เมื่อ : 04 มี.ค. 2567 , 124 Views
โรลส์-รอยซ์ เผยโฉม ARCADIA DROPTAIL (อาร์เคเดีย ดรอปเทล): ที่สุดแห่งความเงียบสงบ ด้วยยนตรกรรมสั่งทำพิเศษ

วันพฤหัสบดีที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 กู๊ดวูด เวสต์ซัสเซ็กซ์

 

  • โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส เปิดตัว Arcadia (อาร์เคเดีย) ผลงานใหม่ล่าสุดลำดับที่สามภายใต้ชื่อรุ่น Droptail (ดรอปเทล) ที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษ ปรับแต่งอย่างประณีต ตามความต้องการของผู้ครอบครอง
  • นำเสนอเอกลักษณ์ที่โดดเด่น สะท้อนให้เห็นถึงหลักการออกแบบสไตล์ Droptail
  • มาพร้อมนาฬิกาสั่งทำพิเศษที่มีความซับซ้อนที่สุดในประวัติศาสตร์ของ โรลส์-รอยซ์ ฝังอยู่บนแผงหน้าปัด
    และสามารถถอดออกมาสวมใส่บนข้อมือได้ การประกอบใช้เวลาถึงห้าเดือน
  • องค์ประกอบที่ใช้ไม้ในการตกแต่ง ต้องใช้เวลาในการทำงานทั้งหมด 8000 ชั่วโมง เพื่องานฝีมือที่ใส่ใจ
    ในทุกรายละเอียด
  • ได้รับการตั้งชื่อว่า ‘Arcadia’ ตามชื่อสถานที่ในเทพนิยายกรีกโบราณที่ถูกกล่าวขานว่าเป็นสวรรค์บนดิน Heaven on Earth 
  • Droptail เป็นรถรุ่นแรกที่ใช้ตัวถังรูปแบบ Roadster (โรดสเตอร์ เปิดประทุน 2 ที่นั่ง) ในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของ โรลส์-รอยซ์
  • ผลงานชิ้นเอกภายใต้โปรแกรม Coachbuild (โค้ชบิลด์ ผลิตพิเศษตามความต้องการของลูกค้า) ถูกส่งมอบ
    อย่างเป็นทางการ ในระหว่างพิธีส่วนตัวซึ่งจัดขึ้นในสิงคโปร์ให้กับลูกค้าผู้สั่งผลิต

“Rolls-Royce Coachbuild คือตัวแทนแห่งความเป็นเลิศของแบรนด์เรา นำเสนอประสบการณ์ที่แตกต่างไม่เหมือนใครในตลาดรถยนต์ระดับลักชัวรี หรูหรามีระดับ ณ ที่แห่งนี้ เรามีบุคคลผู้ทรงอิทธิพลระดับโลกมาร่วมมือกับทีมงานของเรา ทั้งนักออกแบบ วิศวกร และช่างฝีมือทักษะสูง เพื่อทำวิสัยทัศน์ให้เป็นจริง โดยการสร้างสรรค์รถยนต์ที่สั่งทำขึ้นเป็นพิเศษซึ่งได้กลายมาเป็นตำนาน แสถงถึงคุณค่าและความสำเร็จของผู้เป็นเจ้าของ และเป็นอีกหนึ่งของความภาคภูมิใจ
ในหน้าประวัติศาสตร์ที่มีมาอย่างยาวนานของ โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส ลูกค้าของเราเป็นผู้กำหนดทุกรายละเอียดของผลงานชิ้นเอกเหล่านี้ จากนั้นทีมผู้เชี่ยวชาญที่เปี่ยมไปด้วยทักษะและพรสวรรค์ของเรา จึงทำหน้าที่รังสรรค์ผลงานออกมาเพื่อสะท้อนถึงบุคลิกและความชอบของลูกค้า นี่คือหลักการของ Arcadia Droptail เราได้แสดงให้เห็นถึงความทะเยอทะยาน และความสามารถอันยอดเยี่ยมของเราในด้านการออกแบบ งานฝีมือ และงานวิศวกรรม ที่ยากจะหาใครมาเทียบ”

