จุงหวา เทเลคอม ผนึก NT และเดอะ ไวท์สเปซ ดันเดลต้าประเทศไทยสู่ Digital transformation สร้าง 5G Enterprise Private Network ในโรงงานเดลต้า ประเทศไทย
เมื่อ : 22 ก.ย. 2565 ,
553 Views
หลังจากที่บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) (NT) บริษัท เดอะ ไวท์สเปซ (WhiteSpace : WSP) และบริษัท จุงหวา เทเลคอม (Chunghwa Telecom) ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในโครงการ 5G Enterprise Private Network ไปเมื่อเดือนธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา บริษัท จุงหวา เทเลคอม ได้สานต่อความสำเร็จในไต้หวันเพิ่มเติม ด้วยการนำโครงการ 5G Enterprise Private Network มาติดตั้งให้กับบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) ที่โรงงานแห่งแรกใน นิคมอุตสาหกรรมบางปู
โดย จุงหวา เทเลคอม ได้ร่วมมือกับ NT และเดอะ ไวท์สเปซ เปิดใช้งานเครือข่าย 5G Enterprise Private Network ที่โรงงานแห่งแรกของ เดลต้า ประเทศไทย ในนิคมอุตสาหกรรมบางปู ทำให้เกิดการทำงานทางไกลร่วมกันด้วยเทคโนโลยี AR ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการฝึกอบรมภาคปฏิบัติ การปฏิบัติงานในโรงงาน และการใช้งานโสตทัศนูปกรณ์ต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลหลังยุคการแพร่ระบาดโควิด-19 ของ เดลต้า ประเทศไทย สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) ยังได้วางแผนนำเทคโนโลยี AGV ไปทดสอบกับโครงการ 5G Enterprise Private Network ในโรงงาน และคาดว่าในอนาคตอันใกล้ เดลต้า ประเทศไทย จะสามารถค่อย ๆ ใช้เครือข่าย 5G นี้ เป็นพื้นฐานของเครือข่ายสารสนเทศอัจฉริยะ พร้อมขยายการใช้งานไปสู่โรงงานอื่น ๆ
ในอนาคต จุงหวา เทเลคอม ยังคงมีแผนที่จะสานต่อความร่วมมือกับพันธมิตรในไทย โดยมี NT เป็นผู้ให้บริการเครือข่าย 5G บริษัท เดอะ ไวท์สเปซ เป็นผู้มอบประสบการณ์ด้านการตลาดและการดำเนินงานในพื้นที่ และ จุงหวา เทเลคอม ที่จะให้บริการ MEC Intelligent A+ รวมถึงการออกแบบและการวางแผน เพื่อให้บริการโซลูชั่นอัจฉริยะ 5G+AIoT แบบครบวงจรในเขตการปกครองท้องถิ่น อุตสาหกรรมการผลิต การท่องเที่ยว การแพทย์ และการเงินในประเทศไทย
พ.อ. สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ที่ผ่านมา NT ให้ความสำคัญกับการให้บริการในระดับโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง และมุ่งเน้นที่จะขยายบริการในระดับแพลตฟอร์มและซอฟต์แวร์ ซึ่งจะเป็นโครงการสำคัญที่จะช่วยสนับสนุนและผลักดันองค์กรภาครัฐให้เกิดการเปลี่ยนผ่านสู่รัฐบาลดิจิทัล ตามนโยบาย ไทยแลนด์ 4.0 ด้วยการใช้เครือข่าย 5G จะทำให้ IoT สามารถยกระดับเป็น AIoT ได้ ซึ่งจะช่วยเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ ได้มากยิ่งขึ้น
สำหรับโครงการ 5G Enterprise Private Network NT มุ่งเน้นที่จะตอบสนองความต้องการและให้บริการแก่กลุ่มวิสาหกิจขนาดใหญ่ เช่น ภาคอุตสาหกรรมการผลิต นอกจากนี้ ยังเน้นการให้บริการ 5G ในรูปแบบ Network Sharing เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายในการลงทุนขององค์กร และทำให้องค์กรต่าง ๆ สามารถใช้บริการ 5G คุณภาพสูงได้ โดยในปัจจุบัน NT มีศักยภาพในการให้บริการคลื่นความถี่ 5G ร่วมกับพันธมิตรในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และพื้นที่อื่น ๆ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาสู่การเป็น Smart City ต่อไป”
