ยูโอบีประกาศแผน 2050 NET ZERO ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านที่เป็นธรรมสำหรับภูมิภาคอาเซียน
เมื่อ : 13 พ.ย. 2565 ,
309 Views
สิงคโปร์ 7 พฤศจิกายน 2565 – ยูโอบีประกาศคำมั่นที่ท้าทายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050 หรือปีพ.ศ. 2593 ซึ่งเน้นย้ำเป้าหมายของธนาคารในการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านที่เป็นธรรมเพื่อผลักดันการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมที่อย่างยืนควบคู่ไปกับการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
คำมั่นของยูโอบีครอบคลุม 6 ภาคอุตสาหกรรม อันได้แก่ พลังงาน ยานยนต์ น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่ด้านพลังงาน รวมถึงอสังหาริมทรัพย์ อุตสาหกรรมก่อสร้าง และเหล็กกล้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่คุณค่าด้านสิ่งแวดล้อมสรรค์สร้าง โดยทั้ง 6 ภาคอุตสาหกรรมนี้คิดเป็นร้อยละ 60 ของพอร์ตโฟลิโอสินเชื่อลูกค้าธุรกิจของธนาคาร
ยูโอบีนำแบบจำลองวิทยาศาสตร์ภูมิศาสตร์ที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลกมาใช้ในการกำหนดเป้าหมายสำหรับแต่ละภาคอุตสาหกรรม เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมาย Net Zero ทั่วโลก แนวทางสู่ Net Zero นี้สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อที่แน่วแน่ของยูโอบีต่อความต้องการการเปลี่ยนผ่านที่เป็นธรรมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจและเพิ่มอัตราการเข้าถึงพลังงานแก่บรรดาประเทศที่มีความหลากหลายทั่วภูมิภาค
มร. วี อี เชียง รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารยูโอบี กล่าวว่า “ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ความมุ่งมั่นเรื่อง Net Zero ของธนาคารต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับการเปลี่ยนผ่านที่เป็นระบบระเบียบและครอบคลุมทุกภาคส่วน โดยต้องคำนึงถึงความท้าทายทางเศรษฐกิจและสังคมต่างๆ เมื่อเราปรับลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ เราก็ต้องมั่นใจว่าชีวิตและความเป็นอยู่ของผู้คนจะต้องพัฒนาในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
“การหาจุดสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจและความรับผิดชอบต่อหนทางสู่ Net Zero จึงเป็นเรื่องสำคัญ เป้าหมายของยูโอบีนั้นแม้จะดูท้าทาย แต่ปฏิบัติได้จริง อีกทั้งยังสอดคล้องกับเป้าหมาย Net Zero ทั่วโลกสำหรับภูมิภาคอาเซียนอีกด้วย”
คำมั่นของยูโอบีนี้รวมถึงเป้าหมายระหว่างทางสำหรับปี 2030 หรือปีพ.ศ. 2573 ที่สะท้อนถึงความคืบหน้าระยะใกล้ที่จำเป็นต่อหนทางสู่ Net Zero
เป้าหมายและคำมั่นเรื่อง Net Zero ของยูโอบีสำหรับทั้ง 6 ภาคอุตสาหกรรม
นอกจากนี้ ยูโอบียังคงมุ่งมั่นยุติการให้สินเชื่อแก่อุตสาหกรรมถ่านหินชนิดเชื้อเพลิงให้ความร้อนภายในปี 2582 นอกเหนือจากการยกเลิกอนุมัติสินเชื่อใหม่ๆ แก่โครงการก่อสร้างหรือขยายโรงงานผลิตไฟฟ้าถ่านหินและเหมืองถ่านหินชนิดเชื้อเพลิงให้ความร้อน
ยูโอบีมีแผนนำ Net Zero รวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ธุรกิจ เพิ่มความพยายามในการร่วมทำงานอย่างใกล้ชิดกับลูกค้าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียรายอื่นมากยิ่งขึ้นเพื่อการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน ตลอดจนจัดทำรายงานประจำปีเพื่อติดตามความคืบหน้าของคำมั่นเรื่อง Net Zero ของธนาคาร ในอนาคต หากมีข้อมูลและภาพจำลองภูมิอากาศเพิ่มขึ้น ธนาคารจะขยายขอบเขตของเป้าหมายนี้เพื่อให้ครอบคลุมภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ
เพื่อตอกย้ำคำมั่นต่อความพยายามในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนทั่วภูมิภาคและทั่วโลก ยูโอบีจึงได้เข้าร่วมเป็นภาคีสมาชิกในกลุ่ม Net-Zero Banking Alliance (NZBA)[1] ซึ่งประกอบด้วยธนาคารที่เป็นภาคีสมาชิกจำนวน 121 แห่งจาก 41 ประเทศทั่วโลก โดยมีสินทรัพย์ธนาคารรวมทั่วโลกอยู่ที่ 70 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.UOBSustainability.com.
