บำรุงราษฎร์ มุ่งยกระดับ Center of Excellence ชูเทคโนโลยีใหม่ในการรักษาโรคต่อมลูกหมากโตด้วยไอน้ำ รวดเร็ว แม่นยำ ไม่ต้องผ่าตัด
เมื่อ : 01 ก.ย. 2564 ,
477 Views
จากสถิติในประเทศไทย พบว่าเพศชายที่อายุ 40 ปีขึ้นไป มีโอกาสเกิดโรคต่อมลูกหมากโตถึง 1 ใน 4 หรือร้อยละ 25 และพบได้ถึงร้อยละ 50 ในชายวัย 60 ปีขึ้นไป และยิ่งพบสูงขึ้นเป็นร้อยละ 90 ในชายที่อายุยืนยาวถึง 80 ปีขึ้นไป โดยอุบัติการณ์ของโรคจะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามอายุที่เพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่จะเริ่มแสดงอาการเมื่ออายุ 50 ปีขึ้นไป และเป็นภาวะที่สามารถรักษาได้ โดยโรคต่อมลูกหมากโตมักจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันทำให้ผู้ป่วยเกิดปัญหาในการปัสสาวะ เช่น ปัสสาวะบ่อย กลั้นปัสสาวะไม่ค่อยอยู่ ปัสสาวะสะดุด ในบางรายที่มีอาการรุนแรงมาก อาจจะทำให้ปัสสาวะไม่ออกได้ อาการเหล่านี้ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยอย่างมาก
นพ. วิโรจน์ ชดช้อย (นั่งซ้าย) และทีมแพทย์ศูนย์ทางเดินปัสสาวะ Bumrungrad
ทีมแพทย์ศูนย์ทางเดินปัสสาวะ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ นำโดย นพ. วิโรจน์ ชดช้อย หัวหน้าศูนย์ทางเดินปัสสาวะ และแพทย์ผู้ชำนาญการด้านศัลยศาสตร์ยูโรวิทยา โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กล่าวว่า “ปัจจุบัน ศูนย์ทางเดินปัสสาวะ ซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ (Center of Excellence) ของบำรุงราษฎร์ ที่ให้การดูแลรักษาโรคเฉพาะทางได้อย่างครอบคลุม ได้นำเทคโนโลยีทางเลือกใหม่ในการรักษาโรคต่อมลูกหมากโตด้วยไอน้ำ ซึ่งเป็นวิธีการรักษาผู้ป่วยที่มีอาการปัสสาวะลำบาก ซึ่งเกิดจากโรคต่อมลูกหมากโต (benign prostatic hyperplasia: BPH) โดยแพทย์จะใช้เครื่องมือสอดผ่านท่อปัสสาวะ เข้าไปยังต่อมลูกหมาก หลังจากนั้นแพทย์จะฉีดไอน้ำที่มีอุณหภูมิ 103 องศาเซลเซียสเข้าไปในต่อมลูกหมากประมาณ 4-6 ครั้ง ขึ้นอยู่กับขนาดของต่อมลูกหมาก การฉีดแต่ละครั้งใช้เวลาเพียง 9 วินาที ไอน้ำจะกระจายเข้าไประหว่างเซลล์ของต่อมลูกหมาก ทำให้เซลล์ที่อุดตันท่อทางเดินปัสสาวะตายไป (Apoptosis) และร่างกายจะกำจัดเซลล์ที่ตายออกไปตามธรรมชาติ และในที่สุดต่อมลูกหมากจะหดตัวมีขนาดเล็กลงและท่อปัสสาวะจะกว้างขึ้น ทำให้ปัสสาวะได้เป็นปกติ ซึ่งวิธีนี้ ผู้ป่วยจะมีอาการดีขึ้นภายใน 2 สัปดาห์ และส่วนใหญ่หายเป็นปกติภายใน 6 สัปดาห์ ภายหลังการรักษา”
นพ. วิโรจน์ ชดช้อย กล่าวเพิ่มเติมว่า “การรักษาต่อมลูกหมากโตที่นิยมกันทั่วไป คือ การใช้ยาและการผ่าตัด แต่ปัจจุบันความก้าวหน้าทางการแพทย์ทำให้ผู้ป่วยที่ไม่ต้องการผ่าตัดและไม่ต้องการกินยาเพราะกลัวผลข้างเคียง มีทางเลือกมากขึ้น โดยเทคโนโลยีการรักษาต่อมลูกหมากโตด้วยไอน้ำ ได้มีผลงานวิจัยรองรับว่ามีประสิทธิภาพ ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ปี 2558 และได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของประเทศไทย ข้อดีที่สำคัญ คือ เป็นการรักษาที่ไม่มีบาดแผลภายนอก (minimally invasive treatment) และมีความปลอดภัยกว่าวิธีการรักษาอื่นๆ ที่มีการรุกล้ำอวัยวะมากกว่า เพราะใช้เพียงไอน้ำในการรักษาและใช้เวลาในกระบวนการรักษาประมาณ 10-15 นาที มีผลข้างเคียงต่อสมรรถภาพทางเพศน้อยมากหรือไม่มีผล มีการใช้ยาระงับความรู้สึกน้อย สามารถรักษาแบบผู้ป่วยนอกได้ โดยที่ไม่ต้องนอนค้างคืนที่โรงพยาบาล รวมถึงสามารถบรรเทาอาการของโรคได้อย่างมีนัยสำคัญและยาวนาน ทำให้อัตราการไหลของปัสสาวะดีขึ้นตลอดระยะเวลา 5 ปี และติดตามผลทุก 2-5 ปี”
