“วีออมนิ” คว้ารางวัล Thailand Digital Excellence Awards 2023 ในสาขา “Digital Ecosystem Catalyst” ตอกย้ำความเป็นผู้นำในฐานะองค์กรดิจิทัลที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงท่ามกลาง การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Transformation)
“วีออมนิ” ยูนิตบริการภายใต้ บริษัท แอสเซนด์ คอมเมิร์ซ จำกัด ผู้นำการให้บริการดิจิทัลโซลูชั่นทางการค้าด้วยทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญและทักษะการทำงานขั้นสูง และระบบโซลูชั่นแพลตฟอร์มชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คว้ารางวัล Thailand Digital Excellence Awards 2023 ที่ดีที่สุดในด้าน “Digital Ecosystem Catalyst” ด้วยความร่วมมือในการจัดงานและมอบรางวัลโดย Boston Consulting Group (BCG) กับสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล แห่งประเทศไทย (DEPA)
รางวัลนี้เป็นเครื่องตอกย้ำความเชี่ยวชาญและความเป็นเลิศของ “วีออมนิ” ในฐานะองค์กร ที่ให้บริการ ด้านดิจิทัล และแสดงให้เห็นถึงแนวทางในการดำเนินธุรกิจขององค์กรในการ เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Transform) ที่ครอบคลุมเทคโนโลยี บุคคลากรที่เชี่ยวชาญและมีความพร้อม ในการพัฒนาและใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (Humanware) รวมไปถึงการวางตำแหน่งเชิงกลยุทธ์ การพัฒนาและวางแนวทาง (Roadmap) ที่มุ่งสร้างอนาคต อีกทั้งยังตอกย้ำภาพลักษณ์ขององค์กร ในฐานะผู้นำขององค์กรดิจิทัลในยุคที่ดิจิทัลมีบทบาทนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง (Digital Transformation)
นางสาวดรุณพรจิรกิจอนุสรณ์ ผู้จัดการทั่วไปของ วีออมนิ กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีและภูมิใจอย่างยิ่ง ที่ได้รับเกียรติจากสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) ในฐานะผู้จัดงาน Thailand Digital Excellence Awards 2023 ที่มอบรางวัล “The Best of Digital Ecosystem Catalyst” ให้กับ วีออมนิ รางวัลดังกล่าวเป็นการยืนยันถึงความมุ่งมั่นของวีออมนิ ในการเชื่อมต่อทุกส่วนของธุรกิจให้ ดำเนินการได้อย่างราบรื่นในฐานะผู้ให้บริการที่ครอบคลุมแบบครบวงจร ตั้งแต่การให้คำปรึกษา การพัฒนา และการติดตามผลการทำงานตั้งแต่ระยะเริ่มต้นไปจนถึงเมื่อจบการดำเนินงาน เพื่อยกระดับวิธีการทำงานแบบดิจิทัลยุคใหม่ท่ามกลางของการเปลี่ยนแปลงที่ดิจิทัลเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในปัจจุบัน การได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้จากองค์กรที่ปรึกษาระดับโลกอย่าง Boston Consulting Group (BCG) แสดงให้เห็นว่าผลงานของเราเป็นที่ยอมรับจากองค์กรในระดับโลก”
“วีออมนิ” เป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี ที่มีกระบวนการทำงานอันมีประสิทธิภาพ และ โดดเด่นในมิติต่างๆ โดยหนึ่งในความสำเร็จที่ “วีออมนิ” ได้ร่วมมือพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลที่ประสบ ความสำเร็จอย่างมากคือการร่วมมือกับ "CPF Feed" ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อให้ทุกคนสามารถที่จะใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีดิจิทัลได้แม้ไม่มีความเชี่ยวชาญด้านดิจิทัล ช่วยในการทำเกษตรกรรมของเกษตรกร ซึ่งจากความร่วมมือดังล่าวตลอดระยะเวลาสี่ปี “วีออมนิ" ประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนผ่านธุรกิจการเกษตรดั้งเดิมแบบออฟไลน์ 100% ไปสู่ธุรกิจออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบ โดยใช้แพลตฟอร์ม B2B2C เพื่อบูรณาการให้ผู้มี ส่วนร่วม ทั้งหมดในระบบนิเวศเข้าสู่แพลตฟอร์มออนไลน์แบบครบวงจร โดยเริ่มจากการย้ายฐาน ลูกค้าเดิมที่มีอยู่แล้วขยายฐานลูกค้าอย่างรวดเร็วไปสู่กลุ่มลูกค้าใหม่ โดยโครงการดังกล่าวได้สร้าง การเติบโต ของ GMV สะสมเพิ่มขึ้นถึง 1400% นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2563 และพุ่งสูงขึ้นถึงมากกว่า 3000 ล้านบาท ในปี 2566