 

คริส บราวน์ริดจ์ ซีอีโอ โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส

 

“Rolls-Royce Arcadia Droptail แสดงให้เห็นถึงแก่นแท้ของแนวคิด Coachbuild ได้อย่างงดงามโดยการเปลี่ยนแปลงปรับปรุงคุณลักษณะเพื่อสร้างรถยนต์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ออกแบบให้ตรงตามความต้องการเฉพาะของผู้เป็นเจ้าของ ผลงาน Droptail แต่ละคันสะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์และการตีความที่มีความเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละบุคคล สำหรับผลงาน Arcadia Droptail เราได้เห็นถึงความกล้าหาญภายใต้ความเรียบง่ายและความประณีต ซึ่งได้รับอิทธิพลจากไลฟ์สไตล์ของผู้ที่ชื่นชอบความหรูหราแบบอังกฤษ รถยนต์แห่งประวัติศาสตร์คันนี้แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญของเราในการสร้างและออกแบบให้ตรงตามความต้องการเฉพาะบุคคลอย่างที่สุด” 

 

แอนเดอร์ส วอร์มมิง ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบ โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส

 

“Rolls-Royce Arcadia Droptail มีเอกลักษณ์โดดเด่นในความสง่างามแบบเรียบง่าย สะท้อนถึงความต้องการของผู้ครอบครอง ที่ให้ความสำคัญกับความชัดเจนและพิถีพิถันในทุกด้านของชีวิต ตั้งแต่เรื่องความชอบในการรับประทานอาหารชั้นเลิศ ไปจนถึงเรื่องพื้นที่ส่วนตัวและพื้นที่สำหรับการทำงาน รวมไปถึงความหลงใหลในงานออกแบบที่ทันสมัย ​​รถคันนี้สะท้อนให้เห็นสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์และความรู้สึกของผู้เป็นเจ้าของได้อย่างซื่อตรงและแม่นยำยิ่งกว่าครั้งใด ๆ ในบรรดาผลงานที่ถูกผลิตภายใต้โปรแกรม Coachbuild  การออกแบบรถยนต์ให้ตรงกับบุคลิกและความชอบของผู้เป็นเจ้าของ ทำให้ โรลส์-รอยซ์ สามารถนำเสนอคุณลักษณะและค่านิยมอันเป็นเอกลักษณ์ของตนได้เป็นอย่างดี ตัวรถสะท้อนถึงความเรียบง่าย ความสงบ และความสง่างามอันประณีต – เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่เราได้มีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์ยานยนต์ที่มีความหมายและมีคุณค่าเช่นนี้”

 

อเล็กซ์ อินเนส หัวหน้าฝ่าย Coachbuild Design โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส

 

โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส ยินดีเป็นอย่างยิ่งสำหรับการเปิดตัว Rolls-Royce Arcadia Droptail ผลงานใหม่ล่าสุดที่ได้รับการสั่งทำขึ้นเป็นพิเศษ ให้ความรู้สึกเงียบสงบผสมผสานกับความสง่างามอย่างมีเอกลักษณ์ ชูความเรียบง่ายและความงามด้วยวัสดุจากธรรมชาติ ในขณะเดียวกันก็บ่งบอกถึงสไตล์ส่วนตัวของผู้เป็นเจ้าของอย่างชัดเจน Arcadia Droptail ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษสำหรับเจ้าของที่มีความสนใจในด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ แสดงให้เห็นถึงความชอบและมาตรฐานของผู้เป็นเจ้าของในด้านความหรูหรา แต่ยังคงเน้นความเรียบง่ายและความสง่างามเหนือบรรยาย การออกแบบ Arcadia Droptail สะท้อนถึงรสนิยมอันประณีตของผู้เป็นเจ้าของ และความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้า ในการขจัดความซับซ้อนที่ไม่จำเป็น เพื่อเผยให้เห็นถึงแก่นแท้ของความหรูหราอย่างแท้จริง 

 