ทั้งนี้ ศัลยแพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะจะเป็นผู้พิจารณาสภาวะโรคของผู้ป่วย ได้แก่ อาการ ลักษณะการไหลของปัสสาวะ ขนาดและรูปร่างของต่อมลูกหมาก ว่าเหมาะสมกับการรักษาด้วยวิธีนี้หรือไม่ โดยศูนย์ทางเดินปัสสาวะ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ประกอบด้วยแพทย์เฉพาะทางผู้ชำนาญการด้านทางเดินปัสสาวะ และปัญหาเกี่ยวกับอวัยวะเพศทั้งชายและหญิง มีการวิเคราะห์ที่ถูกต้องแม่นยำ ทันท่วงที พร้อมด้วยเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพ และทีมสหสาขาวิชาชีพที่มีความชำนาญและใส่ใจในการรักษา โดยเน้นวิธีการรักษาที่ทำให้ผู้ป่วยเจ็บปวดน้อย และหากต้องทำการผ่าตัดก็จะเป็นเพียงการผ่าตัดเล็กๆ แต่ให้ผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูง
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ทางเดินปัสสาวะ โรงพยาบาลราษฎร์ ชั้น 16 อาคาร A (คลินิก) หรือโทร. 02-066 8888, 061-409 3943 (Hotline) หรือโทร. 1378
นพ. วิโรจน์ ชดช้อย (นั่งซ้าย) และทีมแพทย์ศูนย์ทางเดินปัสสาวะ Bumrungrad
นพ. วิโรจน์ ชดช้อย กล่าวเพิ่มเติมว่า “การรักษาต่อมลูกหมากโตที่นิยมกันทั่วไป คือ การใช้ยาและการผ่าตัด แต่ปัจจุบันความก้าวหน้าทางการแพทย์ทำให้ผู้ป่วยที่ไม่ต้องการผ่าตัดและไม่ต้องการกินยาเพราะกลัวผลข้างเคียง มีทางเลือกมากขึ้น โดยเทคโนโลยีการรักษาต่อมลูกหมากโตด้วยไอน้ำ ได้มีผลงานวิจัยรองรับว่ามีประสิทธิภาพ ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ปี 2558 และได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของประเทศไทย ข้อดีที่สำคัญ คือ เป็นการรักษาที่ไม่มีบาดแผลภายนอก (minimally invasive treatment) และมีความปลอดภัยกว่าวิธีการรักษาอื่นๆ ที่มีการรุกล้ำอวัยวะมากกว่า เพราะใช้เพียงไอน้ำในการรักษาและใช้เวลาในกระบวนการรักษาประมาณ 10-15 นาที มีผลข้างเคียงต่อสมรรถภาพทางเพศน้อยมากหรือไม่มีผล มีการใช้ยาระงับความรู้สึกน้อย สามารถรักษาแบบผู้ป่วยนอกได้ โดยที่ไม่ต้องนอนค้างคืนที่โรงพยาบาล รวมถึงสามารถบรรเทาอาการของโรคได้อย่างมีนัยสำคัญและยาวนาน ทำให้อัตราการไหลของปัสสาวะดีขึ้นตลอดระยะเวลา 5 ปี และติดตามผลทุก 2-5 ปี”
.
ทั้งนี้ ศัลยแพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะจะเป็นผู้พิจารณาสภาวะโรคของผู้ป่วย ได้แก่ อาการ ลักษณะการไหลของปัสสาวะ ขนาดและรูปร่างของต่อมลูกหมาก ว่าเหมาะสมกับการรักษาด้วยวิธีนี้หรือไม่ โดยศูนย์ทางเดินปัสสาวะ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ประกอบด้วยแพทย์เฉพาะทางผู้ชำนาญการด้านทางเดินปัสสาวะ และปัญหาเกี่ยวกับอวัยวะเพศทั้งชายและหญิง มีการวิเคราะห์ที่ถูกต้องแม่นยำ ทันท่วงที พร้อมด้วยเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพ และทีมสหสาขาวิชาชีพที่มีความชำนาญและใส่ใจในการรักษา โดยเน้นวิธีการรักษาที่ทำให้ผู้ป่วยเจ็บปวดน้อย และหากต้องทำการผ่าตัดก็จะเป็นเพียงการผ่าตัดเล็กๆ แต่ให้ผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูง
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ทางเดินปัสสาวะ โรงพยาบาลราษฎร์ ชั้น 16 อาคาร A (คลินิก) หรือโทร. 02-066 8888, 061-409 3943 (Hotline) หรือโทร. 1378