ผลการศึกษาชี้คนไทยสูงวัยเป็นมิตรกับเทคโนโลยีเพิ่มขึ้น ขณะที่คนรุ่นใหม่ยังแคลงใจผลกระทบจากเทคโนโลยี
วีโร่ และ ยูกอฟ เผยผลการศึกษาปี 2564 ถึงความรู้สึกของคนไทยที่มีต่อสินค้าและบริการเทคโนโลยี รวมถึงผลกระทบทางสังคมยุคโควิด-19
กรุงเทพฯ, 25 สิงหาคม 2564 – การศึกษาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ในมิติต่างๆ ระหว่างผู้คนและเทคโนโลยี เผยความเห็นต่างระหว่างผู้ที่เชื่อว่าบริษัทเทคโนโลยีมีส่วนส่งเสริมสังคมในเชิงบวก และผู้ที่มีความคิดเห็นเป็นกลางหรือเชิงลบเกี่ยวกับเทคโนโลยีในประเทศไทย
จากการสำรวจที่จัดทำโดยวีโร่ (Vero) เอเจนซีด้านการสื่อสารของอาเซียน และบริษัทวิจัยการตลาด และการวิเคราะห์ข้อมูลระดับโลกยูกอฟ (YouGov) พบว่า ครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสำรวจในประเทศไทยเชื่อว่าเทคโนโลยีสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมมากขึ้น ส่วนอีก 44% มีความรู้สึกเป็นกลางต่อเทคโนโลยี ส่วนอีก 6% เชื่อว่าเทคโนโลยีสร้างผลกระทบในทางลบมากกว่า
ผลกระทบของโควิด-19 ต่อเทคโนโลยี
YouGov ได้ตั้งคำถามมากมายเพื่อทำความเข้าใจถึงผลกระทบของโควิด-19 ที่มีต่อพฤติกรรมการใช้ชีวิตและการใช้เทคโนโลยีในประเทศไทยอย่างถ่องแท้ ทั้งนี้แม้การวิจัยดังกล่าวอยู่ช่วงที่อัตราการติดเชื้อในประเทศไทยค่อนข้างต่ำ แต่ 40% ของผู้ตอบแบบสำรวจกล่าวว่าพวกเขาใช้เทคโนโลยีมากขึ้นเนื่องจากวิกฤติโควิด-19 และ 28% กล่าวว่าถึงแม้ว่าวิกฤติจะจบลง พวกเขาก็จะยังดำเนินพฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีเหมือนในช่วงการแพร่ระบาดต่อไป
นอกจากนี้ ผู้ตอบแบบสำรวจในประเทศไทยถึง 43% กล่าวว่าจากผลกระทบของโควิด-19 ทำให้พวกเขาซื้อของจากแพลตฟอร์มออนไลน์เป็นส่วนใหญ่ และ 24% กล่าวว่าการชำระเงินและการจัดส่งแบบไม่ต้องสัมผัสมีความสำคัญต่อพวกเขาเป็นอย่างมาก
ความกังวลที่มีต่อเทคโนโลยี
การศึกษายังเผยถึงข้อกังวลในการซื้อผลิตภัณฑ์และบริการด้านเทคโนโลยีของคนไทย ซึ่งสิ่งที่พวกเขากังวลมากที่สุดคือแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าลอกเลียนแบบโดยไม่รู้ตัว โดยมีผู้ตอบแบบสำรวจถึง 48% ที่มีความกังวลในเรื่องดังกล่าว ในขณะที่ 45% กล่าวว่าหนึ่งในข้อกังวลหลักของพวกเขาคือการบริการหลังการขาย และอีก 37% กล่าวถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดการละเมิดด้านข้อมูลและความปลอดภัย
วิธีการสื่อสารของแบรนด์เทคโนโลยี
การศึกษายังพยายามทำความเข้าใจถึงประเภทของข้อมูลข่าวสารจากบริษัทเทคโนโลยีที่ผู้คนในประเทศไทยต้องการ โดยผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่ (57%) กล่าวว่าพวกเขาต้องการทราบถึงเรื่องราวของผลกระทบจากเทคโนโลยีที่มีต่อสุขภาพและความปลอดภัย
อีก 51% ต้องการเนื้อหาที่สอนการใช้เทคโนโลยี ในขณะที่ 48% กล่าวว่าพวกเขาต้องการให้แบรนด์เทคโนโลยีบอกเล่าเกี่ยวกับสิ่งที่แบรนด์ช่วยพัฒนาสังคม 47% ต้องการทราบเรื่องราวการใช้เทคโนโลยีในชีวิตจริง 42% ต้องการเนื้อหาที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจ และอีก 35% ต้องการเนื้อหาที่สร้างความบันเทิง
