เมื่อ : 07 ก.ย. 2567 , 133 Views
ดีพร้อมจับมือเดลต้า อัดฉีดเงินทุนหนุนธุรกิจสตาร์ทอัพไทย  ภายใต้โครงการ “DIPROM x DELTA ANGEL FUND” ปี 9  ปรับฐานสตาร์ทอัพไทย สู่ความเป็นเลิศด้านนวัตกรรมระดับประเทศ

กรุงเทพฯ 6 กันยายน 2567 - กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM) กระทรวงอุตสาหกรรม ผนึกกำลัง บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) อัดฉีดเงินทุนหนุนสตาร์ทอัพไทยปรับฐานสตาร์ทอัพไทย สู่ความเป็นเลิศด้านนวัตกรรมระดับสากล ภายใต้โครงการ “DIPROM x DELTA ANGEL FUND 2024” ซึ่งในปีนี้ นับเป็นปีที่ 9 ที่ DIPROM และ DELTA ได้ร่วมมือกันพัฒนาความรู้และทักษะการดำเนินธุรกิจให้แก่ Startup รวมถึงสร้างโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน อันจะนำไปสู่การยกระดับและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการและประเทศต่อไป โดยในปีนี้ได้มอบเงินทุนจำนวน 10 ทีม รวมเงินทุนสนับสนุนทั้งสิ้น 5000000 บาท พร้อมโชว์นวัตกรรม อาทิ อากาศยานไร้คนขับขึ้นลงแนวดิ่งประสิทธิภาพสูง วัสดุดูดซับและห้ามเลือดรูปแบบฟองน้ำที่ทำจากพอลิเมอร์ธรรมชาติ แพลตฟอร์มไมโครอาเรย์แบบละลายได้สำหรับการนำส่งยา อุปกรณ์ช่วยพลิกตัวอัตโนมัติเพื่อป้องกันแผลกดทับ และ อุปกรณ์ AI Audiologist สำหรับการคัดกรอง วิเคราะห์ และแนะนำการได้ยิน รวมไปถึงนวัตกรรมใหม่ๆ ที่พร้อมเข้าสู่ตลาดเชิงพาณิชย์ คาดสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในปีนี้กว่า 80 ล้านบาท

 

นายภาสกร ชัยรัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวถึงความสำคัญของโครงการว่า “กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมหรือ DIPROM มีความมุ่งมั่นในการสนับสนุนและพัฒนาผู้ประกอบการสตาร์ทอัพที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการดำเนินธุรกิจ ดังนั้น จึงเดินหน้าส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการเริ่มต้นใหม่ หรือสตาร์ทอัพ เพื่อนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งได้ร่วมมือกับ บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในโครงการ “DIPROM x DELTA ANGEL FUND” อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 โดยยังคงมุ่งเน้นให้การสนับสนุนเงินทุนเพื่อการจัดตั้งวิสาหกิจเริ่มต้น ด้วยการบ่มเพาะสตาร์ทอัพ ในกลุ่มอุตสาหกรรม S-Curve และ New S-Curve เพื่อกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์พัฒนานวัตกรรมหรือเทคโนโลยีในระยะเวลาจำกัด การสร้างโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนต่อยอดธุรกิจ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ในเชิงพาณิชย์ รวมทั้งส่งต่อนวัตกรรมใหม่ ๆ ไปยังภาคอุตสาหกรรมที่ต้องการใช้นวัตกรรม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถ ในการดำเนินธุรกิจในภาพรวม โดยในปี  2567 นี้ทางโครงการได้เพิ่มเติมหัวข้อการใช้นวัตกรรมในรูปแบบการดำเนินธุรกิจ และอยู่ในสาขา Deep Technology และ Soft Power เพื่อให้ผู้ประกอบการมีความสามารถในการพัฒนา และยกระดับธุรกิจ ให้สามารถแข่งขันได้ในปัจจุบัน โดยมี 10 ทีมที่มีนวัตกรรมโดดเด่นและมีศักยภาพในการเติบโต อาทิ

 

ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