เมื่อ : 11 ก.ย. 2565 , 319 Views
55 ปี เบทาโกร ก้าวสำคัญสู่ “บริษัทอาหารชั้นนำระดับสากล เพื่อชีวิตที่ยั่งยืน”
กรุงเทพฯ – 9 กันยายน 2565 – ครบรอบ 55 ปี เบทาโกรประกาศจุดยืนมุ่งสู่ World-class Integrated Food Company for Sustainable Life เดินหน้าการดำเนินธุรกิจภายใต้กรอบ ESG เร่งปรับกระบวนทัพยกระดับประสิทธิภาพรอบด้านสู่มาตรฐานสากล ชูจุดแข็งของผลิตภัณฑ์แบรนด์พรีเมี่ยมคุณภาพที่เหนือกว่า มุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมอาหารเพื่ออนาคต เพิ่มศักยภาพในการตอบโจทย์ความต้องการครอบคลุมลูกค้าทุกกลุ่ม บริหารจัดการช่องทางการจัดจำหน่ายที่สามารถเข้าถึงได้หลากหลายและการจัดการที่เปี่ยมประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังสร้างความแข็งแกร่งด้วยการเป็นองค์กรธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยระบบข้อมูล พร้อมทั้งมุ่งสร้างการเติบโตและแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ เบทาโกรยังให้ความสำคัญกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล ตามแนวทางโมเดลเศรษฐกิจใหม่ BCG Economy คู่ขนานกับการพัฒนาสู่เป้าหมายด้านความยั่งยืนของสหประชาชาติ (UNSDGs) เพื่อส่งเสริมการมีชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนของทุกคน

 
 
นายวสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภายใต้ความเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจในช่วงที่ผ่านมา เบทาโกรในฐานะผู้นำธุรกิจอาหารครบวงจรและเป็นหนึ่งในผู้ผลิตอาหารชั้นนำระดับสากลของประเทศไทย ได้ปรับแนวทางการดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง โดยยึดมั่นในแนวคิดขององค์กรที่ต้องการช่วยให้ผู้คนและชุมชนมีชีวิตที่ยั่งยืน ด้วยอาหารที่มีคุณภาพมากกว่า มีความปลอดภัยมากขึ้น ในราคาที่เป็นธรรม สำหรับการครบรอบ 55 ปี เบทาโกรได้ขับเคลื่อนองค์กรด้วยระบบการจัดการข้อมูล โดยนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาสนับสนุนการเพิ่มขีดความสามารถในทุกๆ ด้าน เพื่อสร้างจุดแข็งในการแข่งขัน ในกรอบการทำงาน ESG (Environment-Social-Governance) ซึ่งคำนึงถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล บริษัทฯ พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจบนความท้าทาย และยกระดับอุตสาหกรรมอาหารของไทยให้เกิดความมั่นคงทางอาหารและมีบทบาทสำคัญในการร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโต สำหรับเป้าหมายหลัก เบทาโกรมุ่งสู่การเป็นผู้นำธุรกิจอาหารครบวงจรระดับสากล เพื่อชีวิตที่ยั่งยืน  (World-class Integrated Food Company for Sustainable Life​) โดยครอบคลุมการดำเนินธุรกิจและการมีแบรนด์สินค้าที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าและผู้บริโภคตั้งแต่
ต้นน้ำถึงปลายน้ำ

 
    
 
กว่า 55 ปีของการพัฒนาที่ไม่หยุดนิ่ง เบทาโกรประสบความสำเร็จและได้รับการยอมรับในตลาดโลกมาอย่างต่อเนื่อง การก้าวสู่การเป็น World-class Integrated Food Company for Sustainable Life เป็นอีกหนึ่งความท้าทายของเบทาโกร ด้วยความเป็นมืออาชีพและมากด้วยประสบการณ์ของทีมผู้บริหาร ในอุตสาหกรรมอาหารที่มีมาอย่างยาวนาน เบทาโกร
ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจในกรอบแนวทาง ESG ซึ่งคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคมและบรรษัทภิบาล การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เน้นเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยในระดับสูง ตามมาตรฐานสากล ระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ (Biosecurity) ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำในประเทศต่างๆ เพื่อส่งมอบแบรนด์ผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลาย สามารถตอบโจทย์ความต้องการของทุกกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างตรงใจ ในช่องทางที่เข้าถึงง่ายในทุกแพลทฟอร์ม ทั้งช่องทางของเบทาโกรเองและเครือข่ายพันธมิตร โดยครอบคลุมการจัดจำหน่ายโดยตรงกับผู้ประกอบการรายใหญ่ ตัวแทนจำหน่าย ธุรกิจค้าปลีกและแบบดั้งเดิม รวมถึงร้านอาหารและธุรกิจส่งออกไปกว่า 20 ประเทศทั่วโลก
 
“เรายังคงมุ่งสร้างการเติบโตในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง รวมถึงแสวงหาโอกาสเติบโตในธุรกิจใหม่ๆ ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ทางธุรกิจของเบทาโกร เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคทั้งในปัจจุบันและอนาคต ตอบสนองต่อความท้าทายต่างๆ ในปัจจุบันและรองรับการเติบโตในอนาคต เราเน้นการพัฒนาและการลงทุนด้าน Food-Tech,
Agri-Tech และ Restaurant-Tech เพื่อการเติบโตอย่างก้าวกระโดด เช่น ธุรกิจโปรตีนทางเลือกจากพืช ภายใต้แบรนด์ Meatly! และบริการขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิในชื่อ Kerry Cool ซึ่งตอบโจทย์และได้รับการตอบรับจากตลาดเป็นอย่างดี” นายวสิษฐ กล่าว

 
    
 
นอกจากนี้ เบทาโกรยังได้วางกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อเพิ่มศักยภาพการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มสูง และขยายกำลังการผลิตตลอดห่วงโซ่อาหาร โดยมีแผน การลงทุนเพิ่มในประเทศเมียนมา เพิ่มกำลังการผลิตในประเทศกัมพูชาและลาว รวมถึงเพิ่มจุดหมายปลายทางการส่งออก ตลอดจนขยายช่องทางการจัดจำหน่ายในตลาดต่างประเทศที่สำคัญ เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง เป็นต้น

 
    
 
“ขณะที่มีการปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจ เพื่อยกระดับ Ecosystem ตลอดห่วงโซ่คุณค่าของเบทาโกรให้เติบโตไปพร้อมกันเราไม่ลืมที่จะร่วมสร้างคุณค่ากับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในทุกภาคส่วน ด้วยการให้ความสำคัญกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยโฟกัสไปที่ 4 เป้าหมายซึ่งสอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจของเราโดยตรง ได้แก่ การมุ่งขจัดความอดอยาก สร้างความมั่นคงทางอาหาร ส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของทุกคน เดินหน้าการผลิตที่ได้มาตรฐานระดับโลก ด้วยการสร้างรูปแบบการผลิตและการบริโภคอย่างยั่งยืน และแสวงหาความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ร่วมด้วยการดำเนินธุรกิจในกรอบการทำงาน ESG ตลอดจนการปรับสู่แนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ไปพร้อมกับประเทศไทยและนานาชาติ ปัจจัยเหล่านี้ล้วนมีส่วนสำคัญที่จะนำพาเบทาโกรก้าวไปสู่การเป็นบริษัทอาหารชั้นนำระดับสากล เพื่อชีวิตที่ยั่งยืนสำหรับทุกคน” นายวสิษฐ กล่าว