เมื่อ : 25 พ.ย. 2564 , 1030 Views
Buzzebees ประกาศครองแชมป์ Loyalty Platform ครอบคลุมตลาดทุกเซ็กเมนต์ มิติใหม่แห่งอนาคตที่เชื่อมโยงทุกไลฟ์สไตล์บนดิจิทัล
เทรนด์ตลาดโลกทุกวันนี้ ทำให้องค์กรหลายแห่งต้องเริ่มลงทุนกับเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์กับความต้องการ เลือกใช้แพลตฟอร์มในการเก็บข้อมูล วิเคราะห์ และทำ Personalize ที่เหมาะกับแบรนด์ของตนเอง ซึ่งนับเป็นเทรนด์การตลาดแห่งอนาคต ซึ่งสอดคล้องกับรูปแบบการดำเนินธุรกิจของบัซซี่บีส์ ที่ได้นำ Learning Machine เข้ามาช่วยในการบริหารจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลที่จะช่วยให้เข้าถึงผู้บริโภค คู่แข่ง และเข้าใจสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงทั้งในเชิงพฤติกรรมทางสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นบริบทสำคัญที่สามารถนำมาใช้ในการวางแผนกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
 
บัซซี่บีซ์ เติบโตจาก Tech Startup และก้าวสู่ผู้นําด้าน CRM Privileges & Loyalty Platform อันดับ 1 ของประเทศไทย ด้วยส่วนแบ่งการตลาดกว่า 90% โดยกำหนดเป้าหมายเพื่อเป็น Digital Engagement Platform ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นแนวทางการดำเนินงาน หรือ Roadmap ให้กับบัซซี่บีส์ก้าวมาสู่ความสำเร็จและเติบโตอย่างแข็งแกร่งในวันนี้
 


นางสาวณัฐนันท์ ฉันทปริยวาท ผู้อำนวยการฝ่ายการขายและการตลาด
บริษัท
 บัซซี่บีส์ จำกัด
 
นางสาวณัฐนันท์ ฉันทปริยวาท ผู้อำนวยการฝ่ายการขายและการตลาด บริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด (Buzzebees) กล่าวว่า ปัจจุบัน บัซซี่บีส์ได้ขยายธุรกิจจากการให้บริการพัฒนาแพลตฟอร์ม CRM และการจัดหา Privileges สู่การเป็นผู้บริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าแบบดิจิทัลครบวงจร เพื่อให้ตอบโจทย์ทั้งลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ (Corporate) และลูกค้าขนาดย่อม (Retail) มากขึ้น โดยแบ่งบริการเป็น 3 ส่วนหลักๆ ได้แก่ 1. โปรแกรมความภักดีระหว่างแบรนด์และผู้บริโภค (Loyalty Program)  2. การบริหารจัดการด้านการจัดหาสิทธิพิเศษและดีลต่างๆ (Privileges Management) และ 3. บริการด้านอีคอมเมิร์ซอย่างครอบคลุม (E-Commerce Service) โดยระบบหลังบ้านทุกอย่างถูกเชื่อมโยงกันอยู่บน Eco-System ของบัซซี่บีส์ ซึ่งครอบคลุมตลาดในทุกเซ็กเม้นต์ อาทิ ธุรกิจการเงินการธนาคาร, ธุรกิจประกันภัย, ธุรกิจอุปโภคบริโภค, ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม, ธุรกิจเทคโนโลยี, ธุรกิจปิโตรเลียม, ธุรกิจยานยนต์ และธุรกิจการเกษตร เป็นต้น  
 
นอกเหนือจากนั้นแพลตฟอร์มของและบริการของ บัซซี่บีส์ ยังครอบคลุมไปถึงผู้บริโภคในทุกกลุ่มเซ็กเมนต์ ตั้งแต่กลุ่มแมส กลุ่มพรีเมียมแมส รวมไปถึงกลุ่มลักซ์ชัวรี่ และได้เข้ามามีส่วนร่วมกับผู้บริโภคในทุกจังหวะชีวิตและทุกช่วงเวลา  ผ่านแพลตฟอร์มการสะสมคะแนนผ่านการซื้อสินค้าและกิจกรรมต่างๆ การช้อปปิ้งออนไลน์บนแพลตฟอร์ม E-Commerce หรือบนแอปพลิเคชั่นของแบรนด์เอง, การสั่งอาหารออนไลน์เดลิเวอรี่, การแลกสิทธิพิเศษกับร้านค้าที่หน้าร้านหรือผ่านแอปพลิเคชั่น, การใช้สิทธิ์แลกซื้อของ Vending Machine และการชำระเงินแบบ Cashless ที่หน้าร้านค้า  โดยพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีส่วนเชื่อมโยงกับ Buzzebees Eco-System ซึ่งจะเก็บอยู่รูปแบบ Big Data และด้วยจำนวนผู้ใช้งานที่มากมายมหาศาล ยิ่งทำให้สามารถวิเคราะห์ในเชิงลึกได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งถือเป็นเทรนด์แห่งอนาคต  
 
