มินิ ประเทศไทย เดินหน้าขับเคลื่อนโลกแห่งอนาคตรถยนต์ไฟฟ้า ขนทัพรถยนต์รุ่นใหม่ร่วมงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2021 พร้อมแคมเปญพิเศษส่งท้ายปี
เมื่อ : 01 ธ.ค. 2564 ,
1082 Views
- ► เปิดตัว The MINI Electric Pacesetter Inspired by JCW ครั้งแรกในเอเชีย พร้อม
► รุ่นพิเศษ มินิ คูเปอร์ เอส คลับแมน Jermyn Edition และ The New MINI JCW Hatch launched by Carnival
► ส่งตรงคอนเซ็ปต์ “BIG LOVE” จากมหกรรมยานยนต์ IAA Mobility 2021 เมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี ซึ่งได้รับการออกแบบสร้างสรรค์โดยศิลปินชาวอังกฤษ Lakwena Maciver
► ยกระดับโปรแกรมบำรุงรักษา MSI พร้อมของที่ระลึกสุดพรีเมียมสำหรับลูกค้าที่จองรถภายในงาน
กรุงเทพฯ. มินิ ประเทศไทย ยกทัพยนตรกรรมรุ่นใหม่หลายรุ่น พร้อมอวดโฉมในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2021 นำโดยรถเซฟตี้คาร์ไฟฟ้ารุ่นแรก the MINI Electric Pacesetter inspired by JCW และมินิ คูเปอร์ เอส คลับแมน Jermyn Edition ดึงแบรนด์แฟชั่นสตรีทที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่าง “คาร์นิวาล” สร้างปรากฏการณ์การร่วมมือกันครั้งแรกกับ the New MINI JCW Hatch launched by Carnival พร้อมจัดแสดงบูธภายใต้คอนเซ็ปต์ “BIG LOVE” สะท้อนวิสัยทัศน์ของแบรนด์ในการเปิดรับทุกความคิด ด้วยทัศนคติที่เป็นบวก นำไปสู่พลังบวกในการร่วมสร้างโลก
คุณประภัสรา อร่ามวงศ์สมุทร ผู้อำนวยการ มินิ ประเทศไทย กล่าวว่า “มินิ ประเทศไทย สร้างปรากฏการณ์ใหม่อย่างต่อเนื่องด้วยการนำเสนอความก้าวล้ำของยนตรกรรมแห่งยุคที่มาพร้อมกับการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์มินิรุ่นใหม่ ให้ผู้ชมได้สัมผัสกับรถพลังงานไฟฟ้า ผสมผสานกับสมรรถนะที่มีความแรงในแบบฉบับจอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ ไว้ได้อย่างลงตัว เป็นโอกาสที่ดีสำหรับลูกค้าปัจจุบันและผู้สนใจในรถยนต์มินิที่จะได้มาสัมผัสกับนวัตกรรมใหม่ล่าสุด และยังได้พบกับรถยนต์มินิอีกหลายรุ่นในงานนี้เท่านั้น”
“รูปแบบการจัดบูธของเราในปีนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมินิในการผลักดันแนวคิดการสัญจรอย่างยั่งยืน (Sustainable Mobility) และการสนับสนุนความแตกต่างหลากหลาย (Diversity) ของผู้คน เราจึงได้ยกเอาแนวคิดการออกแบบจากมหกรรมยานยนต์ IAA Mobility 2021 เมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี ส่งตรงแก่ผู้เข้าร่วมงานชาวไทยให้ได้สัมผัส ภายใต้คอนเซ็ปต์ “BIG LOVE” สร้างสรรค์โดยศิลปินชื่อดังระดับโลก Lakwena Maciver ให้ผู้เข้าชมงานเกิดมุมมองและประสบการณ์ใหม่อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน” คุณประภัสรากล่าวเสริม
