เผยเคล็ดลับความสำเร็จธุรกิจที่สร้างความมั่นใจให้กับผู้หญิงบน TikTok
หลายคนคงเคยได้ยินคำพูดที่ว่า ผู้หญิงสวยที่สุดตอนที่ตัวเองมั่นใจ และไม่ว่าจะสวยในรูปแบบใดความสวยก็คือความสวย แม้ผู้หญิงจะถูกตีกรอบตามมาตรฐานของความงามที่สังคมนิยามขึ้นก็ตาม เพราะแท้จริงแล้ว ’ความสวย’ ไม่ได้ถูกจำกัดเฉพาะรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งเท่านั้น เพราะความสวยของผู้หญิงในยุคปัจจุบันถูกนิยามมากกว่าภาพลักษณ์ภายนอก แต่ยังหมายถึงความมั่นใจในการใช้ชีวิต การทำงาน หรือการดำเนินธุรกิจ TikTok ในฐานะแพลตฟอร์มความบันเทิงที่สนับสนุนกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมให้เติบโต ควบคู่ไปกับการสนับสนุนด้านความแตกต่างหลากหลาย เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า ’ความมั่นใจ’ คือ ’ความสวยที่แท้จริง’ TikTok จึงให้ความสำคัญและส่งเสริมความมั่นใจให้ผู้หญิงเห็นถึงคุณค่าในตนเอง จึงมุ่งผลักดันธุรกิจด้านความสวยความงามและแฟชั่นให้เติบโต และประสบความสำเร็จบนแพลตฟอร์ม ร่วมพูดคุยกับสามนักธุรกิจสาวผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสวยและความมั่นใจของผู้หญิง
คุณกิ๊ฟ กนกวรรณ อยู่พืช นักธุรกิจสาวผู้มองเห็นโอกาสเปิดตลาดบนแพลตฟอร์ม TikTok พัฒนาสินค้าที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค และต่อยอดธุรกิจจนประสบความสำเร็จ
เจ้าของธุรกิจบราปีกนก Boom Up Bra Bra ผู้ที่พร้อมยอมรับต่อการเปลี่ยนแปลงและไม่ย่อท้อหลังพบเจอปัญหาทางธุรกิจที่พม่า คุณกิ๊ฟเลยมุ่งหน้ากลับไทยและบุกตลาดบราปีกนกบนแพลตฟอร์ม TikTok จนกลายมาเป็นหนึ่งในผู้ที่เสริมสร้างความมั่นใจให้กับผู้หญิงให้สามารถแต่งตัวได้ตามที่ตนเองต้องการ แรกเริ่มคุณกิ๊ฟหันมาสำรวจตลาดและวิเคราะห์กลุ่มผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์ม TikTok จนออกแบบผลิตภัณฑ์บราปีกนกที่ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายในราคาที่สามารถเข้าถึงได้ โดยมีจุดเด่นในเรื่องของซิลิโคนที่มีสัมผัสเนียนนุ่มและมีกลิตเตอร์สีชมพูเป็นเจ้าแรกของตลาด
ไม่จำเป็นต้องเป็นแบรนด์ใหญ่หรือคนดัง ธุรกิจก็ปังได้บนแพลตฟอร์ม TikTok
"กิ๊ฟบอกได้เลยว่ากิ๊ฟเกิดมาจาก TikTok จุดที่เรียกว่าได้เปรียบกว่าธุรกิจเจ้าอื่นคือกิ๊ฟรีบคว้าโอกาสรุกตลาดบนแพลตฟอร์ม TikTok เป็นเจ้าแรก ๆ ของธุรกิจบราปีกนก ซึ่งสิ่งที่ชอบของแพลตฟอร์มคืออัลกอริทึมของ TikTok ช่วยผลักดันให้ธุรกิจของเราโตได้และโตไว ไม่ว่าเราจะเป็นใคร" คุณกิ๊ฟ กล่าว และจุดเริ่มต้นนี้เองที่ทำให้เธอสามารถสร้างตัวตนและทำให้แบรนด์ Boom Up Bra Bra กลายมาเป็นที่รู้จักบนแพลตฟอร์มในทุกวันนี้