โดยในปี 2564 ท่ามกลางสถานการณ์ที่ท้าทายผู้ประกอบการเป็นอย่างมาก บัซซี่บีส์ โดยรวมยังคงเติบโต คาดการณ์ว่าผลประกอบการในปี 2564 จะมีรายได้รวมที่ 1,250 ล้านบาท โดยเติบโตจากที่ปี่ผ่านมาถึง 35%  นอกจากนี้ บัซซี่บีส์ได้มีส่วนช่วยขับเคลื่อนธุรกิจหรือสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ Buzzebees Network รวมมูลค่ากว่า 6,500 ล้านบาท ปัจจุบันบัซซี่บีส์มีฐานข้อมูลผู้ใช้งานถึง 85 ล้านบัญชี บนกว่า 300 แพลตฟอร์ม ทำให้สามารถเข้าใจถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคเป็นอย่างดี โดยสามารถนำข้อมูลดังกล่าวมาวิเคราะห์เพื่อต่อยอดในการวางแผนกลยุทธ์ให้กับลูกค้า ซึ่งประกอบด้วยแบรนด์องค์กร รวมถึงผู้ประกอบการ SME ขนาดย่อมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
 


คุณนันทมาลี ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการ
บริษัท คาวาลลิโน
 มอเตอร์ จำกัด
  
หนึ่งในพันธมิตรรายใหม่กลุ่มลักซ์ชัวรี่แบรนด์ คุณนันทมาลี ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท คาวาลลิโน มอเตอร์ จำกัด ในฐานะผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์เฟอร์รารี่แต่เพียงผู้เดียวในไทย กล่าวว่า “ทางบริษัทดูแล Super Luxury Brand ซึ่งมีความเป็น Exclusive ในทุกขั้นตอน ตั้งแต่สินค้า โชว์รูม ศูนย์บริการแบบครบวงจร รวมถึงการบริการทั้งก่อนและหลังการขาย ฉะนั้นแอปพลิเคชั่นก็ย่อมมีความสำคัญมากเช่นกันในการตอบสนองการดูแลเจ้าของรถในแบบอย่างของ Customer Service Excellence เนื่องจากเป็นแพลตฟอร์มที่เข้าถึงลูกค้าได้โดยตรงทุกที่ทุกเวลา ต้องมีความเหนือระดับและมีฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ด้านบริการดูแลรถยนต์ให้กับลูกค้าอย่างครบครัน”
 


คุณจิรัสย์ วัฒนภัทรเศรษฐ์ รองกรรมการบริหาร เกษรวิลเลจ
 
ขณะที่พันธมิตรด้านเออร์บันไลฟ์สไตล์ช้อปปิ้งมอลล์ คุณจิรัสย์ วัฒนภัทรเศรษฐ์ รองกรรมการบริหาร เกษรวิลเลจ กล่าวถึงจุดเด่นของเกษรวิลเลจว่า “เราต้องการยกระดับประสบการณ์การมาเยือนเกษรวิลเลจให้กับลูกค้าทุกคนให้ได้พบกับความพิเศษที่มีมากกว่าการมาเดินช้อปปิ้ง ลูกค้าทุกคนจะได้พบกับ Uniquely Gaysorn Experience ซึ่งเป็นประสบการณ์ช้อปปิ้งที่แตกต่างอย่างเหนือระดับด้วย Personalized & Customization concept และการ Enriched Services ฉะนั้นการมอบประสบการณ์บน Digital CRM Platform ยังคงคอนเซ็ปต์เดียวกัน ที่มุ่งเน้นการบริการให้กับลูกค้าที่ถือบัตรสมาชิก Gaysorn Membership แบบเอ็กซ์คลูซีฟ โดยการมอบสิทธิพิเศษที่เปี่ยมไปด้วยรสนิยม คุณภาพที่ดี และคุณค่าทางใจ ซึ่งทางบัซซี่บีส์จะต้องคัดสรรสิ่งต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าของเกษรวิลเลจเกิดความประทับใจ และรู้สึกพิเศษเฉพาะตัว ตามคอนเซ็ปต์ Personalization โดยเกษรวิลเลจเชื่อมั่นและไว้วางใจบัซซี่บีส์ ในความเป็นมืออาชีพด้าน CRM เพราะลูกค้าของเกสรวิลเลจได้รับประสบการณ์ที่ดีเสมอมา”
 


คุณไมเคิล เชน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
บริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด
 
ปิดท้ายด้วยคุณไมเคิล เชน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด กล่าวปิดท้ายว่า “บัซซี่บีส์ขอขอบคุณพันธมิตรทุกๆ ราย ที่ให้ความไว้วางใจ เป้าหมายของเราคือช่วยให้พันธมิตรเติบโตไปข้างหน้า ด้วยประสบการณ์ด้านการดำเนินการ Loyalty Platform ที่สมบูรณ์แบบ รวมถึงความเชี่ยวชาญด้านการตลาดและ Data Management Platform  บนระบบของบัซซี่บีส์ที่มีการเชื่อมโยงระบบหลังบ้านอย่างเป็นระบบและมีความปลอดภัยขั้นสูงจากการเป็นพันธมิตรในระดับ Gold Member กับ Microsoft”
 
บัซซี่บีส์มั่นใจว่าจะมุ่งพัฒนาคุณภาพและผลงานให้ดีขึ้นเรื่อยๆ โดยจะนำ Machine Learning หรือเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาเสริมศักยภาพของแพลตฟอร์ม รวมถึงการขยาย Eco-System และ Network ผ่านบริการและการเชื่อมต่อกับพันธมิตรรายใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดประโยชน์กับพันธมิตรทุกรายสูงสุดและเพื่อจุดหมายสู่การเป็น Digital Engagement Platform ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
 

ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