Rolls-Royce Arcadia Droptail ได้รับการตั้งชื่อตามสถานที่ในเทพนิยายกรีกโบราณที่ถูกกล่าวขานว่าเป็น ‘สวรรค์บนดิน’ โดยแผ่นดินที่ชื่อว่า Arcadia ในตำนานเป็นสถานที่ที่เงียบสงบและงดงามตามธรรมชาติ ด้วยแรงบันดาลใจจากสถานที่ดังกล่าว Arcadia Droptail จึงได้รับการออกแบบให้มีสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบ ผสานความเรียบง่ายโดยใช้วัสดุคุณภาพสูงที่มีมิติและผิวสัมผัสลุ่มลึก ทำหน้าที่เป็นสถานที่สำหรับการผ่อนคลาย เพื่อหลีกหนีจากความเครียดและความซับซ้อนวุ่นวายในชีวิตการทำงาน 

 

เพื่อให้เข้าถึงความรู้สึกเงียบสงบอย่างลึกซึ้ง ทีมออกแบบงาน Coachbuild ได้แสวงหาแรงบันดาลใจจากภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลกตามความประทับใจของลูกค้า พวกเขาสำรวจการออกแบบ ประติมากรรม และสถาปัตยกรรมจากสถานที่ที่มีความสำคัญต่อลูกค้า เช่น แรงบันดาลใจที่ได้รับจากความลงตัวและความเขียวชอุ่มของสวนลอยฟ้าที่เต็มไปด้วยพืชพรรณเขตร้อนที่พบได้ในสิงคโปร์ อินโดนีเซีย และเวียดนาม รวมไปถึงสถาปัตยกรรม ‘Biomimetic’ สไตล์อังกฤษที่เลียนแบบกลมกลืนไปกับธรรมชาติ เพื่อความยั่งยืนผ่านการคัดสรรวัสดุและวิธีการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

 

นอกจากนี้ ลูกค้ายังได้รับแรงบันดาลใจจากตัวรถและแนวคิดการออกแบบพื้นฐานของ Droptail อีกด้วย ลูกค้าที่สั่งผลิตรถคันนี้ ต้องการให้รถที่สร้างเสร็จ สะท้อนการออกแบบและรายละเอียดของภาพร่างต้นฉบับ ที่วาดด้วยมือในปีค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) ได้อย่างสมจริง

 

การออกแบบร่วมสมัยของตัวถังแบบ Roadster ดึงดูดความสนใจ และตรงตามรสนิยมของลูกค้าผู้สั่งผลิตรถคันนี้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะรูปลักษณ์ที่โดดเด่น แบนเตี้ย ให้ความรู้สึกมั่นคง การออกแบบห้องโดยสารที่ให้ความเป็นส่วนตัว นอกจากนี้ ยังสามารถสังเกตเห็นได้ทันทีถึงแรงบันดาลใจในการออกแบบที่ได้รับจากการเดินเรือ โดยจะเห็นได้จาก ‘sail cowls’หรือฝาครอบส่วนท้ายของ Droptail ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกับของเรือยอทช์ เพิ่มความหรูหราให้กับรูปลักษณ์ของรถ และดึงดูดทุกสายตาไปยังผู้ที่อยู่ภายในห้องโดยสาร

 

รูปลักษณ์: สะท้อนเอกลักษณ์ของ Droptail

 

เพื่อเติมเต็มความปรารถนาของลูกค้า ที่ชื่นชอบเอกลักษณ์ของ Droptail นักออกแบบของ Rolls-Royce Coachbuild ได้พัฒนาโทนสีที่ให้ความสงบและเป็นธรรมชาติ สำหรับรูปลักษณ์ภายนอก ลูกค้าต้องการตัวรถสีขาวเหนือกาลเวลา ดูชัดเจนตั้งแต่แรกเห็น แต่ยังคงเผยให้เห็นรายละเอียดอื่น ๆ ที่น่าสนใจภายใต้แสงธรรมชาติ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ นักออกแบบจึงใช้สีขาวล้วน ผสมกับอะลูมิเนียมและอนุภาคของกระจก เพื่อสร้างเอฟเฟกต์แวววาวเมื่อมีแสงตกกระทบที่ตัวรถ ช่วยให้สีรถดูมีมิติ นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญของ โรลส์-รอยซ์ ยังได้พัฒนาสีเงินเมทัลลิกที่มีอนุภาคอะลูมิเนียมขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อให้ตัดกับสีขาวอย่างเหมาะเจาะ ทั้งในเรื่องของสีและความเข้ม ทำให้มีพื้นผิวและรูปลักษณ์ที่เด่นสะดุดตามากขึ้น ตามคำขอของลูกค้า

