Trip.com Group พลิกโฉมเพิ่มศักยภาพอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวด้วยนวัตกรรม AI
คุณเจมส์ เหลียง ผู้ร่วมก่อตั้ง และประธานบริหารของ Trip.com Group นำเสนอประเด็นสำคัญเกี่ยวกับกลุ่มของนวัตกรรม AI
*********
กรุงเทพฯ 14 พฤศจิกายน 2566 - ทริปดอทคอม กรุ๊ป (Trip.com Group) ผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวช่องทางออนไลน์ชั้นนำระดับโลก ขึ้นเวทีกลางในงาน ITB Asia ที่ประเทศสิงคโปร์ โดยเน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว คุณเจมส์เหลียง ผู้ร่วมก่อตั้ง และประธานบริหาร Trip.com Group กล่าวปาฐกถาพิเศษ โดยเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของกลุ่มบริษัทฯ เพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าผ่านนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วย AI
TripGenie ผู้นำระบบนิเวศด้านการเดินทางที่ขับเคลื่อนด้วย AI
TripGenie ผู้ช่วย AI ด้านการเดินทางของ Trip.com Group เป็นนวัตกรรมพลิกโฉมวงการที่ออกแบบมาเพื่อสร้างแผนการเดินทางตามความต้องการ และสามารถเพิ่มยอดจองในแอปแบบครบวงจรของ Trip.com Group โดย TripGenie ได้มอบผลลัพธ์ที่น่าประทับใจมาตลอดนับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อต้นปีนี้และหลังจากอัปเกรดฟังก์ชันเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
ความสำเร็จครั้งนี้สามารถดูได้จากอัตราคอนเวอร์ชันที่สูงขึ้นถึงสองเท่าและอัตราการรักษาผู้ใช้เก่าที่เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลให้ยอดการมีส่วนร่วมของผู้ใช้และภาพรวมประสิทธิภาพการบริการดีขึ้นด้วย
TripGenie สามารถให้คำแนะนำที่ซับซ้อน ผสานกับการค้นหาที่มีความแม่นยำสูง ทำให้ผู้ใช้สามารถค้นหาสิ่งที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ มอบประสบการณ์เหนือระดับให้กับผู้ใช้ Trip.com
นอกจากนี้ TripGenie ได้เปลี่ยนนิยามของประสบการณ์ผู้ใช้ผ่านความเป็นเลิศในด้านการท่องเที่ยวและการวางแผนการเดินทาง รวมถึงการวางแผนในหลายจุดหมายปลายทาง ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่จะเปิดตัวเร็วๆ นี้ TripGenie สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักเดินทางได้อย่างรวดเร็วด้วยแผนการเดินทางที่ตรงกับความต้องการส่วนบุคคลและแก้ไขได้ภายในไม่กี่นาที TripGenie มีแผนการเดินทางที่หลากหลายเพื่อรองรับการเดินทางประเภทต่างๆ อีกทั้งยังสามารถรับคำสั่งได้ทั้งในรูปแบบข้อความและเสียงเพื่อการใช้งานที่ราบรื่น นอกเหนือจากภาษาอังกฤษแล้ว ผู้ใช้ยังสามารถใช้คำสั่งเหล่านี้ในภาษาจีนแบบตัวเต็มและตัวย่อ รวมถึงภาษาจีนกวางตุ้ง เกาหลี และญี่ปุ่น
Trip.com Group เล็งเห็นว่า TripGenie เป็นผู้นำด้านวิวัฒนาการการเดินทางด้วย AI โดยวางแผนเปิดตัวฟีเจอร์แชร์แผนการเดินทางและตัวเลือกเพื่อการปรับแต่งส่วนบุคคลอื่นๆ เช่น การโหวตเห็นด้วย และการกดไลค์ถูกใจ TripGenie จะไม่หยุดพัฒนาระบบวางแผนการเดินทางร่วมกัน เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีกับผู้ใช้มากขึ้น
คุณเจมส์ เหลียง ผู้ร่วมก่อตั้ง และประธานบริหารของ Trip.com Group กล่าวว่า "ความเชี่ยวชาญด้าน AI ของเราจะช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้โดยการเปลี่ยนวิธีการวางแผนและจองทริปของนักเดินทาง โซลูชันด้านการเดินทางที่ขับเคลื่อนโดย AI อย่าง TripGenie จะช่วยให้เราเพิ่มประสบการณ์การเดินทางที่มีส่วนร่วมกับผู้ใช้ แม่นยำ และสามารถปรับแต่งตามความต้องการได้ดียิ่งขึ้น ดังนั้น ผมจึงคิดว่าชื่อ "TripGenie" นั้นเหมาะกับภารกิจของเรา เพราะเป้าหมายของเราคือการช่วยให้ลูกค้าวางแผนการเดินทางที่สมบูรณ์แบบได้เหมือนมียักษ์จินนี่อยู่ข้างกาย ในยุคสมัยใหม่ของการเดินทางนี้ เรามีมุมมองที่เป็นบวกอยู่เสมอ และเราจะมุ่งหน้ายกระดับประสบการณ์การเดินทางด้วย AI รวมถึงมองหาการเดินทางที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น เพื่อโลกที่ดีกว่า"
ข้อมูลเชิงลึกด้านการเดินทางและการบริการลูกค้าที่ยกระดับโดย AI