ดร. ชัยยศ จิรบวรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะ ไวท์สเปซ (WhiteSpace : WSP) กล่าวว่า “เดอะ ไวท์สเปซ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการสำคัญของประเทศไทยในการพัฒนา 5G Enterprise Private Network ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงข้อดีของ 5G แต่ยังเป็นการวางรากฐานสำหรับ 5G Ecosystem เราหวังว่า 5G Enterprise Private Network จะเป็นหนึ่งในทางเลือกสำหรับการทำธุรกิจ MVNO ในประเทศไทย ทั้งนี้ ต้องขอขอบคุณ NT ที่ให้โอกาสและให้ความไว้วางใจเราในความร่วมมือครั้งนี้ และขอขอบคุณ จุงหวา เทเลคอม ที่ได้นำโซลูชั่น 5G มาสู่ประเทศไทย รวมถึงให้ความเชื่อมั่น เดอะ ไวท์สเปซ ในฐานะ Local Partner ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าความร่วมมือในครั้งนี้ จะทำให้ 5G Enterprise Private Network กลายเป็นโซลูชั่นที่น่าสนใจ และมีประสิทธิภาพสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ในประเทศไทย”
จาง ช่าย ซิง ผู้จัดการทั่วไป บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “เดลต้าประเทศไทย รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ จุงหวา เทเลคอม และพันธมิตรในไทย ในการเป็นผู้บุกเบิกโรงงานอัจฉริยะ 5G ในฐานะผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ และผู้ให้บริการโซลูชั่นนวัตกรรม การเชื่อมต่อของ 5G จะช่วยสร้างโอกาสในด้าน IoT ความปลอดภัยของข้อมูล AI และ Big data มากยิ่งขึ้น และยังช่วยเร่งแผนการอุตสาหกรรม 4.0 ให้พัฒนาเร็วยิ่งขึ้น การบุกเบิกนำ 5G มาใช้ในโรงงานของ เดลต้า ประเทศไทย จะเป็นรูปแบบการเรียนรู้ชั้นยอดสำหรับผู้ผลิตอื่น ๆ ในพื้นที่ อีกทั้ง มีส่วนช่วยผลักดันนโยบายไทยแลนด์ 4.0 อีกด้วย”
กัวสุ่ยอี้ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท จุงหวา เทเลคอม กล่าวว่า “จุงหวา เทเลคอม ได้นำเทคโนโลยีต่าง ๆ อาทิ 5G, AI, Blockchain มาใช้งานจริงในหลากหลายอุตสาหกรรมในไต้หวัน ซึ่งทำให้ชีวิตสะดวกรวดเร็ว ปลอดภัย และเกิดการเปลี่ยนแปลงรูปแบบธุรกิจ นอกจากบริการด้านการแพทย์อัจฉริยะ จุงหวา เทเลคอม ยังให้บริการเทคโนโลยีอัจฉริยะอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น บริการวิเคราะห์ Big data ข้อมูลจราจร การบังคับใช้กฎหมายด้านเทคโนโลยี การปรับปรุงกำลังการผลิต และการเพิ่มประสิทธิภาพสายการผลิตในโรงงานอัจฉริยะ ซึ่งทั้งหมดนี้มากพอที่จะพิสูจน์ให้เห็นว่าเทคโนโลยี 5G+AIoT สามารถพัฒนาเป็นโซลูชั่นต่าง ๆ ที่ล้ำสมัยและแปลกใหม่ได้
จุงหวา เทเลคอม ขอขอบคุณการสนับสนุนจากรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นไต้หวัน ซึ่งช่วยให้การใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะ 5G ของจุงหวา เทเลคอมสามารถกระจายไปทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว และเราเชื่อว่า ภายใต้การสนับสนุนจากรัฐบาลไทย การใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะในไทยก็จะได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็วเช่นกัน ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงสู่ Smart City จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐอย่างยิ่งยวด ความร่วมมือระหว่างประเทศกับ NT และเดอะ ไวท์สเปซ ในครั้งนี้ ได้ทำให้ เดลต้า เป็นโรงงานอัจฉริยะที่มีการใช้เทคโนโลยี 5G+AIoT+คลาวด์ ในอนาคต จุงหวา เทเลคอม หวังที่จะมอบเทคโนโลยีใหม่ ๆ มอบความสะดวกสบายในการจัดการชีวิต เมือง หรือโรงงาน แก่ทุกอุตสาหกรรมและสายอาชีพต่าง ๆ ในไทย และหวังที่ร่วมเดินทางและสร้างอนาคตแห่งความสุขไปยังทั่วโลก ไม่เพียงเฉพาะในไต้หวันเท่านั้น”