"เคล็ดลับในการยิงโฆษณาของกิ๊ฟคือการเลือกจุดประสงค์ของโฆษณาให้เป็นคอนเวอร์ชันมากกว่าในด้านการรับรู้หรือด้านการมีส่วนร่วม ซึ่งกิ๊ฟจะคอยเช็คผลลัพธ์จากการยิงโฆษณาอยู่ทุกวัน โดยจะเน้นพูดถึงจุดเด่นของสินค้า นอกจากกิ๊ฟจะดูแลหลังร้านเองแล้วก็มีทีมจาก TikTok ที่เข้ามาดูแลให้คำปรึกษาเช่นกัน ตั้งแต่วิธีการยิงโฆษณา ให้คำแนะนำ ไปจนถึงการติดต่อมาหาในกรณีที่คอนเทนต์หรือโฆษณามีปัญหาอะไรและจะต้องแก้ไขยังไง ซึ่งตรงนี้ก็เข้ามาช่วยเสริมความมั่นใจให้การทำธุรกิจมากขึ้น และกล้าที่จะลงทุนในการยิงโฆษณาบน TikTok" คุณกิ๊ฟ กล่าว
นอกจากนี้ ยังมี Creator Program ใน TikTok ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับการธุรกิจ ทั้งด้านการสร้างคอนเทนต์และการสร้างตัวตนบนแพลตฟอร์ม โดยในระบบจะมีการแบ่งประเภทให้สามารถเลือกใช้งานได้ตามความต้องการ ซึ่งจะช่วยเพิ่มการมองเห็น ขยายการรับรู้ออกไปในวงกว้าง อีกทั้งยังช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์เพิ่มขึ้นอีกด้วย "ด้านการสร้างคอนเทนต์ก็สำคัญ คอนเทนต์ต้องมีความสดใหม่ ไม่ซ้ำ และมีลูกเล่นอยู่เสมอ กิ๊ฟจะคอยหาแรงบันดาลใจในการทำวิดีโอจากไวรัล หยิบยกคำพูดที่น่าสนใจมาทำคอนเทนต์ในแบบของตัวเอง แต่กิ๊ฟยังไม่ค่อยถนัดในการสร้างตัวตนเท่าไหร่ กิ๊ฟเลยเลือกใช้ครีเอเตอร์เข้ามาช่วยสร้างคอนเทนต์ให้ด้วยเช่นกัน" คุณกิ๊ฟ กล่าว
อีกหนึ่งเคล็ดลับในการยิงโฆษณาที่เธอเปิดเผยคือ การยิงโฆษณาด้วยการสร้างวิดีโอเพื่อตอบกลับคอมเมนต์จากผู้ชม (Reply Video) ตอบกลับคอมเมนต์รีวิวสินค้าหรือคำถามของลูกค้า ซึ่งนอกจากจะช่วยตอบข้อสงสัยของลูกค้าแล้ว ยังช่วยเสริมความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างแบรนด์กับลูกค้าอีกด้วย นอกจากนี้ การเปิดรับคอมเมนต์จากลูกค้าบนแพลตฟอร์มยังทำให้เธอได้รับฟังเสียงของลูกค้ามากขึ้น เพื่อนำไปปรับปรุงและพัฒนาสินค้า ทำให้ตอนนี้เธอต่อยอดและผลิตสินค้าออกมามากขึ้น ซึ่งตอบสนองต่อการใช้งานในหลายโอกาสมากยิ่งขึ้น "การเข้ามาใน TikTok ถือเป็นช่องทางที่ได้รับฟังเสียงของลูกค้าทำให้ตอนนี้พัฒนาสินค้าออกมาหลายรุ่นซึ่งเหมาะกับหลายโอกาสมากขึ้น จากที่ตอนแรกมองว่าสีชมพูเป็นจุดเด่นของแบรนด์ แต่พอได้เปิดรับฟังความเห็นของลูกค้า ลูกค้าหลายคนคอมเมนต์เข้ามาบอกว่าอยากได้บราปีกนกสีเนื้อ ก็นำความคิดเห็นนั้นมาพัฒนาสินค้าตัวใหม่ ซึ่งใช้ได้ในโอกาสที่แตกต่างกัน และเหมาะสำหรับรูปแบบหน้าอกที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ ยังพัฒนาสินค้าที่สามารถขายควบคู่กันไปได้คือน้ำยาล้างบราปีกนก เวลาลูกค้าสั่งซื้อก็มักจะซื้อบราปีกนกคู่กับน้ำยาล้างบราปีกนก ซึ่งช่วยเพิ่มยอดขายได้อีกด้วย" คุณกิ๊ฟ กล่าวเสริม
