ไฮเนเก้น เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ไฮเนเก้น ซิลเวอร์ ตอบรับเทรนด์ผู้บริโภครุ่นใหม่ ที่ชื่นชอบรสชาติดื่มง่าย ขมน้อย
เมื่อ : 02 ส.ค. 2565 ,
332 Views
• ไฮเนเก้น ซิลเวอร์ ตัวเลือกใหม่จากไฮเนเก้น ที่มอบประสบการณ์สมูทกว่าที่คิด ด้วยรสชาติดื่มง่าย และขมน้อยเหมาะกับทุกโอกาสของการสังสรรค์
• ตอบเทรนด์กลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ Zennials ที่ชื่นชอบเบียร์ที่ดื่มง่ายในทุกโอกาส
• วางตำแหน่งทางการตลาดให้ ไฮเนเก้น ซิลเวอร์ อยู่ในเซกต์เมนต์พรีเมียม ด้วยนวัตกรรมการผลิตที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของไฮเนเก้น ใช้วัตถุดิบคุณภาพจากเพียวมอลต์ 100% ให้รสชาติที่ดื่มง่าย ขมน้อย
กรุงเทพฯ – 2 สิงหาคม 2565 – ไฮเนเก้น ภายใต้การผลิตและจัดจำหน่ายโดยกลุ่มบริษัท ทีเอพี เปิดตัวเครื่องดื่มใหม่ “ไฮเนเก้น ซิลเวอร์” ตอบรับเทรนด์เบียร์ดื่มง่ายเหมาะกับทุกโอกาสที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญทั่วโลกและในประเทศไทย เป็นผลจากความเข้าใจในความต้องการของผู้บริโภครุ่นใหม่โดยเฉพาะกลุ่ม Zennials ที่ชื่นชอบเบียร์ที่ดื่มง่าย สมูท มีรสชาติขมน้อย พร้อมชูกลยุทธ์มิวสิกมาร์เก็ตติ้ง ตอกย้ำความพรีเมียมไลฟ์สไตล์ เชื่อมโยงแบรนด์เข้าถึงกับกลุ่มเป้าหมาย Zennials โดยเฉพาะด้วยประสบการณ์ทางดนตรีรูปแบบใหม่ โดยเป็นผู้สนับสนุนหลักใน “มหรสพ มิวสิค เฟสติวัล” (Maho Rasop Festival) งานปรากฏการณ์ทางดนตรีครั้งสำคัญระดับโลกครั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นใจกลางกรุงในประเทศไทย โดยหวังสร้างประสบการณ์ความสนุกที่ไม่ซ้ำใครภายใต้แคมเปญการสื่อสารการตลาดที่ว่า สมูทกว่าที่คิดกับชีวิต “ชิลเวอร์” ไปกับ “ไฮเนเก้น ซิลเวอร์” หวังขยายกลุ่มเป้าหมายและสร้างการรับรู้ในตราสินค้าเพิ่มขึ้น
อีลิน โลห์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กลุ่มบริษัท ทีเอพี กล่าวถึงสภาวะตลาดเบียร์ในปัจจุบัน และความเคลื่อนไหวของเทรนด์ผู้บริโภคในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาว่า “หลายปีที่ผ่านมา ตลาดเบียร์ทั่วโลกรวมถึงในประเทศไทยได้ขยับสู่กลุ่มเซกเมนต์ของเบียร์ที่มีรสชาติขมน้อยลง เป็นไปตามเทรนด์ของผู้บริโภคกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เบียร์ในอุดมคติของพวกเขาต้องมีภาพลักษณ์พรีเมียม (Premiumization) ดื่มง่าย/เข้าถึงง่าย (Accessible) และเพลิดเพลิน/สนุกสนาน (Playful) ซึ่งเหมาะกับการดื่มในทุกโอกาส ทั้งการสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อน เฉลิมฉลองในโอกาสสำคัญ หรือจะดื่มชิลๆ คนเดียว