 

การเปลี่ยนแปลงสำคัญที่ทำให้ Arcadia แตกต่างจากรถ Droptail อีกสามคันในซีรีส์นี้ คือ คาร์บอนไฟเบอร์ที่ใช้กับส่วนล่างของตัวถังจะถูกพ่นทับด้วยสีเงินอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ช่วยเสริมรูปลักษณ์ให้โฉบเฉี่ยว ดูปราดเปรียวและกระฉับกระเฉงยิ่งขึ้น

 

นอกจากนั้น เพื่อเพิ่มความเปล่งประกายของยนตรกรรม โรลส์-รอยซ์ สุดคลาสสิก ที่ลูกค้าชื่นชอบ กระจังหน้าพร้อมตราสัญลักษณ์ที่มีรูปทรงเป็นเอกลักษณ์ และล้ออัลลอยขนาด 22 นิ้ว ล้วนผ่านการขัดให้วาววับดุจกระจกแม้สีภายนอกของ Arcadia Droptail จะมีรายละเอียดอันซับซ้อนละเอียดอ่อน แต่จุดประสงค์หลักคือการแสดงให้เห็นถึงรูปทรงและสัดส่วนที่โดดเด่นของตัวรถ ลูกค้ารู้สึกประทับใจเป็นพิเศษกับพื้นผิวที่เรียบลื่นของ Droptail และการออกแบบพื้นผิวที่มีส่วนเว้าเข้าด้านใน สร้างเงา เพิ่มมิติความลึกและความน่าสนใจให้กับพื้นผิว คุณสมบัติเหล่านี้ยิ่งโดดเด่นมากขึ้นด้วยสีของตัวรถที่กลมกลืนไปกับธรรมชาติ สร้างเงาอย่างชัดเจนเมื่อสะท้อนกับแสงอาทิตย์ เน้นให้เห็นถึงองค์ประกอบการออกแบบอันละเอียดอ่อนของ Droptail มากยิ่งขึ้น

 

ห้องโดยสาร: เน้นความงดงามของงานไม้

ขณะที่การออกแบบภายนอกของ Rolls-Royce Arcadia Droptail จะเน้นไปที่รูปลักษณ์โดยรวมของรถ ห้องโดยสารก็ได้รับการปรับแต่งให้สะท้อนถึงความชอบและรสนิยมส่วนบุคคล มีรูปแบบเฉพาะตัว เพื่อให้ตรงกับสไตล์อันเป็เอกลักษณ์ของลูกค้า เหมือนกับที่ลูกค้าตั้งใจเลือกสิ่งที่ดีที่สุดอย่างพิถีพิถัน ให้กับบ้านและสถานที่ทำงานของตน การเลือกสีและวัสดุสำหรับ Arcadia Droptail ได้รับการวางแผนมาโดยเฉพาะ เมื่อมองเห็นแล้วสามารถระบุได้ทันทีว่ารถคันนี้เป็นของใคร เปรียบเสมือนเป็นลายเซ็นต์ประจำตัวของผู้ครอบครอง

 

กระบวนการพัฒนาและตกแต่งด้วยไม้ภายในห้องโดยสารของ Arcadia Droptail นับเป็นส่วนสำคัญในการออกแบบและเป็นความต้องการของลูกค้า ซึ่งมีความคาดหวังที่ชัดเจนเกี่ยวกับรูปลักษณ์และความรู้สึก โดยให้ความใส่ใจกับรายละเอียดอย่างใกล้ชิด เช่น พื้นผิว ลายไม้ สี และคุณภาพ นอกจากนี้ ลูกค้ายังได้แบ่งปันตัวอย่างของงานสถาปัตยกรรม รูปแบบการตกแต่งที่พักอาศัย รวมถึงรถคลาสสิกที่ชอบ เพื่อช่วยให้นักออกแบบและผู้เชี่ยวชาญด้านวัสดุของ โรลส์-รอยซ์เข้าใจถึงวิสัยทัศน์ของตน

