ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอเรจ ยูไนเต็ด แนะนำ “ซี ทูน่าเอสเซนส์” “ปลากฏการณ์” นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ซุปปลาทูน่าสกัดแบรนด์แรกของโลก แจ้งเกิดเซกเมนต์ใหม่ตลาดเครื่องดื่มสกัดเพื่อสุขภาพ ชิงส่วนแบ่งตลาดกว่า 10,000 ล้าน
เมื่อ : 14 ธ.ค. 2564 ,
1074 Views
กรุงเทพฯ – 14 ธันวาคม 2564 – ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอเรจ ยูไนเต็ด แนะนำผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพรูปแบบใหม่ ซี ทูน่าเอสเซนส์ (ZEA Tuna Essence) ซุปปลาทูน่าสกัด ผลิตภัณฑ์แรกของบริษัท ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอเรจ ยูไนเต็ด จำกัด ที่เกิดจากการผนึกความร่วมมือครั้งสำคัญของ 2 ยักษ์ใหญ่แห่งวงการอาหารและเครื่องดื่มของประเทศไทย ทั้งบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) นำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญมาสร้างสรรค์นวัตกรรมและยกระดับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ตอบเทรนด์ Health & Wellness ของผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ โดยจุดเด่นของ ซี ทูน่าเอสเซนส์ คือ นอกจากให้ประโยชน์เต็มๆ ด้วยคุณค่าจากท้องทะเลแล้ว รสชาติยังถูกใจผู้บริโภคอีกด้วย
นายธารินทร์ รินธนาเลิศ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอเรจ ยูไนเต็ด จำกัด กล่าวว่า “การผนึกความร่วมมือกันในครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำการเป็นผู้นำธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มครบวงจรของภูมิภาคอาเซียนของไทยเบฟเวอเรจ และการเป็นผู้ผลิตอาหารทะเลชั้นนำของโลกของไทยยูเนี่ยน ที่ร่วมกันสร้างสรรค์นวัตกรรมเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ด้วยการเปิดตัว ซี ทูน่าเอสเซนส์ ปลากฏการณ์ ครั้งแรกของนวัตกรรมซุปปลาทูน่าสกัด ซึ่งเป็นปลาทะเลน้ำลึกตามธรรมชาติที่เป็นแหล่งโปรตีนชั้นเยี่ยม ที่มีคุณประโยชน์สารอาหารมากมาย โดยเฉพาะ วิตามินบี 12, ซิงค์ และซีลีเนียม รวมถึงกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
ตลาดเครื่องดื่มสกัดเสริมสุขภาพมีมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท ประกอบด้วยเครื่องดื่มซุปไก่สกัด เครื่องดื่ม รังนก เครื่องดื่มผลไม้สกัดเข้มข้น และเครื่องดื่มฟังก์ชันนัลอื่นๆ ซึ่งมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด แต่ชะงักไปในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยบริษัทเห็นว่ายังมีโอกาสมาก เนื่องจาก penetration rate ของตลาดนี้ยังคงต่ำอยู่ จึงสร้างสรรค์นวัตกรรมซุปปลาทูน่าสกัดมาเป็นทางเลือกใหม่ ซึ่งผลิตภัณฑ์ ซี ทูน่าเอสเซนส์ เป็นผลิตภัณฑ์แรกของบริษัทฯ และเป็นนวัตกรรมซุปปลาทูน่าสกัดแบรนด์แรกของโลก โดยแจ้งเกิดเป็นเซกเมนต์ใหม่ในตลาดเครื่องดื่มสกัดเสริมสุขภาพของประเทศไทย”
ด้าน ดร.ธัญญวัฒน์ เกษมสุวรรณ กรรมการบริษัท ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอเรจ ยูไนเต็ด และผู้อำนวยการกลุ่มด้านนวัตกรรม บริษัท ไทยยูเนี่ยนกรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า “ทั้ง 2 บริษัทได้นำประสบการณ์และ Know-how กระบวนการผลิตระดับโลก มาสร้างสรรค์เป็น ซี ทูน่าเอสเซนส์ ที่สกัดเอาคุณประโยชน์เต็มๆ ด้วยเทคโนโลยี นาโนฟิลเทรชั่น ที่กรองและย่อยโมเลกุลของโปรตีนให้มีขนาดเล็กลง ดูดซึมได้ง่าย และยังผ่านการทดสอบคุณภาพและคุณค่าสารอาหาร จาก Japan Food Research Laboratories ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยอาหารชั้นนำ ระดับโลก ณ ประเทศญี่ปุ่น จึงมั่นใจในคุณภาพได้ทุกขวด โดยในส่วนของโรงงาน เป็นการลงทุนสร้าง ไลน์การผลิตใหม่ ด้วยงบประมาณกว่า 100 ล้านบาท ที่โรงงานโออิชิ นวนคร”