ความสำเร็จอีกประการหนึ่งคือ "ความร่วมมือด้านเทคโนโลยีกับ Altervim" ซึ่งพัฒนาแอปพลิเคชัน บนสมาร์ทโฟนสำหรับสื่อสารและควบคุมการจ่ายไฟฟ้าที่สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า(EV) ได้อย่าง เต็มรูปแบบ แม้ความร่วมมือดังกล่าวจะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการดำเนินงาน แต่ก็มีการ เติบโตอย่างรวดเร็ว ในมุมของจำนวนผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 820% ภายในเวลาไม่ถึง 1 ปี และมีผู้ใช้มากกว่า 23000 รายในเดือนพฤศจิกายน 2566
การให้บริการ คลาวด์สมาร์ทเซอร์วิส (Cloud Smart Services) ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จ ที่โดดเด่นของ “วีออมนิ” โดยทีมผู้เชี่ยวชาญของวีออมนิ ในการจัดการระบบการ ให้บริการคลาวด์แบบครบวงจร (Cloud Service Solution) เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ตั้งแต่การวางกลยุทธ์ การใช้งาน ระบบสนับสนุนการทำงานหลังการปรับใช้งาน รวมไปถึงการตรวจสอบระบบตลอด 24 ชั่วโมง (24/7) โดยมีเป้าหมายหลักคือการจัดโครงสร้างพื้นฐานของระบบคลาวด์ ที่มีความเสถียร น่าเชื่อถือ ความยืดหยุ่น และประหยัด โดยนับตั้งแต่เปิดตัวบริการนี้ พบว่า ลดเวลาการทำงานแฝงลงได้ 75% และลดต้นทุนการทำงานของระบบคลาวด์ลงได้ 55% ซึ่งใช้เวลาในการพัฒนาแบบครบวงจรเต็มรูปแบบภายใน 15 วัน โดยไม่มีข้อบกพร่องใดๆ ที่เกิดจากการโยกย้ายระบบ และพร้อมใช้งาน 99.99%
นางสาวดรุณพร อธิบายเพิ่มเติมว่า “วีออมนิ มุ่งมั่นที่จะพัฒนาความสามารถด้านดิจิทัลของเรา ด้วยการเพิ่มทักษะของพนักงานอย่างต่อเนื่อง เราทุ่มเทให้กับการลงทุนในการพัฒนาบุคลากร ของเราอย่างต่อเนื่องโดยการจัดสรรงบประมาณด้านการฝึกอบรมเพิ่มขึ้นอีก 100% ในปี 2567 เพื่อส่งเสริมการเติบโตของบุคลากรอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าว่าภายใน 3 ปีข้างหน้า (2569) บุคคลากรทั้งหมดในองค์กรจะต้องมีความรู้ด้านดิจิทัลในระดับสูง วีออมนิ ทุ่มเทเพื่อสร้าง โซลูชันที่ให้ความสำคัญกับลูกค้า โดยลูกค้าเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาเทคโนโลยี ผ่าน การวิเคราะห์ทางการตลาด การวิจัยแนวโน้ม และการวิเคราะห์คู่แข่ง โดยแต่ละกระบวนการ จะได้รับการพัฒนาผ่านการคิดเชิงออกแบบโดยทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้และประสบการณ์ที่จำเป็น นอกจากนี้ เรายังนำเสนอแผน O2O โซลูชั่น ที่ครอบคลุมในทุกประสบการณ์และทุกช่องทาง วีออมนิ มีจุดแข็งที่เป็นเอกลักษณ์ของเราเอง คือ ความสามารถในการนำเสนอบริการที่ครอบคลุม ทั้งในรูปแบบแพลตฟอร์มพร้อมใช้งาน และ แพลตฟอร์มที่สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการของลูกค้า ด้วยทีมงานที่ดีที่สุดที่พร้อมให้บริการและอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า ปัจจุบัน วีออมนิ เป็นฟันเฟืองหลักในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีดิจิทัลในประเทศไทย ด้วยความเชี่ยวชาญในการพัฒนาแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซแบบครบวงจรและเทคโนโลยีคลาวด์ ซึ่งใช้เป็นเทคโนโลยีรากฐานหลักของงานบริการของเรา”
พิธีมอบรางวัล Thailand Digital Excellence Awards 2023 จัดโดยสมาคมการจัดการธุรกิจแห่ง ประเทศไทย (TMA) ที่โรงแรมดิ แอทธินี กรุงเทพฯ โดยมี พณ ท่าน จิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา เป็นประธานในพิธี โดยรางวัลดังกล่าวได้รับการยกย่องและได้รับความน่าเชื่อถือในฐานะขององค์กร ที่ดำเนินงานอย่างยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง และใช้เครื่องมือดิจิทัลเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศแบบบูรณาการ ในการดำเนินงานแบบครบวงจร ด้วยเครื่องมือประเมินวัดผล Digital Acceleration Index (DAI) ของ Boston Consulting Group (BCG) ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการประเมินความสามารถขององค์กร ในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและคัดเลือกเพื่อมอบรางวัลให้กับองค์กรที่มีกลยุทธ์ในการพัฒนาและใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการขับเคลื่อนองค์กร โดยเทคโนโลยีดิจิทัลถูกรวมเข้าไว้ในทุกมิติการทำงานขององค์กร ครอบคลุมถึงเทคโนโลยี นวัตกรรม และกระบวนการปฏิบัติงานอื่นๆ