ไฮไลท์สำหรับปีนี้อยู่ที่การเปิดตัว The MINI Electric Pacesetter inspired by JCW ครั้งแรกในเอเชีย ซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่างทีมออกแบบของมินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์สปอร์ต โดยเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของ MINI ที่ใช้เป็น Safety Car บนสนามแข่งรถพลังงานไฟฟ้าระดับโลก และนับเป็นบทพิสูจน์ครั้งสำคัญของมินิ ที่ผสมผสานยนตรกรรมที่มีความแรงในแบบฉบับจอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ ไว้กับรถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ มินิ คลับแมน ยังเผยโฉมรุ่นใหม่ล่าสุด อย่างมินิ คูเปอร์ เอส คลับแมน Jermyn Edition เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่หลงใหลในความประณีต ใส่ใจในทุกรายละเอียด และแสวงหาการใช้ชีวิตในแบบฉบับของตนเองที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังที่น่าค้นหา ซึ่งมินิรุ่นพิเศษล่าสุดและมีจำนวนจำกัดนี้มีเฉพาะในรุ่นคูเปอร์ เอส เท่านั้น โดยมาพร้อมระบบความบันเทิงและสื่อสารรูปแบบใหม่อีกด้วย
ขณะเดียวกัน ยังสร้างความตื่นเต้นครั้งใหม่เอาใจสาวกมินิผู้ที่หลงใหลทั้งความรวดเร็วและแฟชั่น ด้วยการนำเสนอผลงานสุดสร้างสรรค์จากความร่วมมือกันครั้งแรกระหว่างมินิ และคาร์นิวาล กับ The New MINI JCW Hatch launched by Carnival กับการตกแต่งทั้งภายนอกและภายใน ด้วยลวดลายสวยงามไม่ซ้ำใคร เฉพาะในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โปครั้งนี้เท่านั้น ซึ่งหากลูกค้าสนใจสามารถติดต่อกับผู้จำหน่ายมินิอย่างเป็นทางการเพื่อตกแต่งลวดลายดังกล่าวบนรถของตนเองได้
นอกจากนี้ มินิยังได้ร่วมมือกับศิลปินนักวาดภาพประกอบชาวไทย “ปอม ชาน” ผู้เคยร่วมงานกับแบรนด์ระดับโลก และยังแสดงฝีมือในการออกแบบโปสเตอร์งานประกาศรางวัลออสการ์ ร่วมครีเอทผลงานลายเส้นสุดสร้างสรรค์ “The MINI Electric launched by Pomme Chan” เพิ่มความโดดเด่นให้กับหลังคารถมินิของคุณด้วยลวดลายที่ไร้แบบฟอร์ม ไม่มีจุดเริ่มต้นและจุดจบภายใต้คอนเซ็ปต์ “LOVE IS INFINITY” สอดคล้องกับแนวคิด “BIG LOVE” ของบูธมินิในปีนี้ สะท้อนนิยามความรักอันไร้ขอบเขตและไม่มีที่สิ้นสุด มีทั้งหมด 4 ลายให้ได้เลือกตามความชอบและบ่งบอกความเป็นตัวเอง ลูกค้าที่สนใจสามารถติดต่อกับผู้จำหน่ายมินิอย่างเป็นทางการได้เช่นกัน
แฟน ๆ มินิในประเทศไทย สามารถพบกับไฮไลต์มากมายพร้อมกับโปรโมชันสุดพิเศษแห่งปีจากมินิได้ที่งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 38 ระหว่างวันที่ 1-12 ธันวาคม 2564 นี้ ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพค เมืองทองธานี
MINI Electric Pacesetter inspired by JCW รถเซฟตี้คาร์ไฟฟ้ารุ่นแรกจากมินิ