ด้วยวัตถุดิบปลาทูน่าจากทะเลลึกและเทคโนโลยีการผลิตที่สร้างสรรค์ เพื่อให้ได้คุณค่าต่อผู้บริโภคสูงสุด ซี ทูน่าเอสเซนส์ จึงมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย คือ โอเมก้า 3 และ วิตามินบี 12 มีส่วนช่วยในการทำงานตามปกติของระบบประสาทและสมอง รวมถึงมี ซิงค์ และซีลีเนียมสูง ให้ประโยชน์เต็มๆ ในทุกขวด และผลการวิจัยทางการตลาดเปรียบเทียบ ซี ทูน่าเอสเซนส์ กับผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่ผู้บริโภคดื่มเป็นประจำ พบว่าผู้บริโภคประทับใจ ซี ทูน่าเอสเซนส์ มากกว่าในด้านของการช่วยเพิ่มความสดชื่นกระปรี้กระเปร่า 72% และบำรุงสมอง 55% โดยหลังจากทดลองดื่มติดต่อกัน 7 วัน กว่า 93% บอกว่าจะดื่มเป็นประจำ และมากถึง 97% จะแนะนำผลิตภัณฑ์ให้เพื่อนและคนในครอบครัว โดยเน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายคนวัยทำงาน อายุ 22-40 ปีที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องการสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง ต้องการบำรุงร่างกายและพลังสมองให้พร้อมในทุกวัน ด้วยนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ที่ไม่เคยมีมาก่อน
ด้าน นายธารินทร์ กล่าวเสริมว่า บริษัทได้ทุ่มงบกว่า 100 ล้านบาท ตั้งเป้าสร้างการรับรู้และให้เกิดการทดลองผลิตภัณฑ์ ประกอบด้วยภาพยนตร์โฆษณาชุด “โลกเปลี่ยนไปแล้ว” ที่ได้อาเล็ก ธีรเดช เมธาวรายุทธ มาเป็นพรีเซนเตอร์ที่เป็นตัวแทนถ่ายทอดเรื่องราวของคนรุ่นใหม่ที่มีหลายบทบาท ใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่า พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ ที่จะออนแอร์ในเดือนธันวาคม พร้อมจัดเต็มด้วยกิจกรรมให้ผู้บริโภคทั่วประเทศได้ทดลองดื่มมากกว่า 300,000 คนตลอดทั้งปี ต่อยอดด้วย Online Campaign เน้นการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายแบบเจาะกลุ่ม วางแผน Influencer Marketing ที่ตอบรับวิถีการเสพ Online Content ในปัจจุบัน ที่ให้ความสนใจทั้ง KOLs (key opinion leaders) และ KOCs (key opinion consumers) รวมถึงเสริมการรับรู้ผลิตภัณฑ์ให้มากขึ้นผ่านสื่อ Transit สื่อ OOH เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากกว่า 15 ล้านคน ทั่วประเทศ
ซี ทูน่าเอสเซนส์ ซุปปลาทูน่าสกัด ได้ประโยชน์เต็มๆ ของคุณค่าจากท้องทะเล ด้วยโอเมก้า 3 และวิตามินบี 12 ที่มีส่วนช่วยในการทำงานของระบบประสาทและสมอง รวมทั้งมีซิงค์และซีลีเนียม ที่มีส่วนช่วยในการทำหน้าที่ตามปกติของระบบภูมิคุ้มกัน และการปกป้องเซลล์จากอนุมูลอิสระ มีให้เลือก 2 รสชาติ ได้แก่ ออริจินัล เข้มข้น กลมกล่อม และแพชชั่นฟรุต อร่อย ดื่มง่าย คุณประโยชน์อัดแน่นเต็มขวด ในราคาขวดละ 47 บาทเท่านั้น มีจำหน่ายที่ เซเว่น อีเลฟเว่น รวมถึงร้านสะดวกซื้ออื่นๆ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ และช่องทางการขายออนไลน์
