือวางแผนที่จะใช้ผู้ให้บริการแอปพลิเคชันระบบคลาวด์อย่างน้อย 2 ราย (Software-as-a-Service) โดยมากกว่า 48% ใช้แอปพลิเคชันระบบคลาวด์จากผู้ให้บริการ 5 รายขึ้นไป
· กลยุทธ์มัลติคลาวด์นี้ช่วยให้แผนกไอทีสามารถตอบสนองความต้องการด้านเทคโนโลยีในรูปแบบเฉพาะสำหรับทีมงานในแผนกต่าง ๆ ขององค์กรได้
อธิปไตยทางข้อมูลและการเพิ่มประสิทธิภาพต้นทุนขับเคลื่อนการใช้กลยุทธ์มัลติคลาวด์
· ตัวขับเคลื่อนสองอันดับแรกต่อกลยุทธ์มัลติคลาวด์ในองค์กร ได้แก่ อธิปไตยทางข้อมูล (44%) และการเพิ่มประสิทธิภาพต้นทุน (40%)
· ตัวขับเคลื่อนอื่น ๆ ของกลยุทธ์มัลติคลาวด์ ได้แก่ ความคล่องตัวทางธุรกิจและนวัตกรรม (32%) บริการและแอปพลิเคชันคลาวด์ที่ดีที่สุด (27%) และความวิตกกังวลในการล็อกอินของผู้ให้บริการคลาวด์ (26%)
· กลยุทธ์มัลติคลาวด์ช่วยให้องค์กรสามารถควบคุมสถานที่และวิธีการจัดเก็บ และใช้ข้อมูลของตนได้มากขึ้น ขณะเดียวกัน ยังช่วยให้มั่นใจได้ว่าธุรกิจต่าง ๆ สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายของการดำเนินการบนคลาวด์ได้ ผ่านการปรับเปลี่ยนรูปแบบบริการที่พวกเขาใช้จากผู้ให้บริการต่าง ๆ
องค์กรวิสาหกิจกำลังวางแผนกลยุทธ์มัลติคลาวด์เชิงรุกเพื่ออนาคต
· ความซ้ำซ้อนของข้อมูล (56%) เป็น use case ในอนาคตที่ถูกคาดการณ์ไว้มากที่สุด ตามด้วยการเคลื่อนย้ายข้อมูล (52%) และการเพิ่มประสิทธิภาพต้นทุนในคลาวด์สาธารณะ (45%)
· แผนกไอทียังวางแผนที่จะใช้กลยุทธ์มัลติคลาวด์เพื่อลดความเสี่ยงของฝ่ายไอทีในภาพรวม (41%) และการขยายขอบเขตหรือการนำเสนอบริการทั่วโลก (44%)
· ข้อเท็จจริงที่ว่าแผนกไอทีกำลังวางแผนกลยุทธ์มัลติคลาวด์แสดงให้เห็นว่าพวกเขามองว่ามัลติคลาวด์เป็นวิธีการตอบสนองความต้องการด้านเทคโนโลยีที่ดีกว่า ไม่ใช่เป็นแค่แนวทางการรับมือกับวิกฤตการณ์เท่านั้น
“ลูกค้าในประเทศไทยกำลังเริ่มต้นใช้งานผู้ให้บริการคลาวด์รายใหม่เพื่อเร่งเป้าหมายการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลให้ทันการณ์ โดยพวกเขาต้องการย้ายภาระงานหลักในปัจจุบันเข้าสู่ระบบคลาวด์ให้เร็วขึ้นโดยไม่ต้องเพิ่มต้นทุนหรือความเสี่ยงที่จะต้องทำข้อมูลซ้ำ หลังจากนั้นจึงจะใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมต่าง ๆ ที่ขับเคลื่อนด้วย Machine Learning และ AI” นายทวีศักดิ์ แสงทอง กรรมการผู้จัดการ ออราเคิล คอร์ปอเรชั่น ประเทศไทย กล่าว “Oracle Cloud Infrastructure (OCI) มีความโดดเด่นอย่างมากในหมู่ผู้ให้บริการยักษ์ใหญ่ของโลก เพราะนำเสนอบริการต่าง ๆ ให้ลูกค้าสามารถเลือกใช้รูปแบบที่เหมาะสมกับความต้องการได้อย่างลงตัว ทั้งในสถานที่ปฏิบัติงาน ในระบบ Public Cloud หรือแม้แต่ในระบบ Multiple Clouds โดยเฉพาะการนำเสนอบริการ MySQL HeatWave ทั้งใน AWS และ Oracle Database Service for Microsoft Azure ทำให้ออราเคิลทลายกำแพงที่แบ่งกั้นระหว่างผู้ให้บริการคลาวด์รายต่าง ๆ ให้หมดไป เพื่อให้ลูกค้าในเมืองไทยได้ผลลัพธ์ในการดำเนินธุรกิจตามที่ต้องการ”
การวิจัยครั้งนี้ตรวจสอบแนวทางการทำงานที่ OCI ใช้กับคลาวด์แบบกระจายศูนย์และข้อเสนอการจัดการ ซึ่งทำให้ออราเคิลได้รับการยอมรับในฐานะผู้นำตลาด ซึ่งปรากฏในรายงานฉบับล่าสุด Omdia Universe: Hybrid and Multicloud Management Solution 2022–23 (ธันวาคม 2022) ผู้สนใจสามารถอ่านรายงานฉบับอภินันทนาการได้ที่นี่
ระเบียบวิธีวิจัย
ข้อมูลการสำรวจที่ใช้ในรายงานนี้รวบรวมโดย 451 Research ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ S&P Global Market Intelligence และจัดทำโดย Oracle การสำรวจระดับโลกจัดทำขึ้นในไตรมาสที่ 3 ของปี 2022 และอ้างอิงตามกลุ่มตัวอย่างข้ามอุตสาหกรรมที่เป็นผู้ตอบแบบสำรวจองค์กร 1500 รายในอเมริกาเหนือ ยุโรป เอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และละตินอเมริกา
เกี่ยวกับคลาวด์แบบกระจายศูนย์ของ OCI
คลาวด์แบบกระจายศูนย์ของ OCI (OCI’s distributed cloud) นำเสนอประโยชน์มากมายของระบบคลาวด์แก่ลูกค้าด้วยการควบคุมที่มากขึ้นทั้งในด้านถิ่นที่อยู่ของข้อมูล ตำแหน่งขอข้อมูล และอำนาจบริหารจัดการ แม้ในคลาวด์หลายระบบ โดยระบบคลาวด์แบบกระจายศูนย์ของ OCI มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
· มัลติคลาวด์: ความสามารถต่าง ๆ ในมัลติคลาวด์ของ OCI เช่น Oracle Database Service สำหรับ Microsoft Azure และ MySQL HeatWave ทำให้ลูกค้ามีทางเลือกในการเลือกผู้ให้บริการคลาวด์ที่ดีที่สุดสำหรับแอปพลิเคชันและฐานข้อมูลของตน
· คลาวด์แบบไฮบริด: OCI ให้บริการคลาวด์แบบไฮบริดในองค์กรผ่าน Oracle Exadata Cloud@Customer และจัดการโครงสร้างพื้นฐานในมากกว่า 60 ประเทศ
· ระบบคลาวด์สาธารณะ: วันนี้ OCI ดำเนินงาน OCI region 41 แห่ง ใน 22 ประเทศ โดยมีแผนก่อตั้งอีก 9 แห่ง ซึ่งรวมถึง sovereign cloud region 2 แห่งสำหรับสหภาพยุโรป
· คลาวด์เฉพาะตัว: OCI มอบ cloud region เฉพาะสำหรับลูกค้าเพื่อเรียกใช้บริการ Oracle Cloud ทั้งหมดได้ในศูนย์ข้อมูลของตนเอง และ Oracle Alloy จะช่วยให้พันธมิตรสามารถปรับแต่งบริการคลาวด์และประสบการณ์สำหรับลูกค้าของตนได้ตามต้องการ