The MINI Electric Pacesetter inspired by JCW เปิดตัวในประเทศไทย พร้อมให้ยลโฉมยนตรกรรมที่ผสานโลกอนาคตแห่งการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเข้ากับตำนานในสนามแข่งของจอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ การออกแบบ The MINI Electric Pacesetter inspired by JCW นั้นเกิดจากการร่วมมือกันครั้งแรกของทีมออกแบบของมินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์สปอร์ต ที่แสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์ขับขี่สนุกตามสไตล์มินิที่มาพร้อมความคล่องตัวแบบรถยนต์ไฟฟ้า นับเป็นอีกก้าวของมินิที่สร้างสรรค์ยนตรกรรมที่ผสมผสานความแรงในแบบฉบับจอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ ไว้กับรถไฟฟ้าได้อย่างลงตัว
ภายนอกของ The MINI Electric Pacesetter inspired by JCW ออกแบบมาเพื่อใช้ในสนามแข่งโดยเฉพาะ แสดงออกถึงความคล่องตัวในสไตล์มินิที่มาในรูปแบบของขุมพลังรถยนต์ไฟฟ้า นายโอลิเวอร์ เฮล์มเมอร์ หัวหน้าฝ่ายออกแบบของมินิ กล่าวว่า “รูปลักษณ์อันน่าตื่นตาตื่นใจของมินิรุ่นนี้เป็นการพบกันของเทคนิคการออกแบบที่แม่นยำและความสวยงามทางอารมณ์ กล่าวคือ จุดประสงค์การใช้งานจะกำหนดรูปทรงของรถ ส่วนองค์ประกอบของการออกแบบจะปรับตามดีไซน์ทางเทคนิค โดยทีมเราทำงานอย่างใกล้ชิดกับบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์สปอร์ต เพื่อพัฒนารูปทรงของซุ้มล้อ สเกิร์ตด้านหน้าและด้านหลัง รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพผ่านการลดน้ำหนักวัสดุให้น้อยที่สุด การถ่ายทอดผ่านรูปลักษณ์ที่ดึงดูดสายตามาพร้อมกับการออกแบบทางเทคนิคที่แม่นยำจึงทำให้รถยนต์รุ่นนี้น่าตื่นเต้นเร้าใจมากยิ่งขึ้น”
The MINI Electric Pacesetter inspired by JCW ได้รับการปรับแต่ง ให้พร้อมรับสถานการณ์ท้าทายในสนามแข่ง ตัวรถเป็นสีเงินด้านตัดด้วยสี Highspeed Orange และตกแต่งด้านท้ายเป็นสี Curbside Red ซึ่งเป็นการสะท้อนเอกลักษณ์ของ MINI Electric และ MINI John Cooper Works อย่างชัดเจน
การออกแบบตัวรถเพื่อให้สอดคล้องกับหลักการเพื่อลดน้ำหนักด้วยวัสดุน้ำหนักเบา ทำให้ The MINI Electric Pacesetter inspired by JCW มีน้ำหนักเบากว่ารุ่นมาตรฐาน 130 กิโลกรัม เพื่อให้สามารถปลดปล่อยพลังทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 6.7 วินาที พร้อมโลดแล่นและรับทุกความท้าทายในสนามแข่ง
ทั้งหมดนี้ถือเป็นข้อพิสูจน์ถึงจุดยืนและวิสัยทัศน์ที่เป็นจริงของมินิ และถูกถ่ายทอดออกมาผ่าน The new all-electric MINI มินิ พลังไฟฟ้า 100% ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าและตัวถังรถเดียวกันกับ The MINI Electric Pacesetter inspired by JCW จึงสามารถปลดปล่อยศักยภาพของมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างเต็มที่ ไม่แพ้เครื่องยนต์แบบสันดาปภายใน ที่สำคัญยังคงเอกลักษณ์ Go-Kart Feeling ตามแบบฉบับของมินิ
