เมื่อ : 15 ธ.ค. 2566 , 137 Views
ผลวิจัยวีซ่าเผย “นักท่องเที่ยวซ้ำ” จะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวของประเทศไทย

กรุงเทพฯ ประเทศไทย วันที่ 14 ธันวาคม 2566 - การท่องเที่ยวของประเทศไทยจะถูกกระตุ้นโดย “นักท่องเที่ยวซ้ำ” โดยมากกว่าหนึ่งในสี่ (28%) ของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนประเทศไทยในช่วงปี 2566 บอกว่าพวกเขาตั้งใจจะกลับมาเที่ยวเมืองไทยอีกครั้งภายใน 12 เดือนข้างหน้า อ้างอิงจากผลสำรวจเกี่ยวกับแผนการท่องเที่ยวระดับโลก ฉบับล่าสุดประจำปี 2566 ของวีซ่า (Visa Global Travel Intentions Study 2023)[1] ซึ่งเป็นผลสำรวจที่ทำการศึกษาข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมและแผนการเดินทางของผู้บริโภคที่ใหญ่และจัดทำมายาวนานที่สุดโดยวีซ่า ผู้นำการให้บริการการชำระเงินดิจิทัลระดับโลก พบว่า นักท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มจะกลับมาเยือนประเทศไทยอีกครั้งในช่วง 12 เดือนต่อจากนี้ คือนักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย (42%) สิงคโปร์ (41%) ฟิลิปปินส์ (28%) สาธารณรัฐประชาชนจีน (25%) และเวียดนาม (22%) 

 

แรงจูงใจอันดับต้น ๆ สำหรับการท่องเที่ยวในปีหน้า คือ การผ่อนคลาย ชอปปิง เปิดประสบการณ์ การผจญภัย และการพบปะครอบครัวและเพื่อนฝูง โดยจุดหมายปลายทางยอดนิยมสามอันดับแรกที่นักท่องเที่ยวในภูมิภาคตั้งใจจะไปเยือนมากที่สุด คือ กรุงเทพฯ ภูเก็ต และพัทยา ขณะที่หัวหิน เชียงใหม่ และกระบี่ เป็นเมืองยอดนิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน มาเลเซีย และสิงคโปร์ ตามลำดับ

 

นายปุณณมาศ วิจิตรกุลวงศา ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยมีบทบาทสำคัญอย่างมากที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ เราหวังว่าข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้จะช่วยให้พันธมิตรของเราสามารถยกระดับประสบการณ์การเดินทางให้แก่นักท่องเที่ยวพร้อม ๆ ไปกับการส่งเสริมให้ธุรกิจเติบโตต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความพยายามร่วมกันของเรามีจุดหมายเดียวกันเพื่อต่อยอดอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและขับเคลื่อนให้ภาพรวมของระบบนิเวศการชำระเงินดียิ่ง ๆ ขึ้นไปอีกด้วย” 

 

นอกจากนี้ จากผลการสำรวจในการศึกษาพฤติกรรมการเดินทางของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมา พบว่าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มมิลเลนเนียล (51%) ตามด้วยกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีกำลังใช้จ่ายสูง (27%) ครอบครัวที่เดินทางกับเด็กเล็ก (18%) คนโสดวัยหนุ่มสาว (16%) เจน Z (15%) ครอบครัวที่เดินทางกับเด็กโต (14%) และกลุ่มวัยเกษียณ (11%) ตามลำดับ

 

หากมองลึกลงไปเกี่ยวกับระยะเวลาการท่องเที่ยวจะพบว่า นักท่องเที่ยวกลุ่มวัยเกษียณพำนักอยู่ในประเทศไทยนานที่สุดโดยเฉลี่ยมากถึง 12 คืน เมื่อเทียบกับจำนวนคืนโดยเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวในภาพรวมจะอยู่ที่ 8 คืน และเมื่อแยกตามเชื้อชาติ พบว่านักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์จะใช้เวลาพำนักนานที่สุดที่ 7 คืน ตามมาด้วยนักท่องเที่ยวชาวจีน และชาวเวียดนาม ซึ่งใช้เวลาพำนักในประเทศไทยที่ 5 คืน และนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียและชาวฟิลิปปินส์โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 4 คืน 

 

โดยระหว่างท่องเที่ยวในประเทศไทยนั้น เกือบครึ่งของนักท่องเที่ยว (48%) ใช้จ่ายสำหรับกิจกรรมต่าง ๆ ผ่านบัตรแทนเงินสด โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีกำลังใช้จ่ายสูง และครอบครัวที่เดินทางกับเด็ก เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักที่ใช้บัตรแทนเงินสดในการชำระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่น ชอปปิง (39%) รับประทานอาหาร (33%) และกิจกรรมต่าง ๆ (33%) โดยนักท่องเที่ยวเลือกใช้จ่ายผ่านบัตรแทนเงินสดมากที่สุดในช่วงวางแผนก่อนการเดินทางเพื่อชำระค่าใช้จ่ายในรายการหลัก ๆ อาทิ ค่าที่พัก (81%) และค่าเดินทาง (69%) เป็นต้น 


[1] ผลสำรวจเกี่ยวกับแผนการท่องเที่ยวระดับโลกประจำปี 2566 ของวีซ่า (Visa Global Travel Intentions Study 2023)  จัดทำขึ้นเพื่อศึกษาความเคลื่อนไหวและความต้องการของผู้เดินทางออกนอกประเทศระหว่างเดือนเมษายน - มิถุนายน 2566 โดยสำรวจเกี่ยวกับแนวโน้มด้านการท่องเที่ยว และพฤติกรรมการใช้จ่ายของนักเดินทางชาวไทยจำนวน 1049 รายที่มีการเดินทางไปต่างประเทศเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจในช่วงปีที่ผ่านมา รวมถึงความตั้งใจและการวางแผนการเดินทางสำหรับปีหน้า