ชาวเกษตรศาสตร์ จัดกิจกรรมน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ 61 ปี “วันที่ระลึกวันนนทรีทรงปลูก ดนตรีทรงโปรด สืบสานวันทรงดนตรี”
เนื่องในโอกาสวันแห่งประวัติศาสตร์ “วันที่ระลึกวันนนทรีทรงปลูก ดนตรีทรงโปรด สืบสานวันทรงดนตรี” ได้เวียนมาบรรจบครบรอบ 61 ปี เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นำโดย ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร นายกสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ประธานในพิธี พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร คณาจารย์ บุคลากร นิสิต คณะกรรมการสมาคมนิสิตเก่ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ คณะกรรมการชมรม มก. อาวุโส เข้าร่วมกิจกรรมน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ 61 ปี “วันที่ระลึกวันนนทรีทรงปลูก ดนตรีทรงโปรด สืบสานวันทรงดนตรี ” ณ หอประชุมใหญ่มหาวิทยาลัยเกษตร ศาสตร์ เวลา 17.00 น.
กิจกรรมน้อมรำลึก ฯ ประกอบด้วย การบรรเลงและขับร้องเพลงพระราชนิพนธ์ทรงโปรด โดยวงดนตรีสากล KU BAND และวงดุริยางค์เครื่องลม KASETSART WUNDS การฉายวีดิทัศน์เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ วันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ.2506 พิธีน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศ มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร การอ่านบทกลอนรำลึกพระมหากรุณาธิคุณประกอบดนตรีไทย การรายงานสุขภาพต้นนนทรี การกล่าวรำลึกพระมหากรุณาธิคุณและยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 1 นาที การจุดเทียนน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ และการขับร้องบทเพลงพระราชนิพนธ์เกษตรศาสตร์และ เพลงสดุดีพระเกียรติ
ดร.ดำรงค์ ศรีพระราม รองอธิการบดีฝ่ายบริหารและความเป็นกลางทางคาร์บอน ผู้แทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า การจัดงานมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์น้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ 61 ปี“วันที่ระลึกวันนนทรีทรงปลูก ดนตรีทรงโปรด สืบสานวันทรงดนตรี ” มีวัตถุประสงค์ เพื่อน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศ มหาภูมิพล อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินมาทรงปลูกต้นนนทรี 9 ต้น อันเป็นต้นไม้สัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ บริเวณสระน้ำด้านหน้าหอประชุม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และหลังจากนั้น เสด็จ ฯ เข้าหอประชุม เพื่อทรงดนตรี ร่วมกับวง อส. วันศุกร์ เป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2506 เวลา 15.30 น.
“ พวกเราชาวมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ขอน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ร่วมตั้งปณิธานด้วยความตระหนักว่ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จะสืบสานพัฒนาวิชาการด้านการเกษตร จะรักษาต้นนนทรีทรงปลูกทั้ง 9 ต้น อันเป็นไม้มงคลให้อยู่คู่กับประชาคมมหาวิทยาลัย จะรักษาตนเองให้เข้มแข็ง และรักษาแผ่นดินไทยไว้ด้วยศาสตร์แห่งแผ่นดิน อันประกอบด้วยศาสตร์พระราชา ศาสตร์ชุมชน และศาสตร์สากล เพื่อพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืน ”
สำหรับที่มาของการเลือกต้นนนทรีเป็นต้นไม้สัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นั้น เนื่องจาก“ต้นนนทรี เป็นไม้ยืนต้น มีอายุยืนยาวนาน มีใบเขียวตลอดทั้งปี ลักษณะใบเป็นฝอยคล้ายใบกระถิน ดอกสีเหลืองประปรายด้วยสีขาว ช่อดอกเป็นพวงระย้า ฝักไม่ยอมทิ้งต้น ทนทานในทุกสภาพอากาศของเมืองไทย สมาคมนิสิตเก่ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จึงได้เลือกให้เป็นต้นไม้ที่เป็นสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อแสดงว่า นิสิตเก่ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์นั้น มีใจผูกพันอยู่กับมหาวิทยาลัยเสมอมา และสามารถจะทำงานประกอบอาชีพได้ทั่วทุกหนทุกแห่ง ทั้งในไร่นาป่าเขา ทั่วทั้งประเทศไทย”
นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2506 จนถึงปัจจุบัน ต้นนนทรีทั้ง 9 ต้น มีอายุ 61 ปีเต็ม เติบโตเป็นต้นไม้สูงใหญ่ คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้สำรวจและเก็บข้อมูลโดยเครื่องสแกนวัตถุ 3 มิติด้วยแสงเลเซอร์ พบว่า ต้นนนทรีทั้ง 9 ต้น มีขนาดความโตของเส้นผ่าศูนย์กลางที่ความสูงเพียงอกโดยเฉลี่ย 73.46 ซม. มีความสูงของลำต้นรวมเฉลี่ย 18.53 เมตร วัดจากระดับโคนต้นระดับผิวดินจนถึงบนสุดเรือนยอด มีพื้นที่การปกคลุมเรือนยอดโดยเฉลี่ย 211.02 ตารางเมตรต่อต้น มีปริมาณการกักเก็บคาร์บอนรวม 8.14 ตันคาร์บอน นับว่าเป็นต้นนนทรีขนาดใหญ่ที่มีความสง่างามและหาพบได้ยากในกรุงเทพมหานคร