คุณบุน เซียน ชายกรรมการผู้จัดการ และรองประธานฝ่ายการตลาดต่างประเทศของ Trip.com Group ให้รายละเอียดเกี่ยวกับระบบนิเวศทาง AI ซึ่งรวมถึงระบบอัลกอริธึมที่ขับเคลื่อนด้วย AI อาทิ "Trip.Trends" "Trip.Best" และ "Trip.Deals" ซึ่งเป็นลิสต์ที่จะนำเสนอข้อมูลที่คัดสรรมาจากความต้องการของผู้ใช้จริงและข้อมูลแบบเรียลไทม์ เพื่อส่งเสริมระบบนิเวศด้านการท่องเที่ยวที่คึกคัก โดยมี Trip.Best ช่วยเพิ่มยอดการจองของเหล่าพันธมิตร และ Trip Moments ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้ในการสร้างคอนเทนต์
คุณบุน เซียนชาย กล่าวว่า “เราสร้างชุมชนที่เข้มแข็งบนแอปพลิเคชันที่ครบวงจรของเรา เพื่อเพิ่มประสบการณ์การเดินทางและกระตุ้นความกระหายในการเดินทางระหว่างพันธมิตรและนักท่องเที่ยว Trip.Best เป็นโปรแกรมแนะนำการเดินทางที่คัดสรรโดย AI ของเรา สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับชุมชนนักเดินทางเพื่อเลือกดูและจองที่พักได้ตามที่ชื่นชอบ ส่งผลให้โรงแรมพันธมิตรกว่า 1500 รายมียอดเข้าชมเพิ่มขึ้น 20% และการจองเพิ่มขึ้น 10% ส่วนทางด้านแพลตฟอร์ม Trip Moments เป็นการรวบรวมนักท่องเที่ยวที่ร่วมแบ่งปันประสบการณ์ คำแนะนำและการรีวิว ทำให้เกิดแหล่งเรื่องราวการเดินทางที่เป็นประโยชน์ ซึ่ง 35% ของผู้ใช้แอปมีส่วนร่วมในแพลตฟอร์มนี้ แพลตฟอร์มนี้สามารถดึงดูดและรักษานักท่องเที่ยวใช้กลับมาใช้แอปของเราได้เป็นอย่างดีและส่งผลให้ผู้ใช้แพลตฟอร์มถึง 22% ทำการจองผลิตภัณฑ์ด้านการเดินทางภายในระยะเวลาหนึ่งเดือน”
เรามีฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่เป็นกรรมสิทธิ์เฉพาะของเราเอง ซึ่งเป็นฐานข้อมูลที่ได้รับการพัฒนาจากคำติชมของคนจริงๆ อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากทีมผู้เชี่ยวชาญระดับโลกในการคัดสรรคอนเทนต์ด้านการเดินทาง เพื่อให้มั่นใจว่าแอปท่องเที่ยวครบวงจรของเรานั้นจะมอบประสบการณ์การเดินทางที่จริงใจและน่าดึงดูดสำหรับผู้ใช้
นอกเหนือจากนี้ คุณบุน เซียน ชาย ยังอธิบายเพิ่มเติมว่าเทคโนโลยี AI ยังมีบทบาทสำคัญในการปรับปรุงการให้บริการลูกค้าในภาคการท่องเที่ยวอีกด้วย Trip.com Group มียอดการบริการตนเองที่สูงมาก โดยแชทบอท AI สามารถจัดการกับคำถามในจำนวนมากได้ทั้งในรูปแบบข้อความและเสียง ซึ่งมีอัตราความเข้าใจความหมายเกิน 85% โดยแชทบอท AI นี้ส่งผลต่ออัตราการบริการตนเองที่น่าประทับใจสำหรับตั๋วเครื่องบิน78% และสำหรับโรงแรม 68% ตามลำดับ
ความสำเร็จในการใช้งาน AI ของเราช่วยประหยัดทั้งเวลาและพลังงานของทั้งลูกค้าและตัวแทนผู้ให้บริการ รวมถึงสามารถเพิ่มศักยภาพในการแก้ไขปัญหาได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ประสิทธิภาพการทำงานของ AI ทำให้ทีมที่ให้บริการลูกค้าสามารถใช้เวลากับเคสอื่นๆ ที่ซับซ้อนกว่าได้ และสามารถมอบความประทับใจที่ดีให้กับลูกค้าได้มากขึ้นเช่นกัน
การเดินทางที่ขับเคลื่อนด้วย AI ท่ามกลางกระแสการเดินทางที่เพิ่มขึ้น
คุณเจน ซุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Trip.com Group กล่าวว่า "ในขณะที่ความต้องการด้านการเดินทางยังคงเพิ่มขึ้น อนาคตของ AI ด้านการเดินทางมีแนวโน้มจะให้ความสำคัญกับโซลูชันที่มีประสิทธิภาพและปรับแต่งได้ตามความต้องการของนักเดินทางแต่ละคน วิสัยทัศน์นี้ไม่เพียงแต่เป็นหมุดหมายของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในยุคถัดไปเท่านั้น แต่ยังตอกย้ำถึงอิทธิพลของ AI ที่ทำให้การเดินทางสะดวกสบาย ปรับแต่งได้ตามต้องการ และน่าจดจำสำหรับทุกคนมากขึ้น Trip.com Group ร่วมมือกับพันธมิตรของเราพร้อมที่จะสนับสนุนและกำหนดอนาคตการเดินทางด้วย AI”
การขับเคลื่อนด้าน AI ของ Trip.com Group พัฒนาตามตลาดการท่องเที่ยวที่กำลังเติบโต ซึ่งปัจจุบันนี้ข้อจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศได้ถูกยกเลิกแล้ว อีกทั้งการท่องเที่ยวภายในประเทศและส่วนภูมิภาคก็พุ่งสูงขึ้นอย่างมากเช่นกัน จากข้อมูลของ Trip.com Group ในช่วง Golden Week ของประเทศจีน ปริมาณการเดินทางขาออกเพิ่มขึ้นกว่า 800% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ในขณะที่การท่องเที่ยวภายในประเทศเติบโตเกือบ 200% ในปีนี้