เมื่อ : 24 มี.ค. 2567 , 206 Views
เบลนเดต้าในกลุ่มบริษัทจีเอเบิล ปิดดีลลงทุนเชิงกลยุทธ์ความร่วมมือด้าน AI Transformation ต่อยอดแผนจีเอเบิลสร้างการเติบโตแบบ Inorganic Growth

บริษัท จีเอเบิล จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้าน "Tech Enabler" ที่ช่วยยกระดับธุรกิจสู่ยุคดิจิทัลในทุกมิติ มุ่งพัฒนาศักยภาพดิจิทัลโซลูชันควบคู่กับการสร้างความพร้อมในการรับมือทุกความท้าทายให้ภาคธุรกิจอย่างไม่หยุดยั้ง เดินเครื่องตามแผนกลยุทธ์ การเติบโตแบบ Inorganic โดยเบลนเดต้า ผู้พัฒนาเทคโนโลยีบริหารจัดการ Big Data อัจฉริยะ ในกลุ่มบริษัทจีเอเบิล ได้เข้าลงทุนในบริษัท ออพซ์ตา (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านเทคโนโลยี DevSecOps และ Cloud-native ผสานความสามารถด้าน Big Data AI และ DevSecOps ตอบองค์กรยุคใหม่ที่ขับเคลื่อนธุรกิจด้วย AI สร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดดได้อย่างรวดเร็ว ถือเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของแผนกลยุทธ์หลักของจีเอเบิลที่มุ่งเน้นต่อยอดการเติบโตในปี 2024 ได้แก่ AI Ready Business App M&A ช่วยองค์สร้างความพร้อมสู่ AI Ready Organization และช่วยยกระดับธุรกิจในทุกการแข่งขัน 

 

ดร.ชัยยุทธ ชุณหะชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีเอเบิล จำกัด (มหาชน) เผยว่า “จีเอเบิล เดินหน้าลุยตามแผนกลยุทธ์หลักที่วางไว้ โดยมุ่งเน้นต่อยอดการเติบโตแบบก้าวกระโดดผ่านการเติบโตแบบ Inorganic Investment  โดยใช้โอกาสที่ Big Data และ AI เข้ามามีบทบาทต่อโลกธุรกิจ ทั้ง 2 เทคโนโลยีจะถูกนำไปใช้ยกระดับธุรกิจในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ Big Data ผสานกับการวิเคราะห์ของ AI เพื่อประกอบการตัดสินใจและวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจในการสร้างผลกำไรและลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น รวมถึงการคาดการณ์แนวโน้มของตลาด การวิเคราะห์พฤติกรรมเชิงลึกของผู้บริโภค ฯลฯ ซึ่งจากการคาดการณ์ของการ์ทเนอร์ ระบุว่า Generative AI หรือ Gen AI กำลังเป็นเทรนด์สำคัญที่มาถึงจุดสูงสุดของ Hype Cycle ทำให้ จีเอเบิล มองเห็นโอกาสการเติบโตในอนาคตจากความต้องการสร้างระบบขององค์กรให้เป็น AI Ready Organization ทั้งระบบแบบ End-to-end ตั้งแต่การวางโครงสร้างพื้นฐานไอทีบนคลาวน์ การทำระบบ Data Analytics ผ่านซอฟต์แวร์ Big Data Platform รวมไปถึงการวางระบบ Cybersecurity ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่สำคัญอย่าง DevSecOps และ Cloud-native เป็นส่วนประกอบที่สำคัญที่ทำให้ทุกระบบในองค์กรทั้ง Front Office และ Back Office มีความพร้อมในการทำงานร่วมกับ AI ในอนาคตได้อย่างไร้รอยต่อ ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดดให้กับจีเอเบิลจากนี้ต่อไป

 

จีเอเบิล เชื่อว่าการทำดีลการเติบโตแบบ Inorganic จะเป็นการทำให้ growth engine ของทางบริษัท มีการเติบโตที่ดีในอนาคต ซึ่งปัจจุบันสามารถปิดดีลกับพันธมิตรทางธุรกิจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเป็นการลงทุนในเชิงกลยุทธ์ระหว่างบริษัทในเครือของจีเอเบิลอย่าง บริษัท เบลนเดต้า จำกัด หรือ Blendata และ บริษัท ออพซ์ตา (ประเทศไทย) จำกัด หรือ Opsta ด้วยการผสมผสานความเชี่ยวชาญและความสามารถด้าน Big Data AI และเทคโนโลยี DevSecOps ของทั้ง 2 บริษัท เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดในการให้บริการโซลูชันด้านการจัดการข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างครบวงจรตอบสนองเทรนด์ธุรกิจในอนาคตได้อย่างครอบคลุมในทุกมิติ ทำให้จีเอเบิลสามารถสร้างการเติบโตแบบ Inorganic growth และเพิ่มมูลค่าให้แก่บริษัทฯ ตลอดจนต่อยอดธุรกิจหลักของบริษัทฯ ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น”

 

นายณัฐนภัส รชตะวิวรรธน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท เบลนเดต้า จำกัด กล่าวว่า “เบลนเดต้าได้เข้าลงทุนในบริษัทออพซ์ตาเพื่อเป็นพาร์ทเนอร์เชิงกลยุทธ์ โดยวางแผนร่วมมือกันเพื่อผสานรวมความสามารถของทั้ง 2 บริษัท ด้วย 2 ภารกิจหลัก 1. Co-Technology: AI Transformation Solution สร้าง Blueprint ที่รวบรวมเทคโนโลยีด้าน Big Data AI และ DevSecOps ในทุกมิติเข้าด้วยกัน พร้อมบริการให้คำปรึกษาและการบริการจากผู้เชี่ยวชาญ มุ่งเน้นไปที่การลดความซับซ้อนในการใช้เครื่องมือหลายชนิดที่เกี่ยวข้องกับการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ ระบบการดำเนินงานทั้งด้าน Development (การพัฒนา) Operation (การปฏิบัติการ) และความปลอดภัย (Security) ตอบสนองความต้องการขององค์กรสมัยใหม่และสอดรับพันธกิจในยุค AI Transformation และ 2. Co-Development ผนึกกำลังทีมเทคฯ ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญทั้งด้าน Big Data AI และ DevSecOps สร้างนวัตกรรม AIOps และ DataOps จากความร่วมมือนี้ เบลนเดต้าและออพซ์ตา มีความมุ่งมั่นเป็นอย่างยิ่งที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับเทคโนโลยีบริหารจัดการข้อมูล และงานด้าน DevSecOps เพื่อสร้างรากฐานที่มั่นคงสำหรับธุรกิจที่ต้องการปรับตัวในโลกดิจิทัล เราพร้อมร่วมมือกันยกระดับเทคโนโลยีไทยทัดเทียมระดับสากลและสร้างประโยชน์ต่อธุรกิจอย่างต่อเนื่อง”

 

“สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของจีเอเบิล ในการเติบโตแบบก้าวกระโดดผ่านการยกระดับความแข็งแกร่งในการให้บริการด้าน Big data เพื่อช่วยปลดล็อกภาคธุรกิจองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนพร้อมสู่การเป็น AI Ready Organization ในอนาคต” ดร.ชัยยุทธ กล่าวทิ้งท้าย