เมื่อ : 10 ต.ค. 2567 , 95 Views
ไทยเปิดฉาก AOSWA 2024  สร้างศักยภาพด้านการสำรวจสภาพอากาศในอวกาศ (Space Weather)  พร้อมเชื่อมโยงเครือข่ายนักวิจัยทั่่วโลก

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ร่วมกับ National Institute of Information and Communications Technology (NICT) และพันธมิตรจากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในประเทศไทย เป็นเจ้าภาพจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ Asia-Oceania Space Weather Alliance Workshop (AOSWA) ครั้งที่ 7  ในวันที่ 8-11 ตุลาคม 2567 ณ โรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ สมุทรปราการ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ด้านสภาพอากาศในอวกาศระหว่างนักวิจัยจากทั่วโลก โดยเฉพาะจากภูมิภาคเอเชีย-โอเชียเนีย

 

ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการ GISTDA กล่าวว่า ปีนี้ประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมใหญ่เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ด้านสภาพอากาศในอวกาศจากนักวิจัยชั้นนำจากทั่วโลก โดยการประชุมนี้เป็นการรวมตัวของศูนย์พยากรณ์อากาศในอวกาศ (Space Weather Centers) และหน่วยงานวิจัยในภูมิภาคเอเชีย-โอเชียเนีย รวมถึงสถาบันการศึกษา เพื่อร่วมกันสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่เข้มแข็งในการเฝ้าระวังและวิเคราะห์สภาพอวกาศ ให้เป็นระบบที่มีประสิทธิภาพและครอบคลุมทั่วภูมิภาค โดยเฉพาะการพยากรณ์และเตือนภัยปรากฏการณ์ที่อาจมีผลกระทบต่อดาวเทียม การสื่อสาร และโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของประเทศ 

 

ประเทศไทยได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของ AOSWA ตั้งแต่ปี 2010 โดยมีหลายหน่วยงานที่เข้าร่วมตั้งแต่มหาวิทยาลัย เช่น มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และหน่วยงานรัฐ เช่น GISTDA ซึ่งหน่วยงานทั้งหมดเป็นตัวแทนประเทศไทยที่มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ ของ AOSWA และกลุ่มดังกล่าวเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาเทคโนโลยีและการวิจัยเกี่ยวกับสภาพอากาศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยประเทศไทยมีเป้าหมายหลักในการเข้าร่วมคือ การพัฒนาความขีดสามารถด้านเทคโนโลยีและกำลังคนทางด้านการพยากรณ์อากาศในอวกาศ การส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาทางเทคโนโลยีเพื่อสร้างองค์ความรู้และขีดความสามารถในด้านอวกาศโดยเฉพาะในเรื่องการพัฒนาดาวเทียมขนาดเล็กและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการสร้างความร่วมมือและสร้างโอกาสให้ประเทศไทยเข้าร่วม consortium ในระดับนานาชาติ

 

ที่ผ่านมา ประเทศไทยให้ความสำคัญกับอากาศในอวกาศมาอย่างต่อเนื่อง ซี่งเป็นเรื่องของความเชื่อมโยงโดยตรงกับความปลอดภัยของดาวเทียม การสื่อสารและระบบนำทางต่าง ๆ ที่ใช้งานในประเทศ นอกจากนี้ ประเทศไทยยังมองเห็นโอกาสในการพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและสร้างความเป็นผู้นำในระดับภูมิภาค โดยผ่านการร่วมมือกับ AOSWA และองค์กรระดับนานาชาติอื่น ๆ เพื่อยกระดับความสามารถของประเทศและสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและการวิจัยในระยะยาว อนาคตเราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงในเรื่องนี้อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น ทั้งในด้านการขยายความร่วมมือระหว่างประเทศในอาเซียนและภูมิภาคอื่น ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของระบบพยากรณ์ ด้านขีดความสามารถของประเทศไทยทั้งทางด้านวัตกรรมเทคโนโลยีด้านสภาพอวกาศ เช่น ระบบพยากรณ์อวกาศของประเทศไทย ด้านการยกระดับนักวิจัยและหน่วยงานรัฐที่จะมีบทบาทสำคัญในเวทีระดับโลก เช่น Committee on Space Research (COSPAR) Panel on space weather International Space Environment Service (ISES) และหน่วยงานอื่นที่สำคัญในระดับนานาชาติอีกด้วย ผู้อำนวยการ GISTDA กล่าว