ส. กุ้งไทย ชี้ผลผลิตกุ้งปี 66 ทรงตัวที่ 2.8 แสนตัน คาดปีหน้าผลผลิตเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แนวโน้มตลาดสหรัฐฯ ดี แนะเกษตรกรลดต้นทุน-เพิ่มผลิตภาพการผลิต-ส่งเสริมตลาดภายใน
วันนี้ (29 พฤศจิกายน 2566) นายเอกพจน์ ยอดพินิจ นายกสมาคมกุ้งไทย นำทีมคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ประกอบด้วย นายบรรจง นิสภวาณิชย์ ที่ปรึกษาสมาคม และประธานสมาพันธ์การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำไทย นายปกครอง เกิดสุข อุปนายกสมาคมฯ และประธานที่ปรึกษาชมรมผู้เลี้ยงกุ้งจังหวัดกระบี่ นางสาวพัชรินทร์ จินดาพรรณ เลขาธิการสมาคมกุ้งไทย และประธานสหกรณ์ผู้เลี้ยงกุ้งจันทบุรี นายพิชญพันธุ์ สลิลปราโมทย์ กรรมการบริหารสมาคมกุ้งไทยและประธานชมรมผู้เลี้ยงกุ้งสุราษฎร์ธานี และนายปรีชา สุขเกษม กรรมการบริหารสมาคม ร่วมกันเปิดเผยถึงสถานการณ์กุ้งของไทย ปี 2566 ว่า ผลผลิตกุ้งเลี้ยงโดยรวม อยู่ที่ 280000 ตัน เท่ากับปีที่ผ่านมา เนื่องจากราคากุ้งตกต่ำ สวนทางต้นทุนที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้เกษตรกรบางส่วนชะลอการลงกุ้ง เพื่อรอดูสถานการณ์ รวมถึงปัญหาโรคและสภาพอากาศแปรปรวน พร้อมแนะเกษตรกรลดต้นทุน เพิ่มผลิตภาพการผลิต และส่งเสริมการตลาดภายในให้เข้มแข็ง เตรียมรับมือผลกระทบราคากุ้งตกต่ำทั่วโลก
นายเอกพจน์ ยอดพินิจ นายกสมาคมกุ้งไทย เปิดเผยถึงสถานการณ์การผลิตกุ้งของไทยปี 2566 ว่า ปริมาณผลผลิตกุ้งคาดว่าจะได้ประมาณ 280000 ตัน เท่ากับปีที่แล้ว เป็นผลผลิตกุ้งจากภาคใต้ตอนบน ร้อยละ 33 จากภาคตะวันออก ร้อยละ 25 ภาคใต้ตอนล่างฝั่งอันดามัน ร้อยละ 20 จากภาคกลาง ร้อยละ 12 ภาคใต้ตอนล่างฝั่งอ่าวไทย ร้อยละ 10 ส่วนผลผลิตกุ้งทั่วโลกคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 5.07 ล้านตัน ลดลงร้อยละ 1 โดยประเทศจีนผลิตกุ้งได้เพิ่มขึ้นมาก เอกวาดอร์ เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ต่ำกว่าที่คาด ขณะที่ประเทศทางเอเชีย ได้แก่ เวียดนาม อินเดีย อินโดนีเซียผลิตกุ้งลดลงทุกประเทศ คาดปีหน้าผลผลิตกุ้งโลกจะลดลงประมาณ ร้อยละ 2 ดังแสดงในตารางที่ (1)
ส่วนการส่งออกกุ้งเดือน ม.ค. – ต.ค. ปีนี้อยู่ที่ปริมาณ 109663 ตัน มูลค่า 36284 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2565 ที่ส่งออกปริมาณ 120310 ตัน มูลค่า 42341 ล้านบาท ปริมาณลดลง ร้อยละ 9 ส่วนมูลค่าลดลง ร้อยละ 14 ” (ดังแสดงในตารางที่ (2)
“เกษตรกรจำเป็นต้องปรับตัว ด้วยการลดต้นทุนให้ได้ ทั้งต้นทุนทางตรงและต้นทุนแฝง ที่เกิดจากความเสียหายจากโรค เพิ่มผลิตภาพการผลิต เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ รวมถึงสร้างตลาดภายในให้เข้มแข็ง เพื่อเตรียมรับผลกระทบจากราคากุ้งตกต่ำในปีหน้า โดยภาครัฐและเอกชนต้องร่วมมือกันอย่างจริงจัง ในการพัฒนาระบบโลจิสติกส์เพื่อกระจายสินค้าที่คงคุณภาพความสดของกุ้งไทยไปถึงผู้บริโภค ทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยว คาดการณ์ผลผลิตปีหน้าเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ประมาณ 290000 ตัน และตลาดสหรัฐฯ มีสัญญาณดีขึ้น จากการฟ้องร้องเอดี/ซีวีดีประเทศผู้ผลิตรายใหญ่ ทำให้ผู้นำเข้าเริ่มออเดอร์กุ้งไทย” นายกสมาคมกุ้งไทยกล่าว