คำมั่นของยูโอบีครอบคลุม 6 ภาคอุตสาหกรรม อันได้แก่ พลังงาน ยานยนต์ น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่ด้านพลังงาน รวมถึงอสังหาริมทรัพย์ อุตสาหกรรมก่อสร้าง และเหล็กกล้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่คุณค่าด้านสิ่งแวดล้อมสรรค์สร้าง โดยทั้ง 6 ภาคอุตสาหกรรมนี้คิดเป็นร้อยละ 60 ของพอร์ตโฟลิโอสินเชื่อลูกค้าธุรกิจของธนาคาร
ยูโอบีนำแบบจำลองวิทยาศาสตร์ภูมิศาสตร์ที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลกมาใช้ในการกำหนดเป้าหมายสำหรับแต่ละภาคอุตสาหกรรม เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมาย Net Zero ทั่วโลก แนวทางสู่ Net Zero นี้สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อที่แน่วแน่ของยูโอบีต่อความต้องการการเปลี่ยนผ่านที่เป็นธรรมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจและเพิ่มอัตราการเข้าถึงพลังงานแก่บรรดาประเทศที่มีความหลากหลายทั่วภูมิภาค
มร. วี อี เชียง รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารยูโอบี กล่าวว่า “ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ความมุ่งมั่นเรื่อง Net Zero ของธนาคารต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับการเปลี่ยนผ่านที่เป็นระบบระเบียบและครอบคลุมทุกภาคส่วน โดยต้องคำนึงถึงความท้าทายทางเศรษฐกิจและสังคมต่างๆ เมื่อเราปรับลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ เราก็ต้องมั่นใจว่าชีวิตและความเป็นอยู่ของผู้คนจะต้องพัฒนาในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
“การหาจุดสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจและความรับผิดชอบต่อหนทางสู่ Net Zero จึงเป็นเรื่องสำคัญ เป้าหมายของยูโอบีนั้นแม้จะดูท้าทาย แต่ปฏิบัติได้จริง อีกทั้งยังสอดคล้องกับเป้าหมาย Net Zero ทั่วโลกสำหรับภูมิภาคอาเซียนอีกด้วย”
คำมั่นของยูโอบีนี้รวมถึงเป้าหมายระหว่างทางสำหรับปี 2030 หรือปีพ.ศ. 2573 ที่สะท้อนถึงความคืบหน้าระยะใกล้ที่จำเป็นต่อหนทางสู่ Net Zero
เป้าหมายและคำมั่นเรื่อง Net Zero ของยูโอบีสำหรับทั้ง 6 ภาคอุตสาหกรรม
ภาคอุตสาหกรรม | เป้าหมายภายในปี 2573 | เป้าหมายภายในปี 2593 |
พลังงาน | ลดความเข้มข้นการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงร้อยละ 61 | ลดความเข้มข้นการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงร้อยละ 98 |
ยานยนต์ | ลดความเข้มข้นการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงร้อยละ 58 | ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ |
น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ | ธนาคารไม่อนุมัติสินเชื่อใหม่ให้กับโครงการอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติต้นน้ำที่ดำเนินการหลังปี 2565 | |
อสังหาริมทรัพย์ | ลดความเข้มข้นการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงร้อยละ 36 | ลดความเข้มข้นการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงร้อยละ 97 |
อุตสาหกรรมก่อสร้าง | ลดความเข้มข้นการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงร้อยละ 31 | ลดความเข้มข้นการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงร้อยละ 85 |
เหล็กกล้า | ลดความเข้มข้นการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงร้อยละ 20 | ลดความเข้มข้นการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงร้อยละ 92 |
นอกจากนี้ ยูโอบียังคงมุ่งมั่นยุติการให้สินเชื่อแก่อุตสาหกรรมถ่านหินชนิดเชื้อเพลิงให้ความร้อนภายในปี 2582 นอกเหนือจากการยกเลิกอนุมัติสินเชื่อใหม่ๆ แก่โครงการก่อสร้างหรือขยายโรงงานผลิตไฟฟ้าถ่านหินและเหมืองถ่านหินชนิดเชื้อเพลิงให้ความร้อน
ยูโอบีมีแผนนำ Net Zero รวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ธุรกิจ เพิ่มความพยายามในการร่วมทำงานอย่างใกล้ชิดกับลูกค้าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียรายอื่นมากยิ่งขึ้นเพื่อการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน ตลอดจนจัดทำรายงานประจำปีเพื่อติดตามความคืบหน้าของคำมั่นเรื่อง Net Zero ของธนาคาร ในอนาคต หากมีข้อมูลและภาพจำลองภูมิอากาศเพิ่มขึ้น ธนาคารจะขยายขอบเขตของเป้าหมายนี้เพื่อให้ครอบคลุมภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ
เพื่อตอกย้ำคำมั่นต่อความพยายามในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนทั่วภูมิภาคและทั่วโลก ยูโอบีจึงได้เข้าร่วมเป็นภาคีสมาชิกในกลุ่ม Net-Zero Banking Alliance (NZBA)[1] ซึ่งประกอบด้วยธนาคารที่เป็นภาคีสมาชิกจำนวน 121 แห่งจาก 41 ประเทศทั่วโลก โดยมีสินทรัพย์ธนาคารรวมทั่วโลกอยู่ที่ 70 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.UOBSustainability.com.
[1] NZBA เป็นโครงการที่ริเริ่มโดยสำนักงานโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติว่าด้วยข้อริเริ่มด้านการเงิน (United Nations Environmental Program Finance Initiative หรือ UNEP FI) ซึ่งเป็นกลุ่มย่อยภาคธนาคารของกลุ่ม Glasgow Financial Alliance for Net Zero หรือ GFANZ