ด้าน ดร.ธัญญวัฒน์ กล่าวเสริมว่า “ซี ทูน่าเอสเซนส์ ภูมิใจที่ได้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์จากการวิจัยและพัฒนาของเราให้คนไทยได้บริโภค มั่นใจว่าด้วยคุณประโยชน์ที่ได้จากซุปปลาทูน่าสกัด และรสชาติที่ดื่มง่ายของ ซี ทูน่าเอสเซนส์ จะเป็นตัวเลือกเครื่องดื่มเสริมสุขภาพที่โดนใจคนไทยแน่นอน”
“เรามั่นใจว่าการมุ่งมั่นสร้างการรับรู้ในการเปิดตัว ซี ทูน่าเอสเซนส์ ในครั้งนี้ จะสามารถสร้างสีสันและกระตุ้นการเติบโตให้กับตลาดเครื่องดื่มสกัดเพื่อสุขภาพ ช่วยเพิ่ม penetration การบริโภคของเซ็กเมนต์มากขึ้น เพื่อให้คนไทยได้มีประโยชน์เต็มๆ ของ ซี ทูน่าเอสเซนส์” นายธารินทร์ กล่าวทิ้งท้าย
นายธารินทร์ รินธนาเลิศ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอเรจ ยูไนเต็ด จำกัด กล่าวว่า “การผนึกความร่วมมือกันในครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำการเป็นผู้นำธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มครบวงจรของภูมิภาคอาเซียนของไทยเบฟเวอเรจ และการเป็นผู้ผลิตอาหารทะเลชั้นนำของโลกของไทยยูเนี่ยน ที่ร่วมกันสร้างสรรค์นวัตกรรมเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ด้วยการเปิดตัว ซี ทูน่าเอสเซนส์ ปลากฏการณ์ ครั้งแรกของนวัตกรรมซุปปลาทูน่าสกัด ซึ่งเป็นปลาทะเลน้ำลึกตามธรรมชาติที่เป็นแหล่งโปรตีนชั้นเยี่ยม ที่มีคุณประโยชน์สารอาหารมากมาย โดยเฉพาะ วิตามินบี 12, ซิงค์ และซีลีเนียม รวมถึงกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
ตลาดเครื่องดื่มสกัดเสริมสุขภาพมีมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท ประกอบด้วยเครื่องดื่มซุปไก่สกัด เครื่องดื่ม รังนก เครื่องดื่มผลไม้สกัดเข้มข้น และเครื่องดื่มฟังก์ชันนัลอื่นๆ ซึ่งมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด แต่ชะงักไปในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยบริษัทเห็นว่ายังมีโอกาสมาก เนื่องจาก penetration rate ของตลาดนี้ยังคงต่ำอยู่ จึงสร้างสรรค์นวัตกรรมซุปปลาทูน่าสกัดมาเป็นทางเลือกใหม่ ซึ่งผลิตภัณฑ์ ซี ทูน่าเอสเซนส์ เป็นผลิตภัณฑ์แรกของบริษัทฯ และเป็นนวัตกรรมซุปปลาทูน่าสกัดแบรนด์แรกของโลก โดยแจ้งเกิดเป็นเซกเมนต์ใหม่ในตลาดเครื่องดื่มสกัดเสริมสุขภาพของประเทศไทย”
ด้าน ดร.ธัญญวัฒน์ เกษมสุวรรณ กรรมการบริษัท ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอเรจ ยูไนเต็ด และผู้อำนวยการกลุ่มด้านนวัตกรรม บริษัท ไทยยูเนี่ยนกรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า “ทั้ง 2 บริษัทได้นำประสบการณ์และ Know-how กระบวนการผลิตระดับโลก มาสร้างสรรค์เป็น ซี ทูน่าเอสเซนส์ ที่สกัดเอาคุณประโยชน์เต็มๆ ด้วยเทคโนโลยี นาโนฟิลเทรชั่น ที่กรองและย่อยโมเลกุลของโปรตีนให้มีขนาดเล็กลง ดูดซึมได้ง่าย และยังผ่านการทดสอบคุณภาพและคุณค่าสารอาหาร จาก Japan Food Research Laboratories ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยอาหารชั้นนำ ระดับโลก ณ ประเทศญี่ปุ่น จึงมั่นใจในคุณภาพได้ทุกขวด โดยในส่วนของโรงงาน เป็นการลงทุนสร้าง ไลน์การผลิตใหม่ ด้วยงบประมาณกว่า 100 ล้านบาท ที่โรงงานโออิชิ นวนคร”
