ดร.โฆสิต แถลงโค้งสุดท้าย อาสาทำให้คนกรุงพักหนี้มีงาน เร่งสร้างตลาดชุมชนให้คนทำมาหากิน ตอกย้ำกรุงเทพฯ … ต้อง 24 ชั่วโมง
เมื่อ : 14 พ.ค. 2565 ,
836 Views
ดร.โฆสิต สุวินิจจิต ผู้สมัครผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร หมายเลข 24 จัดสัมมนาพบปะ สื่อมวลชนโซเซียล ขึ้นที่ โรงแรม ทาวน์อินทาวน์ เมื่อวันที่ 14 พค.2565 เวลา 14:00 น. เปิดนโยบาย 7 เรื่องหลัก สร้างความมั่นคงให้คนในชุมชน ทั้ง 50 สำนักงานเขต ได้พักหนี้มีงาน เสริมสร้างตลาดชุมชนให้คนทำมาหากินได้ 24 ชั่วโมง
ดร.โฆสิต สุวินิจจิต ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ในนามอิสระ หมายเลขที่ 24 เปิดเผยว่าที่ผ่านมา ตนพร้อมคณะอาสาสมัครกลุ่มกรุงเทพฯ 24 ชั่วโมง ได้ร่วมกันแสดงตน และชี้แจงนโยบายต่อชาวบ้าน ซึ่งเป็นชาวชุมชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร กว่า 1,000 คน จาก 50 สำนักงานเขต ที่ให้ความสนใจเดินทางมาร่วมกิจกรรมเปิดตัวผู้สมัครผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร หมายเลข 24 มีการชูนโยบายเร่งด่วน 100 วันทำทันที เพื่อบรรทุกข์ของคนกรุงเทพฯ ให้เห็นผลอย่างรวดเร็ว หลังต่างก็บอบช้ำจากผลกระทบของโรคโควิด-19 จนเกิดภาระหนี้สิน ปัญหาสุขภาพ รวมถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมาอย่างยาวนานแล้ว
ดร.โฆสิต กล่าวด้วยว่า นโยบายหลัก “กรุงเทพ มหานครแห่งความสุข 24 ชั่วโมง” ที่เปิดตัวไปแต่ต้นนั้น ตนต้องการพลิกฟื้นความสุขให้ชาว กทม.กินดี อยู่ดี มีความสุข ด้วยการบริหารและบริการจาก กทม. 24 ชั่วโมง โดยจัดนโยบายแบบวงจรความสุขเอาไว้ทั้งหมด 7 เรื่องหลัก คือ 1.ทำมาหากินได้ 24 ชั่วโมง 2.เดินทางสะดวก 24 ชั่วโมง 3.ความปลอดภัย 24 ชั่วโมง 4.สุขภาพดี 24 ชั่วโมง 5.การเรียนรู้ 24 ชั่วโมง 6.การบริหารและบริการ กทม.24 ชั่วโมง และ 7.เมืองคุณธรรม 24 ชั่วโมง ซึ่งสามารถติดตามรายละเอียดแบบเจาะลึกได้ที่เพจเฟสบุ๊ค “โฆสิต 24 ชั่วโมง” และแพลตฟอร์มช่องทางออนไลน์อื่นๆ ที่ตนเน้นใช้เพื่อการประชาสัมพันธ์ ไม่เน้นวิธีระดมป้ายโฆษณาไปติดตั้งให้กระทบทัศนียภาพตามท้องถนน
ดร.โฆสิต กล่าวอีกว่า ตนเคยถามชาวบ้านว่า เมื่อเห็นคนกรุงเทพฯ เดินมา 10 คน ในจำนวนนั้นมีคนจนอยู่กี่คน? เชื่อหรือไม่หลายท่านตอบกลับมาแบบติดตลกว่า “จนไปแล้ว 11 คน มีอีก 1 คนอยู่ในครรภ์มารดา” นั่นเท่ากับว่า เวลานี้ไม่มีปัญหาใดที่ควรเร่งแก้ไขไปมากกว่าเรื่องปากท้อง ดังนั้นหากตนมีโอกาสเข้ามารับใช้ชาวกรุงเทพฯ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ใช้ชีวิตอยู่ในชุมชน ตนจะเร่งทำให้ได้พักหนี้ ให้คนจนได้มีงานทำ ทำงานได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง จะเร่งสร้างตลาดชุมชนให้คนมีที่ทำมาหากิน เร่งทำให้ระบบการสอนภาษาในโรงเรียนสังกัด กทม.ต้องสอนฟรีอย่างน้อย 3 ภาษา ไม่ใช่จำกัดอยู่แค่เฉพาะในโรงเรียนของลูกคนมีเงิน เพราะตนมั่นใจภาษาทำให้เงินในกระเป๋าเพิ่ม และภาษาจะเป็นกุญแจไปสู่องค์ความรู้ทั้งหมด