"การระบาดครั้งใหญ่ทำให้ผู้คนเกิดความต้องการด้านเนื้อหาเกี่ยวกับวิธีการใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยและมีสุขภาพดี ในขณะที่การสำรวจในปี 2563 พบว่าเนื้อหาที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดคือเรื่องราวการใช้เทคโนโลยีในชีวิตจริง อีกเรื่องที่น่าสนใจอย่างมากคือเรื่องราวที่สร้างความบันเทิงนั้นถูกจัดเป็นอันดับสุดท้ายของความต้องการจากเนื้อหาของแบรนด์เทคโนโลยี โดยข้อมูลบ่งชี้ถึงความปรารถนาที่จะเรียนรู้และการได้รับความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยี ซึ่งอาจเป็นเพราะการที่เราเป็นผู้รอบรู้ด้านเทคโนโลยีนั้นถือเป็นประโยชน์อย่างมากในปัจจุบัน" นางสาวภัทร์นีธิ์ จีริผาบ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสื่อสารของวีโร่ กล่าว
นายฟรานซิสโก โซซา อาเจตส์ รองผู้อำนวยการ YouGov เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า "การศึกษาครั้งนี้ได้เผยถึงความรู้สึกของคนไทยที่มีต่อเทคโนโลยีและการรับรู้ที่ต่างกันของแต่ละกลุ่มคน จึงสามารถช่วยให้แบรนด์ปรับกลยุทธ์การสื่อสารของตนให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมายได้"
การศึกษาในลักษณะเดียวกันนี้ ยังได้จัดทำขึ้นในประเทศอินโดนีเซียและประเทศเวียดนามอีกด้วย โดยพบว่าแนวโน้มความคิดเห็นส่วนใหญ่เป็นไปในลักษณะใกล้เคียงกัน ทั้งนี้พบว่าคนไทยมีทัศนคติในเชิงบวกต่อแบรนด์เทคโนโลยีมากกว่าชาวอินโดนีเซียแต่น้อยกว่าชาวเวียดนาม
กลุ่มผู้ตอบแบบสำรวจประกอบด้วยประชาชนทั่วไปจาก 5 ภูมิภาค ได้แก่ กรุงเทพฯ ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายทั้งในด้าน รายได้ ระดับการศึกษา และกลุ่มอายุ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มเจนเอ็กซ์ เจนวาย และเจนซี (Gen X, Y และ Z)
ผลลัพธ์ที่ได้นำมาวิเคราะห์ตามช่วงอายุและเพศ เพื่อให้เห็นถึงความคิดเห็นที่แตกต่างกันหรือสอดคล้องกัน อาทิ ในกลุ่มตัวอย่างผู้สูงวัย กลุ่มตัวอย่างเพศชาย และกลุ่มตัวอย่างที่มีรายได้สูง ล้วนเป็นกลุ่มมีความคิดเห็นเชิงบวกต่อผลกระทบของเทคโนโลยีในสังคม
นางสาวภัทร์นีธิ์ จีริผาบ กล่าวว่า "การเข้าสู่ยุคดิจิทัลนั้นมีความสำคัญต่ออนาคตของประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง และบริษัทด้านเทคโนโลยีต่างๆ มีบทบาทสำคัญต่อสังคม จึงเป็นโอกาสดีที่บริษัทเทคโนโลยีจะได้แสดงศักยภาพในฐานะผู้มีส่วนส่งเสริมความเจริญก้าวหน้าในสังคมและช่วยให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น"
การศึกษาครั้งนี้ นับเป็นปีที่ 2 ของวีโร่ ที่จัดทำขึ้นเพื่อวัดพลวัตระหว่างผู้คนและเทคโนโลยี โดยได้สอบถามประชาชนเกี่ยวกับการรับรู้และความคิดเห็นในหัวข้อต่างๆ เช่น ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการซื้อผลิตภัณฑ์เทคโนโลยี ความกลัวและความกังวล รวมถึงผลกระทบของโควิด-19 ต่อพฤติกรรมและการรับรู้ของพวกเขา สามารถดาวน์โหลดการศึกษาฉบับสมบูรณ์ได้ที่เว็บไซต์ของวีโร่