ผ่าตัดดึงหน้า หรือ Ulthera เลือกแบบไหนดี
เมื่อ : 16 พ.ย. 2564 ,
1033 Views
เมื่อมลภาวะ และสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน ส่งผลให้ผิวหน้าแก่ก่อนวัย เกิดริ้วรอย และความหย่อนคล้อย ยิ่งเมื่ออายุมากขึ้นคอลลาเจนใต้ผิวมีปริมาณน้อยลงทำให้ผิวไม่เต่งตึงเช่นเดิม การหาคำตอบเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น คงเป็นเรื่องที่หลายคนต้องขบคิดและหาข้อมูลอย่างละเอียดถี่ถ้วน ซึ่งเมื่อริ้วรอย และความหน่อยคล้อยมีมาก จนการดูแลบำรุงผิวหน้าแบบทั่วไปไม่สามารถตอบโจทย์ได้ การผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า คงเป็นคำตอบที่แก้ปัญหาได้ดีที่สุด แต่หากยังอยู่ในวัยที่สามารถฟื้นฟูผิวได้ ก็จะมีอีกเทคนิคที่จะช่วยแก้ไขความหย่อนคล้อยได้โดยไม่ต้องผ่าตัด คือ การทำ Ulthera แล้วความแตกต่างของการทำศัลยกรรมดึงหน้า และ Ulthera แตกต่างกันอย่างไร
พญ.รสิตา อัศดามงคล แพทย์เฉพาะทางด้านอายุรศาสตร์ และตจวิทยา รองผู้อำนวยการศูนย์ศัลยกรรมความงาม โรงพยาบาลบางมด อธิบายไว้ว่า “การศัลยกรรมดึงหน้า” เป็นการผ่าตัดที่มีกระบวนการทำลงไปถึงกล้ามเนื้อชั้นลึก หรือชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ที่เปรียบเสมือนตาข่ายที่พยุงใบหน้าเอาไว้ เมื่อเวลาผ่านไปตาข่ายก็เริ่มเสื่อม และไม่ประสานกันดีเหมือนเดิม จึงทำให้ผิวที่เคยตึงเริ่มหย่อนคล้อย สำหรับการทำ อัลเทอร่า (Ulthera หรือ Ultherapy) เป็นเทคโนโลยีที่ส่งผ่านพลังงานคลื่นเสียงความถี่สูง ลงไปถึงกล้ามเนื้อชั้นลึกหรือชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับการทำศัลยกรรมผ่าตัดดึงหน้า ให้มีการหดตัวเหมือนเป็นการเย็บชั้นเนื้อเยื่อ กระตุ้นให้เกิดการสร้างเนื้อเยื่อและคอลลาเจน จะทำให้ใบหน้ายกกระชับขึ้น นอกจากนั้นผิวหน้าจะตึงขึ้น เรียบเนียนขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยคลื่นเสียงนี้จะลงไปเป็นจุดเล็กๆ อย่างสม่ำเสมอ ทิ้งระยะห่างระหว่างจุดประมาณ 1 – 1.5 มิลลิเมตร สามารถทำได้ในจุดที่มีปัญหา อาทิ คิ้ว หางตา รอบดวงตา ลำคอ อก กรอบหน้า และลดเหนียง ก่อนทำจะมีการแปะยาชาเฉพาะที่ ทำให้ขณะทำจะมีความรู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อย ทั้งนี้แพทย์จะมองเห็นชั้นผิวหนังผ่านหน้าจอในขณะทำ สามารถประเมินและควบคุมคลื่นอัลตราซาวน์ให้ลงไปในชั้น SMAS ได้อย่างแม่นยำ ทำให้มีประสิทธิภาพในการรักษาและมีความปลอดภัย เห็นผลลัพธ์ประมาณ 20-30% ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ และจะเริ่มเห็นผลชัดเจน 3 เดือน สามารถคงสภาพอยู่ได้ประมาณ 1–2 ปี (ทั้งนี้ผลลัพธ์ของแต่ละคนอาจจะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับสภาพผิว การใช้ชีวิตประจำวัน และการดูแลตัวเองหลังทำ) หลังจากทำแล้ว ไม่ต้องใช้เวลาในการพักฟื้น สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ เหมาะสำหรับผู้ที่ใบหน้าเริ่มมีความหย่อนคล้อย เล็กน้อยถึงปานกลาง หรือในช่วงวัยประมาณ 30-50 ปี
ส่วนการผ่าตัดดึงหน้าสามารถทำเฉพาะส่วนที่มีปัญหาได้ แบ่งออกเป็น หน้าผาก, หางตา, ดึงหน้าส่วนกลาง, หน้าส่วนล่าง และลำคอ ใช้ระยะเวลาการผ่าตัดประมาณ 1-2 ชั่วโมง ใช้เวลาพักฟื้น 1-2 สัปดาห์ ก็สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 50 ปี ขึ้นไป หรือมีใบหน้าที่หย่อนคล้อยค่อนข้างมาก ซึ่งการผ่าตัดจะสามารถลดอายุผิวหน้าไปได้ถึง 10 ปี และอยู่ได้คงทน 5-10 ปี (ทั้งนี้ผลลัพธ์ของการผ่าตัด ขึ้นอยู่กับสภาพผิว การใช้ชีวิตประจำวัน และการดูแลตัวเองหลังทำ)