 

ไม้ Santos Straight Grain (ซานโตส ลายตรง) ได้รับเลือกให้นำมาใช้ในงานออกแบบครั้งนี้ ด้วยเนื้อสัมผัสที่หรูหราและรูปลักษณ์ที่น่าสนใจ มีลายไม้ที่โดดเด่นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เข้ากันได้อย่างลงตัวผ่านความละเมียดละไมในการออกแบบ

 

การนำไม้เนื้อแข็งความหนาแน่นสูงมาตกแต่งห้องโดยสารของ Droptail นับเป็นความท้าทายครั้งสำคัญ สำหรับช่างฝีมือของ โรลส์-รอยซ์ไม้ Santos Straight Grain มีเนื้อละเอียดมาก สามารถฉีกขาดหรือแตกร้าวได้ง่าย หากไม่ระมัดระวังในระหว่างกระบวนการการตัด (เกิดรอยแตกขนานไปกับเส้นลายไม้) หรือระหว่างกระบวนการทำให้แห้ง แม้การทำงานกับวัสดุที่บอบบางจะเป็นเรื่องยาก แต่ไม้ Santos Straight Grain ก็ถูกนำมาตกแต่งในหลายส่วนของ Droptail รวมถึงส่วนท้ายที่ได้รับการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ เพื่อสมรรถนะที่ดียิ่งขึ้น โดยใช้แผงไม้จัดเรียงไม้ทำมุม 55 องศา อย่างแม่นยำ และเพื่อให้แน่ใจว่าการตกแต่งด้วยไม้มีความสมบูรณ์แบบ สำหรับรูปทรงที่ซับซ้อน ช่างฝีมือของ โรลส์-รอยซ์ ใช้ไม้ทั้งหมด 233 ชิ้นใน Arcadia Droptail โดย 76 ชิ้นถูกใช้กับส่วนท้ายของรถ 

 

เนื่องจาก Arcadia Droptail จะถูกนำไปใช้งานในสถานที่ต่าง ๆ ทั่วโลก รวมถึงพื้นที่ในเขตร้อน จึงได้รับการดูแลเป็นพิเศษเพื่อปกป้องพื้นผิวไม้ภายนอก ในตอนแรก เทคนิคการเคลือบพื้นผิวที่ใช้กับเรือยอทช์ได้ถูกนำมาพิจารณา แต่ถูกปฏิเสธ เนื่องจากวิธีนี้จำเป็นต้องบำรุงรักษาบ่อยครั้ง แทนที่จะใช้สารเคลือบที่ใช้กันทั่วไปบนเรือยอชท์สุดหรู แลคเกอร์แบบพิเศษได้ถูกสร้างขึ้นสำหรับ Arcadia Droptail โดยเฉพาะ การเคลือบไม้ด้วยแลกเกอร์นี้เพียงครั้งเดียวสามารถปกป้องพื้นผิวไม้ตลอดอายุการใช้งาน

 

เพื่อให้มั่นใจว่าแลคเกอร์ทำหน้าที่ในการปกป้องได้เป็นอย่างดี ผู้เชี่ยวชาญของ โรลส์-รอยซ์ ได้ทำการทดสอบพิเศษ โดยเก็บตัวอย่างแผงไม้ที่ผ่านกระบวนการเลียนแบบสภาพอากาศสุดขั้วแบบต่างๆ รวมไปถึงการพ่นน้ำใส่ตัวไม้เป็นช่วงๆ ปล่อยให้แห้งในที่มืด จากนั้นจึงให้สัมผัสกับความร้อนและแสงสว่าง

 

