เมื่อ : 05 พ.ย. 2564 , 937 Views
ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ เปิดมิติใหม่ตลาดเอสยูวีกับขุมพลังฟูลไฮบริด e:HEV ที่มาพร้อม Honda SENSING ทั้งไลน์อัป พร้อมมอบพลังที่สมบูรณ์แบบของวันนี้เพื่อขับเคลื่อนชีวิตของคุณไปข้างหน้า
• อีกขั้นของสปอร์ตพรีเมียมเอสยูวีที่ลงตัวที่สุดในยุคปัจจุบัน กับระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ทั้งไลน์อัป
มอบสมรรถนะอันทรงพลัง ตอบสนองทันใจ และมีอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม 25.6 กม./ลิตร มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย
• ครั้งแรกในโลกกับการเปิดตัวรุ่น RS ที่ประเทศไทย ยกระดับความสปอร์ตพรีเมียมด้วยดีไซน์สปอร์ตเอกซ์คลูซีฟรอบคัน
• ดีไซน์สปอร์ตพรีเมียมโดดเด่นทั้งภายนอกและภายใน ห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย ตอบโจทย์สมาร์ต
ไลฟ์สไตล์ด้วยเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกที่ครบครัน คงจุดเด่นความอเนกประสงค์กับเบาะนั่งด้านหลังที่ปรับพับได้ถึง
3 รูปแบบ
• สัมผัสกับยนตรกรรมระดับพรีเมียมได้อย่างมั่นใจ ด้วยการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี
และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
**
• ราคาประมาณการเริ่มต้นต่ำกว่า 990,000 บาท พร้อมเปิดลงทะเบียนจองสิทธิ์ระหว่างวันที่ 5 พฤศจิกายน 2564 – 18 พฤศจิกายน 2564** ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ พร้อมรับฟรีชุดอุปกรณ์ตกแต่ง Utility Package โดยจะประกาศราคาและเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2564 นี้

 
   
 
(กรุงเทพฯ – 5 พฤศจิกายน 2564) บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมยกระดับมาตรฐานใหม่ยนตรกรรมเอสยูวีไทยอีกครั้ง เปิดตัว ฮอนด้า เอชอาร์-วี เจเนอเรชันที่ 2 ภายใต้ชื่อ “ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่” เป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย สู่อีกขั้นแห่งยนตรกรรมที่ลงตัวที่สุดในปัจจุบัน ครั้งแรกกับระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ทั้งไลน์อัป ดีไซน์ภายนอกสปอร์ตพรีเมียมโดดเด่นในทุกมุมมอง ยกระดับความสปอร์ต อีกขั้นกับรุ่น RS ที่เปิดตัวครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทย มาพร้อมดีไซน์เอกซ์คลูซีฟรอบคัน พร้อมมอบพลังที่สมบูรณ์แบบของวันนี้เพื่อขับเคลื่อนชีวิตไปข้างหน้าในทุกเส้นทาง ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลัง ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร และประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 25.6 กม./ลิตร มาพร้อมสวิตช์ที่เลือกโหมดการขับขี่ได้ถึง 3 โหมด ภายในห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย ตอบโจทย์ทุกการใช้งานกับเบาะนั่งด้านหลังแบบอเนกประสงค์ที่ปรับพับได้หลากหลายรูปแบบอันเป็นเอกลักษณ์ของฮอนด้า ครบครันด้วยฟังก์ชันการใช้งานระดับพรีเมียม อาทิ ฝากระโปรงท้ายไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี พร้อมระบบปิดอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Hands-free Power Tailgate with Walk Away Close) อีกทั้งเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยและเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่อันล้ำสมัย อาทิ ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control: HDC) ระบบเบรกมือไฟฟ้าและระบบ Auto Brake Hold  มั่นใจในทุกเส้นทางด้วยการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง** ด้วยราคาประมาณการเริ่มต้นต่ำกว่า 990,000 บาท พร้อมเปิดให้ลูกค้าลงทะเบียนจองสิทธิ์ได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศระหว่างวันที่ 5 พฤศจิกายน 2564 ตั้งแต่เวลา 11.00 น. – วันที่ 18 พฤศจิกายน 2564 เวลา 19.00 น.** พร้อมรับฟรี ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง Utility Package โดยจะประกาศราคาและเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2564
 