ด้านหน้าของรถ The MINI Electric Pacesetter inspired by JCW ยังคงไว้ในแบบฉบับมินิสุดคลาสสิค ทั้งไฟหน้าทรงกลม และกระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมที่คุ้นตา ในขณะเดียวกันก็ผสานองค์ประกอบที่เป็นเอกลักษณ์ของจอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ เช่น ซุ้มล้อใหม่ที่ได้รับการปรับให้พอดีกับความกว้างของล้อ เสริมด้วยสเกิร์ตด้านหน้า และติดตั้งสปลิตเตอร์เพิ่มเติมด้านซ้ายและขวา เพิ่มความสปอร์ตยิ่งขึ้น กระจังหน้าปิดทึบ ส่วนโลโก้ MINI Electric ก็แสดงออกถึงการใช้พลังงานไฟฟ้าที่เป็นหัวใจของรถเซฟตี้คาร์รุ่นนี้นั่นเอง
เนื่องจากไม่จำเป็นต้องมีการระบายความร้อนผ่านบริเวณด้านบนของกระจังหน้า ส่วนหน้าของรถยนต์จึงได้รับการออกแบบให้ปิดทึบไว้เป็นส่วนใหญ่เพื่อเสริมประสิทธิภาพด้านแอโรไดนามิกส์ ยกเว้นบริเวณด้านล่างกระจังหน้าและชุดกันชนหน้าสุดโดดเด่นที่เพิ่มดีไซน์ให้คล้ายช่องดักอากาศเพื่อระบายความร้อนให้ชุดเบรก ส่วนไฟสีขาวกะพริบของรถนั้นถูกรวมเข้ากับฝากระโปรงหน้าไว้ได้อย่างกลมกลืน พร้อมถ่ายทอดดีเอ็นเอของมินิผ่านลวดลาย Bonnet Stripes ตั้งแต่หลังคาจนถึงท้ายรถ
ด้านข้างของ The MINI Electric Pacesetter inspired by JCW มีชุดแอโรไดนามิกส์ที่ดุดัน การสอดประสานกันของลวดลายเรขาคณิตด้านข้างรถอันโดดเด่น และสเกิร์ตด้านข้างทรงสปอร์ต เสริมให้เกิดภาพลักษณ์ของการพุ่งทะยานไปไปข้างหน้า ประกอบกับล้อที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางที่เพิ่มขึ้น เกือบจะเต็มซุ้มล้อ องค์ประกอบเหล่านี้สะท้อนให้เห็นภาพประวัติศาสตร์อันเกรียงไกรในสนามแข่งของมินิ โดยลวดลายด้านข้างรถ และสปอยเลอร์นั้นผลิตขึ้นจากโรงงานในเมืองออกซ์ฟอร์ดด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์แบบ 3 มิติ จากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ที่รีไซเคิลกลับมาใช้ใหม่
ลวดลายสีเหลืองที่เด่นชัดและพื้นผิวของชุดแต่งแอโรไดนามิกส์ เช่น ลวดลายด้านข้างรถ สเกิร์ต และสปอยเลอร์หลัง ได้รับการออกแบบมาให้รีดลม รับกับการเป็นช่องทางผ่านของอากาศ นอกจากนี้ยังเพิ่มความสวยงามให้กับแผ่นเบนอากาศและขอบแอโรไดนามิกส์ เพิ่มความเร้าใจด้วยล้อฟอร์จขนาด 18 นิ้วแบบ 4 ก้าน ในโทนสีดำสลับสีส้มนีออนสะดุดตา
ด้านท้ายรถเป็นสีดำและสีแดง Curbside Red metallic ตัดด้วยลายเส้นสีเหลืองที่ลากสายตาจากหน้ารถมาข้างรถ เสริมภาพลักษณ์ที่ทันสมัยและคล่องตัวในสนาม สปอยเลอร์บนหลังคาด้านหลัง
โดดเด่นลู่ลม ส่วนลายเส้นสีเหลืองนั้นถูกรวมเข้ากับชุดไฟสัญญาณ และผลิตขึ้นจากโรงงานในเมืองออกซ์ฟอร์ดด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์แบบ 3 มิติ ซุ้มล้อแบบกว้างเปิ%E