เติมเต็มรอยโรคร้ายด้วยศัลยกรรมความงาม ให้เป็นความสุขในชีวิต
เมื่อ : 19 มิ.ย. 2565 ,
423 Views
“มะเร็ง” โรคร้ายอันดับหนึ่งที่มีจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มมากขึ้นในทุกปี ซึ่งแนวทางการรักษาโรคมะเร็งนั้นอาจมีผลข้างเคียงต่อรูปลักษณ์ภายนอกและผิวพรรณ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องทำการฉายแสงบริเวณศีรษะและคอ อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ผิวหนังคล้ำ แห้ง เป็นขุย หรืออาจมีอาการคัน รวมทั้งอาการเจ็บคอ และภาวะเยื่อบุภายในช่องปากอักเสบซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญ โดยนอกจากจะส่งผลกระทบด้านร่างกายแล้ว ภาวะดังกล่าวยังส่งผลกระทบด้านจิตใจอีกด้วย
ดังนั้นการทำศัลยกรรมความงาม จึงเป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้ที่เกิดผลข้างเคียงต่อรูปลักษณ์ภายนอกหรือบริเวณผิวหนัง หลังการรักษามะเร็งและหายเป็นปกติดีแล้ว โดย นพ.ธนัญชัย อัศดามงคล แพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่งเเละผู้อำนวยการศูนย์ศัลยกรรมความงามโรงพยาบาลบางมด อธิบายไว้ว่า แนวทางการรักษาทางด้านความงามสำหรับผู้ป่วยที่เคยเป็นโรคมะเร็ง และได้รับการรักษาหายเป็นปกติดีแล้ว สามารถทำได้ทุกประเภท แต่ทั้งนี้ควรแจ้งประวัติสุขภาพกับศัลยแพทย์ตามความจริง เพื่อศัลยแพทย์จะได้ทำการประเมินและตรวจร่างกายอย่างละเอียดก่อนการทำศัลยกรรม
ซึ่งผลกระทบจากการรักษาโรคมะเร็งบริเวณใบหน้าและลำคอจนรูปหน้าผิวพรรณเปลี่ยนไป เช่น ผิวหนังหย่อนคล้อย มีริ้วรอยมากกว่าเดิม ไขมันในชั้นผิวหน้าฝ่อลงทำให้ใบหน้าเกิดเป็นรอยบุ๋ม ด้วยเทคนิคของศัลยแพทย์ตกแต่ง นอกจากการทำศัลยกรรมดึงหน้า เพื่อให้ใบหน้าตึงกระชับดูอ่อนเยาว์แล้ว ยังสามารถฉีดไขมันของตนเองหรือ Fat Grafting เพื่อเติมเต็ม ใบหน้าในส่วนที่ชั้นไขมันหายไป ซึ่งจะทำโดยการดูดไขมันจากร่างกายของตนเอง ซึ่งได้แก่บริเวณ หน้าท้อง สะโพก ต้นขา ก้น แขน หรือลำคอ โดยศัลยเเพทย์จะทำการวิเคราะห์ตรวจดูโครงสร้างร่างกายก่อนว่าสามารถดูดส่วนใดได้บ้าง
ขั้นตอนของการฉีดไขมันของตนเอง (Fat Grafting) ต้องอาศัยเทคนิคและประสบการณ์ของศัลยแพทย์เฉพาะทางเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี โดยศัลยแพทย์จะฉีดด้วยความประณีตให้เซลล์ไขมันก้อนเล็กที่สุดและเรียงตัวกัน (Microdroplet Technique) ด้วยเทคนิคบางมดจะทำร่วมกับการฉีด PRP (Platelet-Rich Plasma) คือ สารสกัดพลาสม่าจากเลือดของตนเอง ทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้คงทนมากขึ้น และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ให้ใบหน้าอ่อนเยาว์ ลดความหย่อนคล้อย ใบหน้าอิ่มเอมอย่างมีมิติ
อย่างไรก็ตาม การทำศัลยกรรมความงามสำหรับผู้ป่วยที่เคยเป็นโรคมะเร็ง ควรได้รับการรักษาอาการของโรคให้หายขาดก่อน สิ่งสำคัญควรเข้ารับคำปรึกษาเพื่อตรวจวิเคราะห์จากศัลยแพทย์เฉพาะทางอย่างละเอียด และควรเลือกทำในสถานพยาบาลที่น่าเชื่อถือ ด้วยเครื่องมืออุปกรณ์ที่สะอาด ปลอดเชื้อ ไว้ใจได้จริง เพื่อการทำศัลยกรรมความงามที่ปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดี เพราะความงาม คือ ความสุขที่เติมเต็มชีวิตได้ แม้จะต้องผ่านเหตุการณ์ร้าย ๆ มาแล้วก็ตาม
