LTS กระแสดีเกินคาด ปิดตลาดราคานิวไฮ 9.05 บาท
ผู้บริหาร LTS ขอบคุณนักลงทุนที่ให้ความเชื่อมั่น เข้าเทรดวันแรกดีเกินคาด ปิดตลาด 9.05 บาท ราคาเหนือจอง 201.67% จากราคา IPO ที่ 3 บาท มูลค่าการซื้อขายกว่า 1311.67 ล้านบาทเผยไตรมาส 3 ปีนี้เตรียมเซ็นสัญญาโครงการขนาดใหญ่ต่อยอดในส่วนของของ IT Solution คาดช่วยเสริมผลประกอบการบรรลุตามเป้าหมายปลายปี
วันนี้ (17 พฤษภาคม 2567) นายภัฏ ตรัสโฆษิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไลท์อัพ โทเทิล โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ LTS เปิดเผยว่า ในวันเข้าจดทะเบียนและเปิดทำการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เป็นวันแรก หุ้น LTS เปิดตลาดอยู่ที่ราคา 5.90 บาท จากราคา IPO ที่ 3.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.90 บาท ก่อนที่จะปิดราคาในวันแรกทำราคาสูงสุด (New High) อยู่ที่ 9.05 บาท ราคาปิดเหนือจอง 201.67 % มูลค่าการซื้อขายในวันแรกกว่า 1311.67 ล้านบาท
สำหรับ LTS มีทุนชำระแล้วหลังเสนอขาย 103.30 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 151.60 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 55 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 9 10 และ 13 พฤษภาคม 2567 ในราคาหุ้นละ 3.00 บาท คิดเป็นมูลค่าการเสนอขาย IPO 165 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 619.80 ล้านบาท
นายภัฏ ยังบอกว่า แผนการขยายธุรกิจในปี 2567 มาจากความความคืบหน้าของโครงการเสาไฟอัจฉริยะในจังหวัดอื่นๆ ที่ใช้ร่วมกับระบบ IoT Solution มาพัฒนา คาดว่าจะดำเนินการได้ในไตรมาส 3 ของปีนี้" พร้อมดำเนินการส่งมอบในส่วนที่เหลือโครงการ Smart Park และการออกแบบและจำหน่ายไฟส่องสว่างในส่วนของกลุ่มลูกค้าสถาปนิก คาดการณ์ว่ารายได้รวมในปี 2567 อยู่ที่ประมาณ 400 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตกว่าร้อยละ 70 เมื่อเปรียบเทียบกับ 2566 ทำให้ LTS มีความแข็งแกร่งทางการเงิน มีแนวโน้มที่ผลประกอบการสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนได้ในอนาคต
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LTS ยังกล่าววว่า การที่นักลงทุนให้การตอบรับเป็นอย่างดีตั้งแต่การเปิดจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 55 ล้านหุ้น สามารถจำหน่ายหมดตามเป้าหมาย จนมาถึงในวันที่เข้าซื้อขายหุ้นในวันแรก ตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อการดำเนินธุรกิจของ LTS อีกทั้งที่ผ่านมาผลประกอบการของ LTS ยังสะท้อนความแข็งแกร่งของโครงสร้างรายได้และกำไรของ LTS โดยในปี 2564 มีรายได้รวมประมาณ 163 ล้านบาท และมีกำไร 0.72 ล้านบาท ปี 2565 มีรายได้รวมประมาณ 232 ล้านบาทและกำไร 15.01 ล้านบาท ขณะที่ในปี 2566 มีรายได้รวม 227 ล้านบาท และกำไร 31.43 ล้านบาท จึงมั่นใจว่าการขยายธุรกิจด้าน IT Solutions เข้ามาเสริม ยิ่งช่วยทำให้แนวโน้มการเติบโตทางธุรกิจมีแนวโน้มที่ดีได้ต่อไป