"กิ๊ฟมองว่าความท้าทายในการทำธุรกิจคือการเปลี่ยนแปลง แต่กิ๊ฟคิดว่ากิ๊ฟพร้อมที่ก้าวไปกับการเปลี่ยนแปลงนั้น และกิ๊ฟจะคอยบอกทีมว่าให้ยอมรับในการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เราต้องทำให้ตัวเองเก่งในทุกด้าน ถ้าวันนึงโอกาสของเราจะมาถึงเราจะได้เต็มที่กับมัน และไม่ว่าใครก็สามารถประสบความสำเร็จได้เหมือนกัน" คุณกิ๊ฟ กล่าวทิ้งท้าย
คุณเอมมี่ ยลภัทร ศักดิ์นุชิต เจ้าของธุรกิจรุ่นใหม่ที่เข้าใจผู้บริโภค พร้อมเติบโตในทุกการเปลี่ยนแปลง ผลักดันธุรกิจจนประสบความสำเร็จอย่างก้าวกระโดด
ผู้ที่ริเริ่มธุรกิจจากความชื่นชอบของตัวเองจนกลายมาเป็นเจ้าของธุรกิจสกินแคร์และอาหารเสริมแบรนด์ Kojic Thailand เธอเริ่มขายสินค้าบนออนไลน์แพลตฟอร์มมาตั้งแต่ 10 ปีก่อน หลังจากที่เธอเล็งเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมในการรับชมคอนเทนต์ของลูกค้าที่นิยมรับชมคอนเทนต์ในรูปแบบวิดีโอมากขึ้น ทำให้เธอหันมาเปิดตลาดบนแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นอย่าง TikTok ที่ผลักดันให้ยอดขายสินค้าของเธอเพิ่มขึ้นสูงถึง 100% จากเดิมที่เข้ามาบนแพลตฟอร์ม TikTok เพียงเพราะขยายฐานลูกค้า แต่ทุกวันนี้ TikTok ได้กลายมาเป็นแพลตฟอร์มหลักในการทำธุรกิจของเธอ
"ธุรกิจของมี่เริ่มต้นที่ความรักสวยรักงามของตัวเอง เลยทำสินค้าสกินแคร์ออกมาวางขาย และสะสมฐานลูกค้าไปเรื่อย ๆ จนวันนึงลูกค้าก็เริ่มไว้ใจในแบรนด์ของมี่ และขอให้ทำอาหารเสริมออกมาขาย มี่ก็เลยเริ่มต้นทำสินค้าอาหารเสริมตั้งแต่ตอนนั้น ซึ่งมี่ก็ให้ความสำคัญในคุณภาพของสินค้า ขั้นตอนการผลิต และมาตรฐานการผลิตของโรงงานมาก ๆ เพราะต้องการที่จะทำสินค้าที่มีคุณภาพออกมาครองใจลูกค้าไปนาน ๆ" คุณเอมมี่ กล่าว
เมื่อพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน แบรนด์ก็ถึงเวลาต้องปรับ
"มี่เริ่มขยายธุรกิจมาอยู่บนแพลตฟอร์ม TikTok เพราะเห็นว่าลูกค้าเปลี่ยนไปดูวิดีโอมากขึ้น เลยศึกษาว่าเราจะขายบน TikTok ยังไงได้บ้าง ก็เลยลองถ่ายวิดีโอและยิงโฆษณาเลย เริ่มแรกก็เรียกได้ว่าขาดทุนแต่ก็เรียนรู้และปรับตัวมาเรื่อย ๆ ตอนนั้นก็มีทีมจาก TikTok โทรมาช่วยแนะนำวิธีการยิงโฆษณา และมีการสอนวิธีการยิงโฆษณาอาทิตย์ละครั้ง ซึ่งทางทีมซัพพอร์ตก็ไม่ได้กดดันเลยว่าจะต้องเพิ่มยอดในการยิงโฆษณา สิ่งที่ชอบที่สุดในแพลตฟอร์มคือ การให้ความช่วยเหลือเจ้าของธุรกิจหรือร้านค้าผ่าน TikTok Seller เพราะช่วยสร้างความพร้อมและส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจมากกว่าช่องทางอื่น ซึ่งเปิดโอกาสธุรกิจ SME อย่างเราให้สามารถโตขึ้นมาได้บนแพลตฟอร์ม TikTok" คุณเอมมี่ กล่าว