อย่างไรก็ตามไม่ว่าความต้องการของคนไข้ จะเลือกทำศัลยกรรมผ่าตัดดึงหน้า หรือเลือกใช้เทคโนโลยี อย่างอัลเทอร่า (Ulthera) ในการแก้ไขปัญหาความหย่อนคล้อยของใบหน้า การมาปรึกษาแพทย์ก่อนเป็นเรื่องสำคัญ เพราะแพทย์จะทำการวิเคราะห์และประเมินเพื่อแก้ไขปัญหาให้คนไข้อย่างตรงจุด เพื่อความคุ้มค่า ทั้งเรื่องของเวลาและค่าใช้จ่าย และผลลัพธ์ของการทำศัลยกรรมที่ตรงใจและผลลัพธ์ที่คงทนถาวร
ศูนย์ศัลยกรรมความงามโรงพยาบาลบางมด ปรึกษาศัลยกรรมความงาม โทร. 0-2867-0606 ต่อ 1200-1204
พญ.รสิตา อัศดามงคล แพทย์เฉพาะทางด้านอายุรศาสตร์ และตจวิทยา รองผู้อำนวยการศูนย์ศัลยกรรมความงาม โรงพยาบาลบางมด อธิบายไว้ว่า “การศัลยกรรมดึงหน้า” เป็นการผ่าตัดที่มีกระบวนการทำลงไปถึงกล้ามเนื้อชั้นลึก หรือชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ที่เปรียบเสมือนตาข่ายที่พยุงใบหน้าเอาไว้ เมื่อเวลาผ่านไปตาข่ายก็เริ่มเสื่อม และไม่ประสานกันดีเหมือนเดิม จึงทำให้ผิวที่เคยตึงเริ่มหย่อนคล้อย สำหรับการทำ อัลเทอร่า (Ulthera หรือ Ultherapy) เป็นเทคโนโลยีที่ส่งผ่านพลังงานคลื่นเสียงความถี่สูง ลงไปถึงกล้ามเนื้อชั้นลึกหรือชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับการทำศัลยกรรมผ่าตัดดึงหน้า ให้มีการหดตัวเหมือนเป็นการเย็บชั้นเนื้อเยื่อ กระตุ้นให้เกิดการสร้างเนื้อเยื่อและคอลลาเจน จะทำให้ใบหน้ายกกระชับขึ้น นอกจากนั้นผิวหน้าจะตึงขึ้น เรียบเนียนขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยคลื่นเสียงนี้จะลงไปเป็นจุดเล็กๆ อย่างสม่ำเสมอ ทิ้งระยะห่างระหว่างจุดประมาณ 1 – 1.5 มิลลิเมตร สามารถทำได้ในจุดที่มีปัญหา อาทิ คิ้ว หางตา รอบดวงตา ลำคอ อก กรอบหน้า และลดเหนียง ก่อนทำจะมีการแปะยาชาเฉพาะที่ ทำให้ขณะทำจะมีความรู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อย ทั้งนี้แพทย์จะมองเห็นชั้นผิวหนังผ่านหน้าจอในขณะทำ สามารถประเมินและควบคุมคลื่นอัลตราซาวน์ให้ลงไปในชั้น SMAS ได้อย่างแม่นยำ ทำให้มีประสิทธิภาพในการรักษาและมีความปลอดภัย เห็นผลลัพธ์ประมาณ 20-30% ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ และจะเริ่มเห็นผลชัดเจน 3 เดือน สามารถคงสภาพอยู่ได้ประมาณ 1–2 ปี (ทั้งนี้ผลลัพธ์ของแต่ละคนอาจจะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับสภาพผิว การใช้ชีวิตประจำวัน และการดูแลตัวเองหลังทำ) หลังจากทำแล้ว ไม่ต้องใช้เวลาในการพักฟื้น สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ เหมาะสำหรับผู้ที่ใบหน้าเริ่มมีความหย่อนคล้อย เล็กน้อยถึงปานกลาง หรือในช่วงวัยประมาณ 30-50 ปี
ส่วนการผ่าตัดดึงหน้าสามารถทำเฉพาะส่วนที่มีปัญหาได้ แบ่งออกเป็น หน้าผาก, หางตา, ดึงหน้าส่วนกลาง, หน้าส่วนล่าง และลำคอ ใช้ระยะเวลาการผ่าตัดประมาณ 1-2 ชั่วโมง ใช้เวลาพักฟื้น 1-2 สัปดาห์ ก็สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 50 ปี ขึ้นไป หรือมีใบหน้าที่หย่อนคล้อยค่อนข้างมาก ซึ่งการผ่าตัดจะสามารถลดอายุผิวหน้าไปได้ถึง 10 ปี และอยู่ได้คงทน 5-10 ปี (ทั้งนี้ผลลัพธ์ของการผ่าตัด ขึ้นอยู่กับสภาพผิว การใช้ชีวิตประจำวัน และการดูแลตัวเองหลังทำ)
อย่างไรก็ตามไม่ว่าความต้องการของคนไข้ จะเลือกทำศัลยกรรมผ่าตัดดึงหน้า หรือเลือกใช้เทคโนโลยี อย่างอัลเทอร่า (Ulthera) ในการแก้ไขปัญหาความหย่อนคล้อยของใบหน้า การมาปรึกษาแพทย์ก่อนเป็นเรื่องสำคัญ เพราะแพทย์จะทำการวิเคราะห์และประเมินเพื่อแก้ไขปัญหาให้คนไข้อย่างตรงจุด เพื่อความคุ้มค่า ทั้งเรื่องของเวลาและค่าใช้จ่าย และผลลัพธ์ของการทำศัลยกรรมที่ตรงใจและผลลัพธ์ที่คงทนถาวร
ศูนย์ศัลยกรรมความงามโรงพยาบาลบางมด ปรึกษาศัลยกรรมความงาม โทร. 0-2867-0606 ต่อ 1200-1204