เมื่อ : 27 ก.พ. 2566 , 215 Views
วว. จับมือ กกพ. เชื่อมโยงงานวิจัยพัฒนา ขับเคลื่อนการจัดการพลังงาน/สิ่งแวดล้อม อย่างยั่งยืน

วันนี้ ( 24 ก.พ. 2566 ชั้น 1 กระทรวง อว.)  ศ .(วิจัย) ดร.ชุติมา  เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)  นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางด้านงานวิจัยและพัฒนา และงานบริการที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อมและการตรวจติดตามการประกอบกิจการพลังงาน เพื่อพัฒนางานวิจัย พร้อมทั้งให้คำปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อมและการตรวจติดตามกิจการการพลังงาน โดยมี  ดร.ประทีป  วงศ์บัณฑิต รองผู้ว่าการวิจัยและพัฒนาด้านพัฒนาอย่างยั่งยืน วว. นายเฉลิมชัย  จีระพันธุ์  ผู้อำนวยการศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมพลังงานสะอาดและสิ่งแวดล้อม วว.  นายกัลย์ แสงเรือง รองเลขาธิการสำนักงาน กกพ.  และนางสาวธิดารัตน์   สุวรรณชัยโฆษิต  ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงาน กกพ. ร่วมเป็นสักขีพยาน  โอกาสนี้ นายสมพร  มั่งมี  กรรมการบริหาร วว. ร่วมเป็นเกียรติด้วย

 

ความร่วมมือของทั้งสองหน่วยงานในครั้งนี้มีขอบเขตการดำเนินงานมุ่งสนับสนุนทรัพยากรด้านบุคลากร เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงานให้เกิดประสิทธิภาพและเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน  แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เพื่อบูรณาการข้อมูลที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ให้เชื่อมโยงกับด้านสิ่งแวดล้อมและการตรวจติดตามการประกอบกิจการพลังงาน   การแลกเปลี่ยนข้อมูล การให้คำแนะนำทางวิชาการ  งานบริการทดสอบวิเคราะห์ผล รวมทั้งการตรวจติดตามการประกอบกิจการพลังงาน ได้แก่ การตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อม เช่น การตรวจวัดคุณภาพอากาศ  การตรวจวัดคุณภาพน้ำ และการตรวจวัดระดับเสียงที่เกิดจากโรงไฟฟ้า เป็นต้น 

 

ศ .(วิจัย) ดร.ชุติมา   เอี่ยมโชติชวลิต   ผู้ว่าการ  วว.  กล่าวว่า  ปัจจุบันสถานการณ์ด้านทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมของไทยและทั่วโลก  เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทั้งทรัพยากรดิน ทรัพยากรน้ำ ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่ารวมถึงพลังงาน  ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนั้นได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์และสิ่งมีชีวิตเป็นอย่างมาก   ดังนั้นควรมีการจัดการทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่อย่างจำกัดให้สามารถใช้ได้ยาวนาน ด้วยกระบวนการที่มีประสิทธิภาพและเป็นระบบ โดยการวางแผน ดำเนินงาน ติดตามประเมินผล และปรับปรุงแก้ไขพัฒนาให้ดีขึ้น เพื่อประโยชน์โดยรวมให้มากที่สุด  ซึ่ง วว. มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการวิจัยและพัฒนา รวมถึงการให้บริการวิจัยด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงานมาเป็นเวลากว่า 40 ปี มีศักยภาพและความพร้อมทั้งด้านบุคลากร องค์ความรู้ เทคโนโลยี โครงสร้างพื้นฐานและผลงานเป็นที่ยอมรับในระดับประเทศและนานาชาติ  โดยมีความพร้อมในการขับเคลื่อนและการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม อย่างครบวงจร  (Total  Solution) ตามแนวทางโมเดลเศรษฐกิจ BCG 

 

“...ความร่วมมือของ วว. และ กกพ. ครั้งนี้ เป็นการประสานความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนงานวิจัยและบริการที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม การตรวจติดตาม การตรวจสอบ ทดสอบ และวิเคราะห์การปลดปล่อยมลพิษ จากการประกอบกิจการพลังงาน   อันจะส่งผลให้การดูแลการใช้พลังงานมีความสมดุล ก่อให้เกิดระบบพลังงานที่มั่นคงมีเสถียรภาพ โดยการนำผลการวิเคราะห์ ทดสอบ มาใช้ประโยชน์ร่วมกัน เพื่อขับเคลื่อนการจัดการพลังงานและสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม  มีการนำองค์ความรู้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม มาประยุกต์ใช้จริงให้เกิดประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม และส่งผลให้เกิดพัฒนาประเทศได้อย่างมั่นคง และยั่งยืนสืบไป...” ผู้ว่าการ วว. กล่าว

 

นายคมกฤช   ตันตระวาณิชย์  เลขาธิการสำนักงาน กกพ. กล่าวว่า  ภายใต้ความร่วมมือดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแผนงานของสำนักงาน กกพ. เพื่อยกระดับศักยภาพการกำกับและตรวจติดตามกิจการพลังงาน รวมถึงป้องกันผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากการพัฒนาโครงการให้มีมาตรฐานและประสิทธิภาพสูงสุด

 

โดยทาง วว. จะให้การสนับสนุนทั้งบุคลากร ที่มีความเชี่ยวชาญ พร้อมทั้งเครื่องมือ อุปกรณ์ สำหรับการตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อม เช่นมลพิษทางอากาศ มลพิษทางเสียง และมลพิษทางน้ำ รวมถึงให้ความเห็นเชิงวิชาการ ในการป้องกัน แก้ไขข้อร้องเรียน และเหตุอื่นๆ ที่เกิดจากการประกอบกิจการพลังงานภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) 

 

“กกพ. หวังว่าความร่วมมือดังกล่าว นอกจากจะเป็นการเพิ่มขีดสมรรถนะกระบวนการตรวจติดตามกิจการพลังงาน ยังจะนำไปสู่ความร่วมมือในการวิจัย พัฒนา การสนับสนุนและการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางวิชาการเพื่อพัฒนากระบวนการทำงานของทั้งสองฝ่ายได้เป็นอย่างดีในอนาคต” เลขาธิการสำนักงาน กกพ. กล่าว

 

ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