เธอเปิดเผยว่าเธอใช้เครื่องมือการยิงโฆษณาจาก TikTok Ads Solution จำนวนมาก แต่เครื่องมือที่เธอชอบที่สุดคือ Lowest Cost Bidding เป็นเครื่องมือกำหนดค่า Bid หรือการเสนอราคาด้วยค่าใช้จ่ายที่ต่ำที่สุด โดยจะใช้ได้ทั้งวัตถุประสงค์ด้านการเข้าถึง ยอดการรับชมวิดีโอ จำนวนการเข้าชมเว็บไซต์ และการคอนเวอร์ชัน ซึ่งระบบจะช่วยประมูลงานโฆษณาให้ได้ราคาดีที่สุด ให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และทำให้สามารถควบคุมงบประมาณในการยิงโฆษณาได้ด้วยตนเองอีกด้วย
เธอเผยว่าหัวใจในการทำธุรกิจบนแพลตฟอร์ม TikTok คือการสร้างคอนเทนต์ "เมื่อก่อนไม่รู้ว่าจะต้องทำคอนเทนต์ยังไง พอมี่เริ่มจับจุดคอนเทนต์ได้ ก็เริ่มทำวิดีโอออกมาเยอะขึ้น ข้อดีของการทำคอนเทนต์เล่าผ่านวิดีโอคือช่วยทำให้ลูกค้าเข้าใจสินค้าได้มากขึ้นและได้ฐานลูกค้ามากขึ้น ต้องทำคอนเทนต์ทุกวันและออกมาพูดบ่อย ๆ เพื่อให้ลูกค้าจดจำได้ว่าเราคือเจ้าของแบรนด์ ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้มากขึ้น นอกจากนี้ก็จะใช้ Reply Video ตอบกลับคอมเมนต์เพื่อตอบข้อสงสัยจากลูกค้า ช่วยกระจายข้อมูลให้ลูกค้าเห็นว่าสินค้าเรามีดียังไง และยังช่วยทำให้เราเข้าใจลูกค้ามากขึ้นว่าลูกค้าติดปัญหาตรงไหนที่ทำให้ยังไม่ตัดสินใจซื้อ ซึ่งอันนี้ก็สามารถเอาไปยิงโฆษณาต่อได้เช่นกัน เทคนิคของมี่คือการทำคอนเทนต์ที่สอดคล้องกับพฤติกรรมของคนดูเนื่องจากในปัจจุบันคอนเทนต์ที่สามารถดึงดูดคนดูได้ดีที่สุด คือคอนเทนต์ที่ตรงไปตรงมา สื่อถึงจุดประสงค์ของการขายได้อย่างชัดเจนตั้งแต่เริ่มวิดีโอ ส่วนเรื่องที่ต้องระวังในการทำคอนเทนต์คือการโฆษณาเกินจริง นอกจากการสร้างคอนเทนต์แล้ว สิ่งที่ทำให้แบรนด์มี่อยู่ท่ามกลางคู่แข่งจำนวนมากได้ก็คือการหาเอกลักษณ์ของแบรนด์ให้เจอ ซึ่งของแบรนด์มี่จะโดดเด่นในเรื่องนวัตกรรมไฮยาลูรอน" คุณเอมมี่ กล่าว
"ตอนนี้ก็เรียกได้ว่า TikTok คือแพลตฟอร์มหลักในการทำธุรกิจของมี่ไปแล้ว ขอขอบคุณแพลตฟอร์ม TikTok ที่ช่วยทำให้แบรนด์ของมี่ได้เติบโต ขอฝากบอกกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยว่าให้สร้างวิดีโอออกมาเยอะ ๆ ให้สามารถจับจุดได้ว่าลูกค้าชอบคอนเทนต์แบบไหน ค่อย ๆ เรียนรู้ ค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวก็ประสบความสำเร็จเพราะ TikTok สนับสนุนในเรื่องของการทำธุรกิจและการหารายได้บนแพลตฟอร์ม" คุณเอมมี่ กล่าวทิ้งท้าย
