เมื่อ : 03 พ.ย. 2566 , 238 Views
รมช.ไชยา เปิดบ้าน”หนองบัวลำภู” ต้อนรับรองนายกฯ ภูมิธรรม ผลักดันเขื่อนป้องกันตลิ่งแก้ไขปัญหาน้ำท่วมย่านเศรษฐกิจอย่างเป็นระบบ

เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2566 เวลา นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมลำพะเนียงบริเวณบ้านวังหมื่น อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู โดยมี นายสุวิทย์ จันทร์หวร ผู้ว่าราชการ จ.หนองบัวลำภู หัวหน้าส่วนราชการ ในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  ผู้นำชุมชนและประชาชนให้การต้อนรับ สำหรับโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมลำพะเนียงบริเวณบ้านวังหมื่นเป็นโครงการที่จังหวัดหนองบัวลำภูจะขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 งบกลางฯ งบประมาณ 12 ล้านบาท เพื่อแก้ไขปัญหาพี่น้องประชาชนในพื้นที่ลำพะเนียงที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำสำหรับการในฤดูแล้ง และปัญหาตลิ่งถูกกัดเซาะพังทลาย ส่งผลให้น้ำท่วมที่อยู่อาศัยและพื้นที่เกษตรกรรมในฤดูฝน โดยมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการศึกษาแนวทางการแก้ไขอย่างครอบคลุมทั้งระบบเพื่อการแก้ไขอย่างมีประสิทธิภาพ และยั่งยืนต่อไป  จากนั้น รัฐมนตรีช่วยเกษตรฯ ได้เดินทางต่อไปยัง วิทยาลัยอาชีพศรีบุญเรือง อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู เพื่อเยี่ยมชมการออกหน่วยให้บริการคลินิกเกษตรแก่ประชาชน พร้อมทั้งเปิดงาน “กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พบปะประชาชน” และมอบถุงยังชีพ จำนวน 500 ชุด ปัจจัยการผลิตทางการเกษตร จำนวน 500 ชุด และหญ้าอาหารสัตว์พระราชทาน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย 4 ตำบล ประกอบด้วย ต.นากอก ต.ศรีบุญเรือง ต.ทรายทอง ต.หนองบัวใต้ ก่อนเดินทางไปยัง บริษัท กอเงินออร์แกนิคฟาร์ม จำกัด เพื่อเยี่ยมชมกระบวนการผลิตแปรรูปสมุนไพร ตามนโยบายตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้

 

รัฐมนตรีช่วยเกษตรฯ กล่าวว่า “วันนี้ได้มาตรวจเยี่ยมพี่น้องในพื้นที่หนองบัวลำภูจากความห่วงใยของรัฐบาล ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาเบื้องต้น การพบปะให้กำลังใจพี่น้องประชาชน และวันนี้กระทรวงเกษตรฯ ได้นำหน่วยงานในสังกัดมาตั้งคลินิคเกษตรมอบความรู้ให้แก่พี่น้องเกษตรกร เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ในทุกมิติ สร้างโอกาสในการพัฒนาตามนโยบายตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ นอกจากนี้ จ.หนองบัวลำภูจะเป็นเจ้าภาพต้อนรับคณะรัฐมนตรีสัญจรที่กำลังจะจัดขึ้น ซึ่งเป็นโอกาสทองในการแสดงศักยภาพ และสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจที่กว้างมากขึ้นสำหรับพี่น้องเกษตรกร ผู้ประกอบการในพื้นที่เป็นอย่างมาก ”