เมื่อ : 17 ก.ค. 2564 , 1189 Views
การระบายอากาศภายในอาคารและที่พักอาศัยอย่างมีประสิทธิภาพ คือกุญแจสู่สุขภาพชีวิตที่ดีในยุค New Normal
           กรุงเทพฯ ประเทศไทย 12 กรกฎาคม 2564 – ในช่วงการระบาดของโควิด-19 ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่ทุกคนจะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ภายในบ้าน เนื่องจากส่วนใหญ่ไม่มีทางเลือกอื่นและจำเป็นต้องกักตัว แต่ถึงอย่างนั้น เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าสุขภาพของเราแข็งแรงและปลอดภัยดี?
          การใช้ชีวิตอยู่ในบ้านอาจจะเป็นสิ่งตรงกันข้ามกับที่ทุกคนคิด และอาจส่งผลให้สุขภาพของคุณแย่ลงได้ เพราะเวลาที่เราหายใจ เราจะผลิตสิ่งที่เรียกว่า "ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่มนุษย์สร้างขึ้น" ตามรายงานของสำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมแห่งสหรัฐอเมริกา (US Environmental Protection Agency: EPA) การระบายอากาศที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดละอองหรืออนุภาคละอองลอย ซึ่งถูกปล่อยออกมาสู่อากาศ และอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคติดต่อทางอากาศได้[1]
          ทั้งนี้ EPA รายงานอีกว่าอากาศที่สกปรกและเป็นมลพิษภายในอาคารเป็นสาเหตุสำคัญของโรคตึกเป็นพิษ (sick building syndrome: SBS) คุณภาพอากาศภายในอาคารที่ไม่ดีทำให้เกิดอาการ SBS ส่งผลให้คุณปวดหัว เวียนศีรษะ และเหนื่อยล้า ตามข้อมูลของสถาบันแห่งชาติเพื่อความปลอดภัยและอาชีวอนามัย (National Institute for Occupational Safety and Health) พบว่า 52% ของปัญหาคุณภาพอากาศภายในอาคารสามารถแก้ไขได้ผ่านการระบายอากาศที่เหมาะสม[2] ซึ่งจะช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิต ความสะดวกสบาย และประสิทธิภาพในการทำงานอีกด้วย
          การระบายอากาศที่เหมาะสมจะช่วยให้เรามีออกซิเจนที่เพียงพอ โดยเฉพาะออกซิเจนในห้องนอน ที่ทำให้เราสามารถหลับสบายได้ตลอดทั้งเวลากลางวันและกลางคืน ทางสมาคมวิศวกรการทำความร้อน ความเย็นและการปรับอากาศแห่งสหรัฐอเมริกา (ASHRAE) ได้แนะนำไว้ใน ASHRAE62.1 standard ว่าบ้านพักอาศัยควรมีการเติมอากาศไม่น้อยกว่า 9 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง (CMH) ต่อคน[3] นอกจากนี้ยังมีความต้องการปริมาณการเติมอากาศที่แตกต่างกันไปตามระดับกิจกรรมอีกด้วย เช่นสถานที่ออกกำลังกายหรือฟิตเนส จะต้องมีการเติมอากาศที่มากขึ้น เนื่องจากผู้ที่ออกกำลังกายต้องการปริมาณออกซิเจนที่มากขึ้นด้วย และจากผลการศึกษาโดยมหาวิทยาลัยเทคนิคแห่งเดนมาร์ก พบว่าการเปิดหน้าต่างในห้องนอนหลังจากตื่นนอน จะช่วยให้อากาศถ่ายเทและเพิ่มปริมาณออกซิเจนในห้องนอน ส่งผลให้การรับรู้ถึงความสดชื่นของอากาศที่เพิ่มขึ้น ตลอดจนเพิ่มความสามารถในการสร้างสมาธิและพักผ่อนได้[4]
 
คุณจะสามารถป้องกันตัวเองและคนที่คุณรักได้อย่างไร?
 
[3] https://www.ashrae.org/technical-resources/bookstore/standards-62-1-62-2
[4] https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/26452168/

 
           เดลต้านำเสนอโซลูชันการแลกเปลี่ยนอากาศเพื่อปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในอาคารให้ผู้คนรู้สึกสะดวกสบายและมีสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งหนึ่งวิธีง่ายๆ ที่จะสามารถทำให้สุขภาพของคุณและครอบครัวดีขึ้นก็คือ Fresh Air Supply Fan หรือพัดลมเติมอากาศบริสุทธิ์จากเดลต้า ที่มาพร้อมแผ่นกรองฝุ่นละอองประสิทธิภาพสูง (HEPA) สามารถป้องกันฝุ่นพิษ PM2.5 ได้ โดยสามารถจับคู่พัดลมระบายอากาศ Inline Exhaust Fan เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้อากาศสามารถไหลเวียนได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย

 

         พัดลม Fresh Air Supply Fan นี้ใช้เทคโนโลยีมอเตอร์ DC เพื่อเติมอากาศและออกซิเจนที่ผ่านการกรองฝุ่นละอองจากภายนอกอาคาร ในขณะเดียวกัน พัดลม Inline Exhaust Fan ยังกำจัดอากาศเสียภายในอาคารที่เต็มไปด้วยคาร์บอนไดออกไซด์  ไวรัส และมลพิษได้อย่างมีประสิทธิภาพและไร้เสียงรบกวน ด้วยการติดตั้งที่ง่ายและประหยัดไฟ พัดลม Fresh Air Supply Fan จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมทั้งสำหรับบ้านใหม่และบ้านที่มีอายุการใช้งานมาอย่างยาวนานในประเทศไทย

      โซลูชันสร้างคุณภาพอากาศภายในอาคารของเดลต้าจะช่วยหมุนเวียนอากาศภายในอาคารได้อย่างดี ทำให้คุณและคนที่คุณรักมั่นใจได้ว่าอากาศที่คุณหายใจเข้าไปนั้นสะอาดและปลอดภัยตลอดวัน

       มาเริ่มควบคุมคุณภาพอากาศในพื้นที่อยู่อาศัยด้วยการระบายอากาศที่เหมาะสมเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของคุณให้ดียิ่งขึ้น พร้อมเติมพลังชีวิตได้อย่างเต็มที่ในยุค New Normal
 


ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