“มั่นใจยิ่งกว่าที่โรงพยาบาลบางมด” บทความสุขภาพโดย : นพ.ธนัญชัย อัศดามงคล แพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่งเเละผู้อำนวยการศูนย์ศัลยกรรมความงามโรงพยาบาลบางมด ปรึกษาเรื่องศัลยกรรมความงาม โทร. 0-2867-0606 ต่อ 1200-1204
ดังนั้นการทำศัลยกรรมความงาม จึงเป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้ที่เกิดผลข้างเคียงต่อรูปลักษณ์ภายนอกหรือบริเวณผิวหนัง หลังการรักษามะเร็งและหายเป็นปกติดีแล้ว โดย นพ.ธนัญชัย อัศดามงคล แพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่งเเละผู้อำนวยการศูนย์ศัลยกรรมความงามโรงพยาบาลบางมด อธิบายไว้ว่า แนวทางการรักษาทางด้านความงามสำหรับผู้ป่วยที่เคยเป็นโรคมะเร็ง และได้รับการรักษาหายเป็นปกติดีแล้ว สามารถทำได้ทุกประเภท แต่ทั้งนี้ควรแจ้งประวัติสุขภาพกับศัลยแพทย์ตามความจริง เพื่อศัลยแพทย์จะได้ทำการประเมินและตรวจร่างกายอย่างละเอียดก่อนการทำศัลยกรรม
ซึ่งผลกระทบจากการรักษาโรคมะเร็งบริเวณใบหน้าและลำคอจนรูปหน้าผิวพรรณเปลี่ยนไป เช่น ผิวหนังหย่อนคล้อย มีริ้วรอยมากกว่าเดิม ไขมันในชั้นผิวหน้าฝ่อลงทำให้ใบหน้าเกิดเป็นรอยบุ๋ม ด้วยเทคนิคของศัลยแพทย์ตกแต่ง นอกจากการทำศัลยกรรมดึงหน้า เพื่อให้ใบหน้าตึงกระชับดูอ่อนเยาว์แล้ว ยังสามารถฉีดไขมันของตนเองหรือ Fat Grafting เพื่อเติมเต็ม ใบหน้าในส่วนที่ชั้นไขมันหายไป ซึ่งจะทำโดยการดูดไขมันจากร่างกายของตนเอง ซึ่งได้แก่บริเวณ หน้าท้อง สะโพก ต้นขา ก้น แขน หรือลำคอ โดยศัลยเเพทย์จะทำการวิเคราะห์ตรวจดูโครงสร้างร่างกายก่อนว่าสามารถดูดส่วนใดได้บ้าง
ขั้นตอนของการฉีดไขมันของตนเอง (Fat Grafting) ต้องอาศัยเทคนิคและประสบการณ์ของศัลยแพทย์เฉพาะทางเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี โดยศัลยแพทย์จะฉีดด้วยความประณีตให้เซลล์ไขมันก้อนเล็กที่สุดและเรียงตัวกัน (Microdroplet Technique) ด้วยเทคนิคบางมดจะทำร่วมกับการฉีด PRP (Platelet-Rich Plasma) คือ สารสกัดพลาสม่าจากเลือดของตนเอง ทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้คงทนมากขึ้น และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ให้ใบหน้าอ่อนเยาว์ ลดความหย่อนคล้อย ใบหน้าอิ่มเอมอย่างมีมิติ
อย่างไรก็ตาม การทำศัลยกรรมความงามสำหรับผู้ป่วยที่เคยเป็นโรคมะเร็ง ควรได้รับการรักษาอาการของโรคให้หายขาดก่อน สิ่งสำคัญควรเข้ารับคำปรึกษาเพื่อตรวจวิเคราะห์จากศัลยแพทย์เฉพาะทางอย่างละเอียด และควรเลือกทำในสถานพยาบาลที่น่าเชื่อถือ ด้วยเครื่องมืออุปกรณ์ที่สะอาด ปลอดเชื้อ ไว้ใจได้จริง เพื่อการทำศัลยกรรมความงามที่ปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดี เพราะความงาม คือ ความสุขที่เติมเต็มชีวิตได้ แม้จะต้องผ่านเหตุการณ์ร้าย ๆ มาแล้วก็ตาม
“มั่นใจยิ่งกว่าที่โรงพยาบาลบางมด” บทความสุขภาพโดย : นพ.ธนัญชัย อัศดามงคล แพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่งเเละผู้อำนวยการศูนย์ศัลยกรรมความงามโรงพยาบาลบางมด ปรึกษาเรื่องศัลยกรรมความงาม โทร. 0-2867-0606 ต่อ 1200-1204