ด้าน นายบรรจง นิสภวาณิชย์ ที่ปรึกษาสมาคม และประธานสมาพันธ์การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำไทย กล่าวว่า แม้ผลผลิตกุ้งไทยปี 2566 จะได้ผลผลิตเท่าเดิม แต่เมื่อดูจากปริมาณลูกกุ้งที่ลดลงร้อยละ 7 แสดงถึงประสิทธิภาพการผลิตของเกษตรกรที่สูงขึ้น ถือเป็นจุดแข็งของไทยที่มีสายพันธุ์ลูกกุ้งที่หลากหลาย ทั้งนี้ เกษตรกรต้องพิจารณาเลือกลูกุก้งที่เหมาะสมกับพื้นที่ ศักยภาพบ่อ และความสามารถในการจัดการการบ่อของแต่ละราย
“ปริมาณผลผลิตที่ทรงตัวในปีนี้ สาเหตุหลักเพราะปัญหาโรคกุ้งยังไม่สามารถแก้ไขได้อย่างเด็ดขาด รวมถึงปัญหาราคากุ้งตกต่ำ ขณะที่ต้นทุนการผลิต วัตถุดิบต่างๆ และราคาพลังงาน สูงขึ้น เกษตรกรบางรายสามารถปรับตัวโดยพยายามเลี้ยงกุ้งไซส์ใหญ่ขึ้นเพื่อหนีราคา แต่บางรายก็ชะลอการลงกุ้ง ซึ่งคาดว่าสถานการณ์จะยังคงเป็นอย่างนี้ต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า เนื่องจากผลผลิตกุ้งยังคงเข้าตลาดอย่างต่อเนื่องในขณะที่สภาพเศรษฐกิจตกต่ำ ภาวะเงินเฟ้อ และผู้นำเข้ากุ้งยังมีสต็อกเพียงพอ” นายบรรจง กล่าว
สำหรับปริมาณผลผลิตกุ้งรายภาคของประเทศไทย มีข้อมูลจากกรรมการสมาคมดังนี้
นายปกครอง เกิดสุข อุปนายกสมาคมกุ้งไทย และประธานที่ปรึกษาชมรมผู้เลี้ยงกุ้งจังหวัดกระบี่ กล่าวถึงสถานการณ์การเลี้ยงกุ้งภาคใต้ตอนล่างฝั่งอันดามันว่า “ผลผลิตปี 2566 คาดการณ์ว่ามีผลผลิตประมาณ 55700 ตัน ลดลงจากปีที่ผ่านมาประมาณร้อยละ 6 พบการเสียหายปัญหาขี้ขาว และสภาพอากาศแปรปรวน ทำให้เกษตรกรจับกุ้งก่อนกำหนด และช่วงปลายปีที่ฝนตกมาก จะมีปัญหาความเค็ม ทำให้เกษตรกรทยอยจับและพักบ่อ
นางสาวพัชรินทร์ จินดาพรรณ เลขาธิการสมาคมกุ้งไทย และประธานสหกรณ์ผู้เลี้ยงกุ้งจันทบุรี กล่าวว่า “ผลผลิตกุ้งปี 2566 ในพื้นที่ภาคตะวันออก มีประมาณ 69900 ตัน เท่ากับปีที่ผ่านมา จากปัญหาโรคตัวแรงดวงขาว ขี้ขาว และ หัวเหลือง เกษตรกรต้องจับกุ้งก่อนกำหนด ทำให้ผลผลิตต่อไร่ต่ำ รวมถึงปัญหาราคากุ้งตกต่ำ ทำให้เกษตรกรชะลอการเลี้ยง หรือปล่อยกุ้งลดลง
ส่วนผลผลิตภาคกลาง ประมาณ 34200 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา จากปัญหาราคากุ้งตกต่ำ ทำให้เกษตรกรบางส่วนยืดเวลาการเลี้ยงเพื่อให้ได้กุ้งไซส์ใหญ่ อย่างไรก็ตาม ปัญหาสภาพอากาศแปรปรวนทำให้กุ้งโตช้า และมีความเสียหายจากโรคระบาด”
นายพิชญพันธุ์ สลิลปราโมทย์ กรรมการบริหารสมาคม และประธานชมรมผู้เลี้ยงกุ้งสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า “ผลผลิตกุ้งพื้นที่ภาคใต้ตอนบนปี 2566 ประมาณ 93000 ตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 4 และ จากปัญหาราคากุ้งตกต่ำ ทำให้เกษตรกรพยายามเลี้ยงกุ้งขาวให้ได้ขนาดใหญ่ เกษตรกรบางส่วนหันไปเลี้ยงกุ้งกุลาดำเนื่องจากราคาดีทั้งปี”
นายปรีชา สุขเกษม กรรมการสมาคมกุ้งไทย กล่าวว่า “ผลผลิตกุ้งภาคใต้ตอนล่างฝั่งอ่าวไทย 28100 ตัน ลดลงร้อยละ 4 ผู้เลี้ยงประสบปัญหาราคากุ้งตกต่ำ โรคระบาด และสภาพอากาศแปรปรวน เกษตรกรลดความหนาแน่นลงเพื่อเลี้ยงกุ้งไซส์ใหญ่ ช่วงปลายปีฝนที่ตกหนักส่งผลให้น้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติ มีความเค็มต่ำ เกษตรกรทยอยจับกุ้งแล้วพักบ่อเพื่อเตรียมเลี้ยงครอปต่อไปในปีหน้า”