ไฮเนเก้น ในฐานะผู้นำตลาดเบียร์ในกลุ่มพรีเมียมเซกเมนต์ เราผลิตสินค้าโดยรับฟังเสียงจากผู้บริโภคทั่วโลกและเห็นถึงความชื่นชอบในรสชาติของเบียร์ที่เปลี่ยนแปลงไปในกลุ่มคนรุ่นใหม่ จึงได้พัฒนาและผลิตเบียร์ที่มีรสชาติดื่มง่าย ขมน้อยออกมา พร้อมภาพลักษณ์ที่มีความสนุกสนานมากขึ้นในชื่อ “ไฮเนเก้น ซิลเวอร์” โดยยังคงรักษามาตรฐาน และคุณภาพการผลิตของไฮเนเก้น ออริจินัลไว้อย่างครบถ้วน โดยไฮเนเก้น ซิลเวอร์ ได้เปิดตัวไปแล้วกว่า 22 ประเทศทั่วโลก และได้รับการตอบรับอย่างดี”
ไฮเนเก้น ซิลเวอร์ หวังมอบประสบการณ์สมูทกว่าที่คิด เจาะกลุ่มเป้าหมาย Zennials ซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่เกิดระหว่างปี 2535 – 2545 โดยนอกจากการปรับให้รสชาติดื่มง่าย ขมน้อย สังสรรค์ได้อย่างเพลิดเพลินในทุกโอกาส ทางแบรนด์ยังได้ดีไซน์แพ็กเกจใหม่ โดยได้ใช้สีเขียว และดาวแดง วางบนพื้นสีเงินพรีเมียม เพื่อสร้างความสะดุดตาและโดดเด่น สะท้อนอัตลักษณ์ของความเป็นซิลเวอร์ได้อย่างชัดเจน
ทั้งนี้ ไฮเนเก้นได้ทำการวิจัยผู้บริโภคกลุ่ม Zennials ในประเทศไทย ซึ่งข้อมูลที่ได้บ่งชี้ให้เห็นถึงการตอบรับเป็นอย่างดีทั้งในเรื่องของรสชาติ คอนเซปต์ และแพ็กเกจจิ้ง โดยกลุ่มตัวอย่างทั้งหมดมีความพึงพอใจในการทดลองดื่มสินค้า โดยมีคะแนนเฉลี่ยในการประเมินมากกว่า 94% ในเรื่องของสี กลิ่น นุ่ม ไม่ขม ความเข้มข้น ขณะที่เกือบ 100% ของกลุ่มตัวอย่างมองว่า แพ็กเกจจิ้งของไฮเนเก้น ซิลเวอร์ สะท้อนให้เห็นถึงความพรีเมียม คุณภาพสูง รสชาติเยี่ยม ดื่มง่าย
คุณธีรภัทร พงศ์เมธี ผู้จัดการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ไฮเนเก้น กลุ่มบริษัท ทีเอพี ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการวางตำแหน่งทางการตลาด และกลยุทธ์การเปิดตัวของไฮเนเก้น ซิลเวอร์ ในประเทศไทยว่า ทางแบรนด์ได้วางตำแหน่งทางการตลาดของไฮเนเก้น ซิลเวอร์ อยู่ในเซกเมนต์พรีเมียม เช่นเดียวกับไฮเนเก้น ออริจินัล ด้วยนวัตกรรมการผลิตที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของไฮเนเก้น ใช้วัตถุดิบคุณภาพจากเพียวมอลต์ 100% และ A-Yeast ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของไฮเนเก้น ให้รสชาติที่ไม่ขมเกินไป ผ่านกลยุทธ์การตลาดอย่าง Above the Line โดยการสร้างการรับรู้ของแบรนด์ผ่านสื่อที่หลากหลายเพื่อเข้าถึงผู้บริโภครุ่นใหม่ สื่อและกิจกรรม ณ จุดขายใน Below the Line และ Music Marketing ที่ใช้งบการตลาดมากกว่าเดิมถึง 2 เท่า