โดย จุงหวา เทเลคอม ได้ร่วมมือกับ NT และเดอะ ไวท์สเปซ เปิดใช้งานเครือข่าย 5G Enterprise Private Network ที่โรงงานแห่งแรกของ เดลต้า ประเทศไทย ในนิคมอุตสาหกรรมบางปู ทำให้เกิดการทำงานทางไกลร่วมกันด้วยเทคโนโลยี AR ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการฝึกอบรมภาคปฏิบัติ การปฏิบัติงานในโรงงาน และการใช้งานโสตทัศนูปกรณ์ต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลหลังยุคการแพร่ระบาดโควิด-19 ของ เดลต้า ประเทศไทย สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) ยังได้วางแผนนำเทคโนโลยี AGV ไปทดสอบกับโครงการ 5G Enterprise Private Network ในโรงงาน และคาดว่าในอนาคตอันใกล้ เดลต้า ประเทศไทย จะสามารถค่อย ๆ ใช้เครือข่าย 5G นี้ เป็นพื้นฐานของเครือข่ายสารสนเทศอัจฉริยะ พร้อมขยายการใช้งานไปสู่โรงงานอื่น ๆ
ในอนาคต จุงหวา เทเลคอม ยังคงมีแผนที่จะสานต่อความร่วมมือกับพันธมิตรในไทย โดยมี NT เป็นผู้ให้บริการเครือข่าย 5G บริษัท เดอะ ไวท์สเปซ เป็นผู้มอบประสบการณ์ด้านการตลาดและการดำเนินงานในพื้นที่ และ จุงหวา เทเลคอม ที่จะให้บริการ MEC Intelligent A+ รวมถึงการออกแบบและการวางแผน เพื่อให้บริการโซลูชั่นอัจฉริยะ 5G+AIoT แบบครบวงจรในเขตการปกครองท้องถิ่น อุตสาหกรรมการผลิต การท่องเที่ยว การแพทย์ และการเงินในประเทศไทย
พ.อ. สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ที่ผ่านมา NT ให้ความสำคัญกับการให้บริการในระดับโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง และมุ่งเน้นที่จะขยายบริการในระดับแพลตฟอร์มและซอฟต์แวร์ ซึ่งจะเป็นโครงการสำคัญที่จะช่วยสนับสนุนและผลักดันองค์กรภาครัฐให้เกิดการเปลี่ยนผ่านสู่รัฐบาลดิจิทัล ตามนโยบาย ไทยแลนด์ 4.0 ด้วยการใช้เครือข่าย 5G จะทำให้ IoT สามารถยกระดับเป็น AIoT ได้ ซึ่งจะช่วยเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ ได้มากยิ่งขึ้น
สำหรับโครงการ 5G Enterprise Private Network NT มุ่งเน้นที่จะตอบสนองความต้องการและให้บริการแก่กลุ่มวิสาหกิจขนาดใหญ่ เช่น ภาคอุตสาหกรรมการผลิต นอกจากนี้ ยังเน้นการให้บริการ 5G ในรูปแบบ Network Sharing เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายในการลงทุนขององค์กร และทำให้องค์กรต่าง ๆ สามารถใช้บริการ 5G คุณภาพสูงได้ โดยในปัจจุบัน NT มีศักยภาพในการให้บริการคลื่นความถี่ 5G ร่วมกับพันธมิตรในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และพื้นที่อื่น ๆ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาสู่การเป็น Smart City ต่อไป”