มีการทดสอบด้วยกระบวนการนี้กับ 18 ตัวอย่างที่แตกต่างกัน ใช้เวลาในการทดสอบกว่า 1000 ชั่วโมง ก่อนที่ผู้เชี่ยวชาญของ โรลส์-รอยซ์ จะพึงพอใจกับอายุการใช้งานของไม้และสารเคลือบ โดยรวมแล้วทีมงานใช้เวลากว่า 8000 ชั่วโมง ในการพัฒนาชิ้นไม้และสารเคลือบป้องกันเพื่อ อายุการใช้งานที่ยาวนานและยั่งยืน

 

การออกแบบภายใน: โดดเด่นด้วยสีขาว

 

หนังแท้ถูกสั่งทำขึ้นเป็นพิเศษ ประกอบไปด้วยสีพิเศษสองเฉดสี ที่ได้รับการตั้งชื่อตามลูกค้า และสงวนไว้เพื่อใช้สำหรับผู้ครอบครอง สีหลักคือ สีขาวอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเข้ากันได้เป็นอย่างดีกับสีตัวถัง ในขณะที่อีกสีหนึ่งคือสีแทน (tan) สั่งทำขึ้นเป็นพิเศษและเข้ากันได้อย่างลงตัวกับไม้ที่เลือกใช้การตกแต่งด้วยไม้อย่างประณีตงดงามปรากฏให้เห็นในรถรุ่น Droptail ทั้งสี่คัน ซึ่งเป็นการตกแต่งด้วยไม้ชิ้นเดียวขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในรถยนต์ โรลส์-รอยซ์ โดยใน Arcadia Droptail แผ่นไม้นี้ทำจากไม้ชนิดเดียวกับแผงไม้บนส่วนท้ายของรถ มีลวดลายที่เข้ากันและทำมุม 55 องศา เช่นเดียวกัน ลวดลายบนแผ่นไม้ดำเนินต่อเนื่องอย่างไร้รอยต่อไปยังขอบประตู สร้างรูปลักษณ์ที่กลมกลืนทั่วห้องโดยสาร มีการใช้ซอฟต์แวร์ออกแบบ (CAD) เพื่อคำนวณว่าจะวางไม้แต่ละชิ้นไว้ในตำแหน่งใด แม้ว่าจะดูเหมือนว่าทำมาจากแผงไม้ 2 ชิ้นที่เหมือนกัน แต่จริง ๆ แล้วแผงไม้นี้มีองค์ประกอบย่อยถึง 40 ส่วน แต่ละส่วนได้รับการวางแผนอย่างรอบคอบด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ก่อนจะติดตั้งกับรถ

 

ในการติดตั้งไม้ลงบนส่วนโค้งในห้องโดยสารของ Droptail วิศวกรของ โรลส์-รอยซ์ ต้องสร้างฐานรองรับสำหรับส่วนประกอบบางชิ้น โดยรูปทรงของแผงหน้าปัด ขอบประตู และที่วางแขนตรงกลางจะต้องมีความแข็งแรง เพื่อให้ชิ้นไม้มีความมั่นคงเมื่อประกอบเข้าด้วยกัน วิศวกรใช้เทคนิคการซ้อนชั้นคาร์บอนไฟเบอร์ที่ใช้กับรถแข่งฟอร์มูล่าวัน เพื่อสร้างฐานที่แข็งแกร่ง สามารถรองรับส่วนประกอบที่เป็นไม้ ให้ยึดกับฐานได้อย่างมั่นคง แม้ขณะรถเคลื่อนด้วยความเร็วสูง หรือขับบนเส้นทางขรุขระ

 

นาฬิกาสั่งทำพิเศษ: ที่สุดแห่งความแม่นยำ

 

บนแผงหน้าปัดที่ประกอบขึ้นจากไม้ มีนาฬิกาที่สั่งทำขึ้นเป็นพิเศษฝังอยู่ ผลิตโดยนักออกแบบและช่างฝีมือของ โรลส์-รอยซ์ นี่คือ นาฬิกาที่มีความซับซ้อนที่สุด เท่าที่ โรลส์-รอยซ์ เคยสร้าง โดยใช้เวลาถึงห้าเดือนในการประกอบ หลังผ่านกระบวนการวางแผนและออกแบบนานกว่าสองปี