นายโนริยุกิ ทาคาคุระ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ฮอนด้า เอชอาร์-วี ถือเป็นรถยนต์รุ่นสำคัญที่ได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากลูกค้าทั่วโลก เปิดตัวในประเทศไทยเมื่อปี 2557 ซึ่งถือเป็นการสร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญให้กับตลาดรถยนต์ในประเทศไทย โดยเป็นรถยนต์รุ่นแรกที่เข้ามาเปิดเซกเมนต์เอสยูวีขนาดกลาง และเติมเต็มความต้องการของลูกค้าในกลุ่มรถเอสยูวีให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น โดยตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา ฮอนด้า เอชอาร์-วี เป็นหนึ่งในผู้นำตลาดเอสยูวีที่ขับเคลื่อนการเติบโตของเซกเมนต์นี้ ด้วยยอดขายสะสมรวมกว่า 100,000 คัน”

“จากความสำเร็จดังกล่าว ประเทศไทยจึงเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนียที่จะได้เปิดตัว ฮอนด้า เอชอาร์-วี เจเนอเรชันที่ 2 ภายใต้ชื่อ ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ และยังเป็นประเทศแรกในโลกที่ได้เปิดตัวรุ่น RS ที่มาพร้อมดีไซน์สุดเอกซ์คลูซีฟ โดยนับเป็นก้าวสำคัญที่ ฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่ จะมาสร้างปรากฏการณ์ใหม่ขึ้นอีกครั้ง ด้วยการผสานทั้งระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV และเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง ในทุกรุ่นย่อย พร้อมเป็นยนตรกรรมเอสยูวีสำหรับทุกคนอย่างแท้จริง
 
   

พลังจากดีไซน์สปอร์ตพรีเมียมอันโดดเด่น สร้างตัวตนที่แตกต่าง
ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ มาพร้อมดีไซน์สปอร์ตพรีเมียมที่สะท้อนตัวตนสไตล์เอสยูวีได้อย่างชัดเจนโดดเด่นด้วยตัวถังที่ปราดเปรียวในสไตล์สปอร์ตคูเป้ ดึงดูดทุกสายตาด้วยกระจังหน้าดีไซน์ใหม่สีเดียวกับตัวรถ (รุ่น e:HEV EL) และกระจังหน้าสีดำเงา (รุ่น e:HEV E) ที่เชื่อมต่อกับไฟหน้าและไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED (รุ่น e:HEV EL และรุ่น e:HEV RS) กันชนหน้าและหลังดีไซน์ใหม่ พร้อมด้วยไฟท้ายแบบ LED Light Strip ที่เชื่อมต่อกับไฟเบรกเป็นเส้นแนวยาว อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น อีกทั้งสปอยเลอร์หลังแบบสปอร์ต เสาอากาศครีบฉลาม และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 17 นิ้ว (รุ่น e:HEV E และรุ่น e:HEV EL) สะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นยนตรกรรมไฮบริดด้วยโลโก้ H Mark ตกแต่งกรอบ
สีฟ้า และสัญลักษณ์ e:HEV ที่ด้านท้าย