คุณมะเหมี่ยว ชวินทร์พิดา พิรัลปภานนท์ เจ้าของธุรกิจเครื่องสำอางแบรนด์ไทยที่ตีโจทย์การตลาดด้วยความเข้าใจผู้หญิง สู่เบื้องหลังความสำเร็จแบรนด์เครื่องสำอางดัง
Deesay Thailand ธุรกิจเครื่องสำอางแบรนด์ไทยเพื่อคนไทยโดยเฉพาะ ที่ให้ความสำคัญกับการทำการตลาดทั้งทางตรงและทางอ้อม เริ่มบุกตลาด TikTok เพราะไม่ต้องการสูญเสียโอกาสในการขายบนแพลตฟอร์ม ควบคู่กับการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อวางแผนทางการตลาดที่ใช่ ด้วยสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และการตลาดอย่างครบวงจรบนแพลตฟอร์ม TikTok ช่วยผลักดันยอดขายให้ธุรกิจก้าวต่อไปได้ไกลกว่าที่เคย
เมื่อแข่งขันในตลาดใหญ่ จุดขายที่แตกต่างคือความได้เปรียบ
คุณมะเหมี่ยว เผยว่า การเลือกผลิตสินค้าแป้งเพราะมองว่าแป้งเป็นสินค้าที่มีตลาดใหญ่มากในประเทศไทย เรียกได้ว่าเป็นเครื่องสำอางที่ผู้หญิงนิยมใช้ประจำ อีกทั้งยังเป็นสินค้าที่สามารถตัดสินใจซื้อได้ง่าย ด้านการพัฒนาสินค้าแป้งเริ่มมาจากการสังเกตเห็น pain point ในอุตสาหกรรมแป้งไทย พบว่าผู้หญิงไทยมักเขินอายที่จะหยิบตลับแป้งไทยขึ้นมาใช้ในที่สาธารณะ Deesay จึงต้องการที่จะก้าวข้ามในสิ่งนี้ และพัฒนาแป้งที่ไม่ใช่แค่เนื้อดีแต่ต้องตอบโจทย์ในด้านของการพกพาด้วยเช่นกัน
"การทำการตลาดบนแพลตฟอร์ม TikTok ช่วยผลักดันให้แบรนด์มีเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้น และการมาของ TikTok Shop เรียกได้ว่าเป็น One Stop Service สามารถปิดการขายและจบได้ในแพลตฟอร์มเดียว เพราะในยุคก่อนต้องปิดการขายในแพลตฟอร์มอื่น ซึ่งอาจทำให้ลูกค้าหลุดหายไประหว่างทางก่อนที่ลูกค้าจะกดสั่งซื้อสินค้า TikTok Shop ช่วยให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจได้รวดเร็วขึ้น และในขณะเดียวกันก็ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าด้วยเช่นกัน ในด้านเครื่องมือทางการตลาดที่ชอบที่สุดคือ Live Shopping Ads เพราะทำให้ทราบพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าแบบเรียลไทม์ ช่วยเชื่อมต่อให้โลกของผู้ประกอบการกับลูกค้าใกล้ชิดกันมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถนำความคิดเห็นของลูกค้าไปปรับปรุงและพัฒนาสินค้าที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า ซึ่ง TikTok มีการวัดผลได้อย่างชัดเจน เช่น ลูกค้าซื้อสินค้ามากที่สุดในช่วงเวลาใด ลูกค้าชอบหรือไม่ชอบโปรโมชั่นแบบไหน เพื่อนำข้อมูลไปวิเคราะห์และวางแผนทางการตลาดในแบบที่ตรงใจลูกค้ามากขึ้น" คุณมะเหมี่ยว กล่าว