ดร. ชัยยศ จิรบวรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะ ไวท์สเปซ (WhiteSpace : WSP) กล่าวว่า “เดอะ ไวท์สเปซ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการสำคัญของประเทศไทยในการพัฒนา 5G Enterprise Private Network ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงข้อดีของ 5G แต่ยังเป็นการวางรากฐานสำหรับ 5G Ecosystem เราหวังว่า 5G Enterprise Private Network จะเป็นหนึ่งในทางเลือกสำหรับการทำธุรกิจ MVNO ในประเทศไทย ทั้งนี้ ต้องขอขอบคุณ NT ที่ให้โอกาสและให้ความไว้วางใจเราในความร่วมมือครั้งนี้ และขอขอบคุณ จุงหวา เทเลคอม ที่ได้นำโซลูชั่น 5G มาสู่ประเทศไทย รวมถึงให้ความเชื่อมั่น เดอะ ไวท์สเปซ ในฐานะ Local Partner ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าความร่วมมือในครั้งนี้ จะทำให้ 5G Enterprise Private Network กลายเป็นโซลูชั่นที่น่าสนใจ และมีประสิทธิภาพสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ในประเทศไทย”
จาง ช่าย ซิง ผู้จัดการทั่วไป บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “เดลต้าประเทศไทย รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ จุงหวา เทเลคอม และพันธมิตรในไทย ในการเป็นผู้บุกเบิกโรงงานอัจฉริยะ 5G ในฐานะผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ และผู้ให้บริการโซลูชั่นนวัตกรรม การเชื่อมต่อของ 5G จะช่วยสร้างโอกาสในด้าน IoT ความปลอดภัยของข้อมูล AI และ Big data มากยิ่งขึ้น และยังช่วยเร่งแผนการอุตสาหกรรม 4.0 ให้พัฒนาเร็วยิ่งขึ้น การบุกเบิกนำ 5G มาใช้ในโรงงานของ เดลต้า ประเทศไทย จะเป็นรูปแบบการเรียนรู้ชั้นยอดสำหรับผู้ผลิตอื่น ๆ ในพื้นที่ อีกทั้ง มีส่วนช่วยผลักดันนโยบายไทยแลนด์ 4.0 อีกด้วย”
กัวสุ่ยอี้ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท จุงหวา เทเลคอม กล่าวว่า “จุงหวา เทเลคอม ได้นำเทคโนโลยีต่าง ๆ อาทิ 5G, AI, Blockchain มาใช้งานจริงในหลากหลายอุตสาหกรรมในไต้หวัน ซึ่งทำให้ชีวิตสะดวกรวดเร็ว ปลอดภัย และเกิดการเปลี่ยนแปลงรูปแบบธุรกิจ นอกจากบริการด้านการแพทย์อัจฉริยะ จุงหวา เทเลคอม ยังให้บริการเทคโนโลยีอัจฉริยะอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น บริการวิเคราะห์ Big data ข้อมูลจราจร การบังคับใช้กฎหมายด้านเทคโนโลยี การปรับปรุงกำลังการผลิต และการเพิ่มประสิทธิภาพสายการผลิตในโรงงานอัจฉริยะ ซึ่งทั้งหมดนี้มากพอที่จะพิสูจน์ให้เห็นว่าเทคโนโลยี 5G+AIoT สามารถพัฒนาเป็นโซลูชั่นต่าง ๆ ที่ล้ำสมัยและแปลกใหม่ได้
จุงหวา เทเลคอม ขอขอบคุณการสนับสนุนจากรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นไต้หวัน ซึ่งช่วยให้การใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะ 5G ของจุงหวา เทเลคอมสามารถกระจายไปทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว และเราเชื่อว่า ภายใต้การสนับสนุนจากรัฐบาลไทย การใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะในไทยก็จะได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็วเช่นกัน ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงสู่ Smart City จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐอย่างยิ่งยวด ความร่วมมือระหว่างประเทศกับ NT และเดอะ ไวท์สเปซ ในครั้งนี้ ได้ทำให้ เดลต้า เป็นโรงงานอัจฉริยะที่มีการใช้เทคโนโลยี 5G+AIoT+คลาวด์ ในอนาคต จุงหวา เทเลคอม หวังที่จะมอบเทคโนโลยีใหม่ ๆ มอบความสะดวกสบายในการจัดการชีวิต เมือง หรือโรงงาน แก่ทุกอุตสาหกรรมและสายอาชีพต่าง ๆ ในไทย และหวังที่ร่วมเดินทางและสร้างอนาคตแห่งความสุขไปยังทั่วโลก ไม่เพียงเฉพาะในไต้หวันเท่านั้น”