 

นาฬิกาถูกออกแบบโดยใช้เทคนิคกิโยเช (Guilloché) เรขาคณิตบนพื้นผิวโลหะพร้อมหน้าตัด 119 ด้าน การออกแบบผลงานชิ้นนี้ นับเป็นการเชิดชูประวัติศาสตร์อันยาวนานของอโรลส์-รอยซ์ เนื่องจากลูกค้าได้ยลโฉมรถยนต์คันนี้ในปี ค.ศ. 2023 ก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ซึ่งตรงกับการเฉลิมฉลองครบรอบ 119 ปีของโรลส์-รอยซ์ หน้าปัดนาฬิกาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมีเข็มนาฬิกาที่มีความแวววาว โดยมีตัวบอกตำแหน่งชั่วโมง หรือหลักชั่วโมง 12 ตำแหน่ง แต่ละตัวมีความหนาเพียง 0.1 มม. และเพื่อให้มั่นใจว่านาฬิกาอ่านได้โดยง่าย ผู้เชี่ยวชาญได้เพิ่มขีดขนาดเล็กไว้ที่ตำแหน่งชั่วโมงทั้ง 12 จุด แล้วทำการลงสีมาร์กเกอร์แต่ละชิ้นด้วยมืออย่างระมัดระวัง โดยใช้กล้องแบบพิเศษที่สามารถขยายภาพได้สูงสุดถึง 100 เท่า

 

แม้จะมีการใช้เทคนิคขั้นสูงที่พบได้ในการผลิตนาฬิกาที่มีคุณภาพระดับสูงสุด แต่ โรลส์-รอยซ์ ยังคงใช้มาตรฐานที่เข้มงวดในการทดสอบ และทำให้แน่ใจว่าทุกส่วนทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยเหตุนี้ ผู้เชี่ยวชาญของ โรลส์-รอยซ์ จึงต้องใช้วัสดุและเทคนิคที่หลากหลาย เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานระดับสูงสุด ตัวอย่างเช่น แทนที่จะใช้วิธีการทั่วไปอย่างการอโนไดซ์หลักนาทีบนหน้าปัดนาฬิกา ทีมงานเลือกใช้การเคลือบเซรามิก เนื่องจากมีความเสถียรและคงความงามได้ยาวนาน มีการใช้เลเซอร์เพื่อกำจัดเศษของสารเคลือบ เผยให้เห็นอะลูมิเนียมมันวาวที่อยู่ด้านล่าง ทุกส่วนของนาฬิการวมถึงอักษรย่อตัว ‘R’ คู่ ผลิตจากสเตนเลสสตีล และขัดเงาด้วยมือก่อนนำมาประกอบเข้ากับตัวเรือน

 

การออกแบบและสไตล์ที่ใช้ในนาฬิกา ถูกนำไปใช้กับแผงหน้าปัดของรถด้วยเช่นกัน ใช้วัสดุ เทคนิค และวิธีการสร้าง
แบบเดียวกัน ดังนั้น ตัวนาฬิกาและแผงหน้าปัดรถยนต์จึงมีรูปลักษณ์และการใช้งานที่คล้ายคลึงกัน ตัวอย่างเช่น ทั้งนาฬิกาและแผงหน้าปัดมีลวดลายที่ใช้เทคนิคกิโยเช (Guilloché) รวมถึงชิ้นส่วนที่เป็นโลหะขัดเงา และมีส่วนที่ใช้สีขาวซึ่งเข้ากับโทนสีของรถ

 

แสดงออกถึงไลฟ์สไตล์ที่เป็นสากล

 

เพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของผู้ครอบครองที่มีการเดินทางไปทั่วโลก รถรุ่นนี้จึงถูกผลิตขึ้นโดยมีพวงมาลัยอยู่ทางซ้าย
เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งานในต่างประเทศ ลูกค้าให้ความสำคัญกับความเป็นสากลในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก 
จนทีม Coachbuild Collective ได้จัดให้มีการสัมผัสประสบการณ์การใช้รถในสถานที่ต่างๆ ทั่วโลกก่อนที่จะลงมือผลิตรถคันนี้ โดยใช้ระบบ VR แบบพิเศษที่เรียกว่า ‘holodeck (โฮโลเด็ค)’ เพื่อจำลองสถานการณ์ ลูกค้าเพียงต้องสวมแว่น VR แบบพิเศษเพื่อดูว่ารถจะมีลักษณะเป็นอย่างไรเมื่ออยู่ในสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก

 

ARCADIA DROPTAIL: ความสง่างามของคอลเลคชัน DROPTAIL

 

ลูกค้า โรลส์-รอยซ์ แต่ละท่านมีความต้องการที่แตกต่างกันไป และเข้าใจดีถึงสิ่งที่ตนต้องการ ความปรารถนาของลูกค้าท่านนี้ชัดเจนตั้งแต่แรกเริ่ม อย่างไรก็ตาม การแปลงความชอบส่วนบุคคลที่มีรายละเอียดซับซ้อนเหล่านี้ ให้กลายมาเป็นงานออกแบบที่ใช้งานได้จริง ต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก กระบวนการสร้างสรรค์แบบ Coachbuild ใช้เวลากว่าสี่ปี และต้องอาศัยความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างลูกค้าและ โรลส์-รอยซ์ ในการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ทรงคุณค่า

 

นักออกแบบที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการ Coachbuild ใช้เวลาหลายเดือนในการศึกษาอย่างรอบคอบ และทำความเข้าใจถึงความต้องการของลูกค้าในด้านต่างๆ ของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นความชอบในเรื่องเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย เฟอร์นิเจอร์ อาหาร และสถานที่ท่องเที่ยว จากการวิเคราะห์ความชอบและประสบการณ์ของลูกค้า ผู้ออกแบบได้สร้างสรรค์สไตล์ที่สะท้อนถึงสิ่งเหล่านี้ โดยได้รับการพัฒนาด้วยความเชี่ยวชาญของทีมงานออกแบบ ผสมผสานกับความเข้าใจและการตัดสินใจอย่างมืออาชีพ เพื่อสร้างสุนทรียศาสตร์ที่แท้จริงสำหรับลูกค้า ซึ่งสมาชิกในครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บุตรสาวของลูกค้า ได้เข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการออกแบบครั้งนี้ เมื่อการออกแบบขั้นสุดท้ายเสร็จสิ้น ตัวแบบได้ถูกนำเสนอต่อครอบครัวของลูกค้า โดยทุกคนเห็นพ้องว่าการออกแบบสะท้อนถึงสไตล์และบุคลิกภาพของลูกค้าได้เป็นอย่างดี

 

ลูกค้ารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ความชอบและเอกลักษณ์ของตนถูกสะท้อนออกมาให้เห็นในการออกแบบ กระบวนการเหล่านี้ทำให้ค้นพบว่าลูกค้ามีสไตล์ที่ทันสมัยมากกว่าที่คิด เน้นความเรียบง่าย เลือกใช้วัสดุที่เป็นธรรมชาติ และให้ความใส่ใจในรายละเอียด โดยการออกแบบ Arcadia Droptail ได้กลายมาเป็นต้นแบบสำหรับโครงการในอนาคต ระหว่างลูกค้ากับสถาปนิกและแบรนด์อื่นๆ

 

การออกแบบของ Rolls-Royce Droptail แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมของลูกค้า วิสัยทัศน์ที่ชัดเจน 
และความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนกับ โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส ลักษณะที่สำคัญของ Rolls-Royce Droptail คือ การออกแบบที่หรูหราแต่ยังคงไว้ซึ่งความเรียบง่าย รวมถึงความสามารถอันยอดเยี่ยมของทีมนักออกแบบ Rolls-Royce Coachbuild ในการทำความเข้าใจ และสะท้อนให้เห็นถึงสไตล์และตัวตนของบุคคล ผ่านการออกแบบที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด

 

ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