ครั้งแรกในโลกกับการเปิดตัวรุ่น RS ที่ประเทศไทย ยกระดับความสปอร์ตพรีเมียมไปอีกขั้น ด้วยดีไซน์สปอร์ตเอกซ์คลูซีฟ ตกแต่งพิเศษรอบคัน โดดเด่นด้วยกระจังหน้าโครเมียมแบบสปอร์ต พร้อมสัญลักษณ์ RS สัญลักษณ์ AMP UP บนกันชนหน้าด้านล่าง กันชนหน้า-หลัง พร้อมชายกันกระแทกด้านข้างสีดำแบบสปอร์ต ตกแต่งด้วยโครเมียม ไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential ไฟท้ายแบบ LED Light Strip สี Smoke ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 18 นิ้ว เผยมุมมองใหม่ด้วยหลังคากระจกแบบพาโนรามา (Panoramic Glass Roof) พิเศษยิ่งขึ้นกับสีภายนอกสีแดงอิกไนต์ ที่มาพร้อมหลังคาสีดำสไตล์ทูโทน สะท้อนความสปอร์ตไปอีกขั้น ภายใน ห้องโดยสารมาพร้อมเบาะหนังสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดงแบบสปอร์ต แป้นเบรกและแป้นคันเร่งสไตล์สปอร์ต พวงมาลัยสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง และแผ่นกั้นห้องสัมภาระท้าย
 

ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง มอบความสะดวกสบายในทุกที่นั่งและทัศนวิสัยที่ดีในการขับขี่ ครบครันด้วยฟังก์ชันการใช้งานระดับพรีเมียม* คงอรรถประโยชน์สไตล์เอสยูวีไว้ได้อย่างดีเยี่ยม โดดเด่นด้วยระบบปรับอากาศอัตโนมัติ (Automatic Air Conditioning) ที่มาพร้อมระบบ Air Diffusion System โดยช่องปรับอากาศดีไซน์ใหม่ สามารถมอบทิศทางลมที่หมุนเวียนอย่างมีประสิทธิภาพ กระจายลมได้อย่างเหมาะสมทั่วถึงทั้งห้องโดยสาร พร้อมด้วยช่องปรับอากาศตอนหลัง (รุ่น e:HEV EL และรุ่น e:HEV RS) โดยทุกรุ่นมาพร้อมเบาะหนังดีไซน์ใหม่
สีดำ และเบาะนั่งด้านหลังแบบอเนกประสงค์แยกพับแบบ 60:40 ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ 3 รูปแบบ พร้อมห้องสัมภาระท้ายขนาดใหญ่ ได้แก่
• Utility Mode: เบาะด้านหลังทั้ง 2 ด้านปรับพับเรียบ เพิ่มพื้นที่เก็บของด้านหลัง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของฮอนด้า ที่เบาะผู้โดยสารด้านหลังสามารถพับลงแนวราบได้เรียบ ช่วยเพิ่มพื้นที่สัมภาระด้านท้าย
• Long Mode: เบาะด้านหน้าและด้านหลังปรับพับ เพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวยาว
• Tall Mode: เอกลักษณ์ความอเนกประสงค์ที่โดดเด่นของ ฮอนด้า ที่สามารถพับเบาะด้านหลังขึ้น เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวสูง ซึ่งมีเพียง ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ รุ่นเดียวในเซกเมนต์ที่สามารถพับเบาะในโหมดนี้ได้
พร้อมตอบโจทย์สมาร์ตไลฟ์สไตล์ ด้วยเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกล้ำสมัยและฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน* อาทิ ใหม่ ฝากระโปรงท้ายไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี พร้อมระบบปิดอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Hands-free Power Tailgate with Walk Away Close) ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlayและ Android Auto และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto  มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) ลำโพงสูงสุดจำนวน 8 ตำแหน่ง ไฟอ่านหนังสือด้านหลังแบบ LED เปิด-ปิดแบบสัมผัส เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ช่องเชื่อมต่อ USB จำนวน 4 ช่อง  พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียง ปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ และปุ่มควบคุมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING และ ฮอนด้า คอนเนค (Honda CONNECT) เทคโนโลยีเชื่อมต่อรถยนต์ที่ทำงานผ่านแอปพลิเคชัน บนสมาร์ตโฟน
 
พลังความท้าทายที่ไร้ขีดจำกัด ที่ขับเคลื่อนชีวิตของคุณไปข้างหน้า
อีกหนึ่งปรากฏการณ์สำคัญ ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่ผสานการทำงานอันทรงพลังร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ได้แก่ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 4 %