กรมวิชาการเกษตรแจ้งข่าวดี จีนไฟเขียวส่งออกทุเรียนไทย
อธิบดีกรมวิชาการเกษตรแจ้งข่าวดี สำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ( GACC ) อนุมัติ การส่งออกทุเรียนไทยไปยังจีนได้แล้ว โดยต้องมีเอกสารรับรองตรวจวิเคราะห์สาร by2 และแคดเมียม พร้อมเปิดเผยศักยภาพห้องปฏิบัติห้องวิเคราะห์
นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีการเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาการส่งออกทุเรียนไทยไปยังประเทศจีน ซึ่งล่าสุด สำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ( GACC ) ได้พิจารณาและรับทราบถึงรายละเอียดของวิธีการตรวจ และเอกสารรับรองผลการตรวจสอบ( test report )ของห้องปฏิบัติการในประเทศไทย ในการตรวจสอบสาร Basic Yellow2 หรือ by2 และแคดเมียม ในทุเรียนไทย พร้อมยอมรับการส่งออกทุเรียนจากประเทศที่มีเอกสารการรับรองผลการตรวจ สาร by2 และแคคเมียมจากห้องปฏิบัติการของประเทศไทยแล้ว
สำหรับในขณะนี้ประเทศไทยมีห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรองความสามารถในการทดสอบสาร BY2 และแคคเมียม ในทุเรียนผลสดส่งออกจากไทยไปสาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวน 6 แห่ง ได้แก่ บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด สาขาเชียงใหม่ //บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด สาขาสงขลา //บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด สาขากรุงเทพฯ //บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด สาขาฉะเชิงเทรา //บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด สาขาสมุทรสาคร// และบริษัท ศูนย์ห้องปฏิบัติการและวิจัยทางการแพทย์และการเกษตรแห่งเอเซีย จำกัด (มหาชน) (AMARC) ///
โดยห้องปฏิบัติการ (Lab) ดังกล่าว จะมีศักยภาพในการตรวจวิเคราะห์ รวมกันได้ 700 ตัวอย่าง/วัน โดยใช้เวลาในการตรวจวิเคราะห์ประมาณ 48 ชั่วโมง นอกจากนี้ในสัปดาห์หน้าจะมีห้องปฏิบัติการ เพิ่มอีก 4 แห่ง ส่งผลให้สามารถตรวจวิเคราะห์สาร by2 และแคดเมียม ได้กว่า 1500 ตัวอย่าง/วัน โดยกรมวิชาเกษตรได้จัดตั้งจุดรับให้ผู้ประกอบการสามารถนำส่งตัวอย่างผลทุเรียนสด เพื่อตรวจวิเคราะห์สาร by2 และ แคคเมียม ณ ที่ตลาดมรกต จังหวัดชุมพร และ องค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี
ทั้งนี้อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า กรมวิชาการเกษตรได้กำหนดมาตรการ 4 ไม่ เพื่อควบคุมคุณภาพทุเรียนไทย ปี 2568 ได้แก่ ไม่อ่อน /ไม่หนอน /ไม่สวมสิทธิ์ /และ ไม่มีสี ไม่มีสารเคมีต้องห้าม พร้อมมีเป้าหมายในการใช้สี การใช้สารเคมี เป็นศูนย์ในโรงคัดบรรจุทั้งหมด ทั้งนี้ได้เน้นย้ำต่อสารวัตรเกษตร และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ในการตรวจสอบและหากมีการตรวจพบสาร BY2 และสารเคมีที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนจะยกเลิกหนังสือสำคัญแสดงการขึ้นทะเบียนโรงงานผลิตสินค้าพืช ทันที