“รีโว่เมด” บุก “เมียนมา” พาแบรนด์ไทยเติบโต ตั้งเป้าโตขึ้น 2 เท่าในปี 66
ถือเป็นอีกหนึ่งปีทองของนักธุรกิจหญิงคนเก่งแห่งวงการเครื่องสำอางและอาหารเสริม “เมย์ - วาสนา อินทะแสง” Group CEO บริษัท รีโว่เมด (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้ซึ่งคร่ำหวอดในวงการความงามระดับโลก หลังจากพาธุรกิจเติบโตอย่างก้าวกระโดด
ที่ผ่านมา “รีโว่เมด (REVOMED)” ได้ผลักดันแบรนด์ไทยสู่ตลาดโลก ด้วยการเป็นโรงงานให้บริการแบบครบวงจรสำหรับผู้ที่อยากผลิตเครื่องสำอาง สินค้าเพื่อความงาม และอาหารเสริมทุกรูปแบบ ภายใต้แบรนด์ของลูกค้าเอง โดยรับผลิตได้ทั้งในและต่างประเทศ เช่น เกาหลี ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส อิตาลี และสหรัฐอเมริกา เป็นการปฏิวัติวงการอาหารเสริมและเครื่องสำอางด้วยมิติใหม่แห่งนวัตกรรม อวดศักยภาพของสินค้าแบรนด์ไทย
ล่าสุด “เมย์ วาสนา” พา “รีโว่เมด (REVOMED)” เปิดประตูสู่ประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงอย่าง “เมียนมา” ที่ถือเป็นตลาดใหม่ สู่การเพิ่มยอดขายที่เติบโตมากขึ้นไปกว่าเดิม ซึ่งได้ผลิตแบรนด์คอลลาเจน “Vite’ Colla” ที่มี “Nansu” นักแสดงอันดับต้นๆของเมียนมา ที่ผันตัวมาทำธุรกิจแรกเป็นเจ้าของแบรนด์ พร้อมเปิดตัว Soft launch “Revomed Myanmar” มองหาพาร์ทเนอร์ นักธุรกิจชาวเมียนมา ที่อยากสร้างแบรนด์ดัง ปั้นยอดขาย สร้างมูลค่าในตลาดเมียนมาด้วยกัน โดย “รีโว่เมด (REVOMED)” ตั้งเป้าโตขึ้น 2 เท่าในปี 66
โดยได้จัดงานเปิดตัวพร้อมฉลองวันเกิดของเจ้าของแบรนด์คนดังแห่งเมียนมา อย่าง “Nansu” ซึ่งถือเป็นงานใหญ่แห่งปีงานหนึ่ง โดยมีคนดัง เซเลบริตี้เมียนมา ตบเท้าเข้าร่วมงานคับคั่ง ไม่ว่าจะเป็น Phway Phway Alinyaung Light Nang Khin Zayyar Hlwan Paing Po Po Aung Lay Yoon Yoon Moe Aung Yin Han T Banyar Bhone Pyae Chaw Yadanar และสื่อต่างๆกว่า 60 สื่อ ซึ่งในโอกาสนี้ทาง “Nansu” ได้เปิดตัว “เมย์ วาสนา” ในฐานะผู้อยู่เบื้องหลังการเป็นเจ้าของแบรนด์คุณภาพอันดับต้นๆ ของเมียนมา ปักหมุดความสำเร็จแรกของ “รีโว่เมด (REVOMED)” ในย่างกุ้งอย่างงดงาม
“เมย์ วาสนา” เผยว่า “การบุกตลาดเมียนมา ถือเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการผลิต ที่ได้มาตรฐานระดับสากล มั่นใจได้ในคุณภาพสินค้าและสามารถส่งออกได้ทั่วโลก รวมถึงยังพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยส่วนผสมและสารสกัดที่หลากหลาย ในนวัตกรรมใหม่ที่ได้รับการค้นหามาจากทั่วทุกมุมโลก เพื่อให้ลูกค้าได้สินค้าที่ดีและตอบโจทย์มากที่สุด เรียกว่า “รีโว่เมด (REVOMED)” ได้ก้าวขึ้นไปอีกขั้น ยกระดับอุตสาหกรรมสุขภาพและความงามของประเทศไทย ให้มีศักยภาพเทียบเท่าสากล ซึ่งในอนาคตก็จะไม่หยุดพัฒนาและแผ่ขยายสาขาเพิ่ม เพื่อให้เป็นที่ยอมรับในระดับโลกต่อไป”