ด้วยวัตถุดิบปลาทูน่าจากทะเลลึกและเทคโนโลยีการผลิตที่สร้างสรรค์ เพื่อให้ได้คุณค่าต่อผู้บริโภคสูงสุด ซี ทูน่าเอสเซนส์ จึงมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย คือ โอเมก้า 3 และ วิตามินบี 12 มีส่วนช่วยในการทำงานตามปกติของระบบประสาทและสมอง รวมถึงมี ซิงค์ และซีลีเนียมสูง ให้ประโยชน์เต็มๆ ในทุกขวด และผลการวิจัยทางการตลาดเปรียบเทียบ ซี ทูน่าเอสเซนส์ กับผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่ผู้บริโภคดื่มเป็นประจำ พบว่าผู้บริโภคประทับใจ ซี ทูน่าเอสเซนส์ มากกว่าในด้านของการช่วยเพิ่มความสดชื่นกระปรี้กระเปร่า 72% และบำรุงสมอง 55% โดยหลังจากทดลองดื่มติดต่อกัน 7 วัน กว่า 93% บอกว่าจะดื่มเป็นประจำ และมากถึง 97% จะแนะนำผลิตภัณฑ์ให้เพื่อนและคนในครอบครัว โดยเน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายคนวัยทำงาน อายุ 22-40 ปีที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องการสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง ต้องการบำรุงร่างกายและพลังสมองให้พร้อมในทุกวัน ด้วยนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ที่ไม่เคยมีมาก่อน
ด้าน นายธารินทร์ กล่าวเสริมว่า บริษัทได้ทุ่มงบกว่า 100 ล้านบาท ตั้งเป้าสร้างการรับรู้และให้เกิดการทดลองผลิตภัณฑ์ ประกอบด้วยภาพยนตร์โฆษณาชุด “โลกเปลี่ยนไปแล้ว” ที่ได้อาเล็ก ธีรเดช เมธาวรายุทธ มาเป็นพรีเซนเตอร์ที่เป็นตัวแทนถ่ายทอดเรื่องราวของคนรุ่นใหม่ที่มีหลายบทบาท ใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่า พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ ที่จะออนแอร์ในเดือนธันวาคม พร้อมจัดเต็มด้วยกิจกรรมให้ผู้บริโภคทั่วประเทศได้ทดลองดื่มมากกว่า 300,000 คนตลอดทั้งปี ต่อยอดด้วย Online Campaign เน้นการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายแบบเจาะกลุ่ม วางแผน Influencer Marketing ที่ตอบรับวิถีการเสพ Online Content ในปัจจุบัน ที่ให้ความสนใจทั้ง KOLs (key opinion leaders) และ KOCs (key opinion consumers) รวมถึงเสริมการรับรู้ผลิตภัณฑ์ให้มากขึ้นผ่านสื่อ Transit สื่อ OOH เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากกว่า 15 ล้านคน ทั่วประเทศ
ซี ทูน่าเอสเซนส์ ซุปปลาทูน่าสกัด ได้ประโยชน์เต็มๆ ของคุณค่าจากท้องทะเล ด้วยโอเมก้า 3 และวิตามินบี 12 ที่มีส่วนช่วยในการทำงานของระบบประสาทและสมอง รวมทั้งมีซิงค์และซีลีเนียม ที่มีส่วนช่วยในการทำหน้าที่ตามปกติของระบบภูมิคุ้มกัน และการปกป้องเซลล์จากอนุมูลอิสระ มีให้เลือก 2 รสชาติ ได้แก่ ออริจินัล เข้มข้น กลมกล่อม และแพชชั่นฟรุต อร่อย ดื่มง่าย คุณประโยชน์อัดแน่นเต็มขวด ในราคาขวดละ 47 บาทเท่านั้น มีจำหน่ายที่ เซเว่น อีเลฟเว่น รวมถึงร้านสะดวกซื้ออื่นๆ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ และช่องทางการขายออนไลน์
ด้าน ดร.ธัญญวัฒน์ กล่าวเสริมว่า “ซี ทูน่าเอสเซนส์ ภูมิใจที่ได้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์จากการวิจัยและพัฒนาของเราให้คนไทยได้บริโภค มั่นใจว่าด้วยคุณประโยชน์ที่ได้จากซุปปลาทูน่าสกัด และรสชาติที่ดื่มง่ายของ ซี ทูน่าเอสเซนส์ จะเป็นตัวเลือกเครื่องดื่มเสริมสุขภาพที่โดนใจคนไทยแน่นอน”
“เรามั่นใจว่าการมุ่งมั่นสร้างการรับรู้ในการเปิดตัว ซี ทูน่าเอสเซนส์ ในครั้งนี้ จะสามารถสร้างสีสันและกระตุ้นการเติบโตให้กับตลาดเครื่องดื่มสกัดเพื่อสุขภาพ ช่วยเพิ่ม penetration การบริโภคของเซ็กเมนต์มากขึ้น เพื่อให้คนไทยได้มีประโยชน์เต็มๆ ของ ซี ทูน่าเอสเซนส์” นายธารินทร์ กล่าวทิ้งท้าย