นอกจากนี้ คุณมะเหมี่ยว ยังเผยอีกว่า เธอชอบ Affiliate Program เพราะมองว่าเป็นการตลาดที่ยุติธรรมสำหรับด้านของผู้ประกอบการและครีเอเตอร์ เดิมต้องจ้างครีเอเตอร์เพื่อรีวิวสินค้าเท่านั้น แต่เมื่อมี Affiliate Program ที่เปิดโอกาสให้ครีเอเตอร์สามารถสร้างรายได้จากการรีวิวสินค้า ยิ่งครีเอเตอร์สร้างคอนเทนต์ที่มีลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้าของแบรนด์ได้มากเท่าไหร่ ครีเอเตอร์ก็จะได้รับค่าตอบแทนมากขึ้นเช่นกัน ทำให้แบรนด์จ่ายเพียงค่าคอมมิชชั่นให้กับครีเอเตอร์ซึ่งแบ่งสัดส่วนจากยอดขายจริงโดยที่ไม่จำเป็นต้องจ่ายค่ารีวิวสินค้า "อีกหนึ่งเหตุผลที่เลือกใช้ครีเอเตอร์ เพราะมองว่าอยากให้สินค้าของเราอยู่ในมือสื่อที่มีคุณภาพ เพื่อนำพาสินค้าและแบรนด์ไปได้ไกลยิ่งขึ้น" คุณมะเหมี่ยวกล่าวเสริม
TikTok เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการสามารถทำการตลาดได้อย่างครบวงจร "ในด้านของการตลาด TikTok ช่วยสร้างการรับรู้ของสินค้าในวงกว้างมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยเพิ่มยอดขายสินค้าในทุกแพลตฟอร์มที่มีให้เพิ่มขึ้นเช่นกัน ด้วยข้อมูลเชิงลึกจากการวัดผลช่วยทำให้สามารถเก็บข้อมูลไปพัฒนาสินค้าเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า พร้อมช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ผู้หญิงไทยในยุคนี้ให้สามารถปรับบุคลิกและดูดีขึ้นได้ในทุกวัน" คุณมะเหมี่ยว กล่าวทิ้งท้าย
อุตสาหกรรมด้านความสวยความงามและแฟชั่นเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง TikTok ในฐานะแพลตฟอร์มความบันเทิงที่สนับสนุนกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมให้เติบโต ควบคู่ไปกับการสนับสนุนด้านความแตกต่างหลากหลาย พร้อมสนับสนุนความสวยในทุกรูปแบบ เพราะ TikTok เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าความสวยที่แท้จริงเกิดจากความมั่นใจ และส่งเสริมให้ผู้หญิงทุกคนมองเห็นคุณค่าในตัวเอง ในขณะเดียวกัน TikTok ให้ความสำคัญในด้านการพัฒนาเครื่องมือทางการตลาดบนแพลตฟอร์ม พร้อมด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญที่ดูแลการใช้เครื่องมือการตลาดโดยเฉพาะ เพื่อช่วยเหลือและให้คำแนะนำสำหรับผู้ประกอบการตั้งแต่กลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยไปจนถึงกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่สามารถใช้เครื่องมือทางการตลาดบนแพลตฟอร์มได้อย่างมีประสิทธิภาพและตรงกับวัตถุประสงค์ทางการตลาด เพื่อส่งเสริมการสร้างรายได้บนแพลตฟอร์ม และขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจไทยให้ก้าวต่อไป