ไฮเนเก้น ซิลเวอร์ รุกเกมมิวสิกมาร์เก็ตติ้ง เดินหน้าจัดกิจกรรมกับตลาด on-premise ร้านอาหาร และผับบาร์ เพื่อสร้างให้เกิดการรับรู้ในตราสินค้าและทดลองผลิตภัณฑ์ ณ จุดขาย พร้อมระเบิดประสบการณ์ในงานเทศกาลดนตรีที่ไม่ซ้ำใคร “มหรสพ มิวสิค เฟสติวัล” (Maho Rasop Festival) ที่ได้ร่วมงานกับโปรโมเตอร์พันธมิตรที่กลุ่ม Zennials ชื่นชอบอย่าง “ฟังใจ – Fungjai” เป็นการเชื่อมโยงแบรนด์และกลุ่มผู้บริโภคให้เกิดประสบการณ์ร่วมกันแบบสมูทกว่าที่คิด ซึ่งการจัดกิจกรรมทางดนตรีสอดคล้องกับผลการสำรวจพฤติกรรมของกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายที่ระบุว่า เทรนด์และความบันเทิง เป็น 2 ความชอบหลักของกลุ่ม Zennials และพวกเขามักยินดีจ่ายเพื่อประสบการณ์ และพร้อมร่วมเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมประเภท “ปาร์ตี้” (Party) “การพบปะผู้คน” (Social) และ “ฉลองโอกาสพิเศษ” (Special Celebration)
“การเป็นพันธมิตรทางดนตรีกับฟังใจ ผ่านเทศกาลดนตรี “มหรสพ มิวสิค เฟสติวัล” (Maho Rasop Festival) จะช่วยให้ไฮเนเก้น ซิลเวอร์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด เพราะฟังใจมีประสบการณ์ในการสร้างสรรค์อีเวนต์สำหรับกลุ่ม Zennials และสามารถสร้างสรรค์กิจกรรมออกมาได้ตรงตามความต้องการ ซึ่งเราชื่อว่าการกลับมาจัดอีกครั้งของ“มหรสพ มิวสิค เฟสติวัล” (Maho Rasop Festival) ในปีนี้ จะต้องเป็นอีเวนต์ที่ยิ่งใหญ่และน่าจดจำ ทั้งไลน์อัปศิลปินและประสบการณ์เซอร์ไพรส์จากไฮเนเก้น ที่จะทำให้มหรสพปีนี้ สมูท และชิลเวอร์ กว่าเดิมแน่นอน”
ไฮเนเก้น ซิลเวอร์ เป็นผู้สนับสนุนหลักของทุกกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นภายใต้เทศกาลดนตรี “มหรสพ มิวสิค เฟสติวัล” ครอบคลุมระยะเวลา 4 เดือน ตั้งแต่สิงหาคม – พฤศจิกายน 2565 โดยจะมีทั้งหมด 4 กิจกรรมหลัก ได้แก่
• Maho Rasop Experience ครั้งที่ 1 และ 2 ซึ่งจะจัดขึ้นครั้งแรกในเดือนสิงหาคม ซึ่งในกิจกรรม Maho Rasop Experience ครั้งที่ 1 นี้ จะเป็นงานเปิดตัว ไฮเนเก้น ซิลเวอร์ อย่างเป็นทางการ พร้อมกับประสบการณ์สมูทเกินคาด
• Maho Rasop Pre-Party จัดขึ้นในต้นเดือนพฤศจิกายน เพื่อวอร์มอัพก่อนอีเวนต์จริงสำหรับคนที่ร่วมเทศกาลดนตรีมหรสพ โดยไฮเนเก้น ซิลเวอร์ได้เตรียมกิจกรรมเซอร์ไพรส์ไว้ให้ได้มาชิลเวอร์
• Maho Rasop Festival จัดขึ้นในวันที่ 19 – 20 พฤศจิกายน โดยไฮเนเก้นได้เตรียมพื้นที่เพลย์กราวนด์ขนาดใหญ่กว่า 200 ตารางเมตรที่เรียกว่า Chillverland ให้ทุกคนได้มาร่วมสร้างสรรค์ประสบการณ์สมูทและชิลเวอร์ ทั้ง 2 วันของการจัดงาน
โดยทั้งหมดนี้สามารถติดตามได้ที่ https://www.facebook.com/heinekenth.official และ https://www.facebook.com/MahoRasopFestival
ไฮเนเก้น ซิลเวอร์ พร้อมวางจำหน่ายทั่วประเทศที่ร้านค้าชั้นนำ ร้านสะดวกซื้อ และร้านอาหารทั่วประเทศ ในรูปแบบกระป๋อง 490 มล. ขวดขนาด 320 มล. กับ 620 มล.