ท้ายที่สุด ดร.โฆสิต ย้ำว่า นอกจากนี้จะขอทำให้คนสามารถหากินได้ตลอด 24 ชั่วโมง สำนักงานเขตและสวนสาธารณะ ก็ต้องเปิดบริการได้ 24 ชั่วโมง โรงพยาบาลสังกัดกรุงเทพฯ ต้องเป็น SMART HOSPITAL เปิดตลอด 24 ชั่วโมงด้วยเพราะคนเลือกเวลาเจ็บป่วยไม่ได้ เรื่องระบบความปลอดภัยก็สำคัญ ต้องพัฒนาระบบ S.O.S.พร้อมวงจรปิดให้ครอบคลุม ทำ BKK GUARD ให้คนกรุงเทพปลอดภัย ยามชาวบ้านมีปัญหาให้แก้ไขต้องได้รับคำตอบจากผู้ว่าฯ และทีมงานภายใน 24 ชั่วโมง เพราะเราจะต้องทำงานกันแบบไม่หยุด ไม่พัก ไม่ปฏิเสธ หรือ Never Stop. Never Sleep. Never Say No.กันตลอด 24 ชั่วโมง
ดร.โฆสิต สุวินิจจิต ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ในนามอิสระ หมายเลขที่ 24 เปิดเผยว่าที่ผ่านมา ตนพร้อมคณะอาสาสมัครกลุ่มกรุงเทพฯ 24 ชั่วโมง ได้ร่วมกันแสดงตน และชี้แจงนโยบายต่อชาวบ้าน ซึ่งเป็นชาวชุมชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร กว่า 1,000 คน จาก 50 สำนักงานเขต ที่ให้ความสนใจเดินทางมาร่วมกิจกรรมเปิดตัวผู้สมัครผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร หมายเลข 24 มีการชูนโยบายเร่งด่วน 100 วันทำทันที เพื่อบรรทุกข์ของคนกรุงเทพฯ ให้เห็นผลอย่างรวดเร็ว หลังต่างก็บอบช้ำจากผลกระทบของโรคโควิด-19 จนเกิดภาระหนี้สิน ปัญหาสุขภาพ รวมถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมาอย่างยาวนานแล้ว
ดร.โฆสิต กล่าวด้วยว่า นโยบายหลัก “กรุงเทพ มหานครแห่งความสุข 24 ชั่วโมง” ที่เปิดตัวไปแต่ต้นนั้น ตนต้องการพลิกฟื้นความสุขให้ชาว กทม.กินดี อยู่ดี มีความสุข ด้วยการบริหารและบริการจาก กทม. 24 ชั่วโมง โดยจัดนโยบายแบบวงจรความสุขเอาไว้ทั้งหมด 7 เรื่องหลัก คือ 1.ทำมาหากินได้ 24 ชั่วโมง 2.เดินทางสะดวก 24 ชั่วโมง 3.ความปลอดภัย 24 ชั่วโมง 4.สุขภาพดี 24 ชั่วโมง 5.การเรียนรู้ 24 ชั่วโมง 6.การบริหารและบริการ กทม.24 ชั่วโมง และ 7.เมืองคุณธรรม 24 ชั่วโมง ซึ่งสามารถติดตามรายละเอียดแบบเจาะลึกได้ที่เพจเฟสบุ๊ค “โฆสิต 24 ชั่วโมง” และแพลตฟอร์มช่องทางออนไลน์อื่นๆ ที่ตนเน้นใช้เพื่อการประชาสัมพันธ์ ไม่เน้นวิธีระดมป้ายโฆษณาไปติดตั้งให้กระทบทัศนียภาพตามท้องถนน
ดร.โฆสิต กล่าวอีกว่า ตนเคยถามชาวบ้านว่า เมื่อเห็นคนกรุงเทพฯ เดินมา 10 คน ในจำนวนนั้นมีคนจนอยู่กี่คน? เชื่อหรือไม่หลายท่านตอบกลับมาแบบติดตลกว่า “จนไปแล้ว 11 คน มีอีก 1 คนอยู่ในครรภ์มารดา” นั่นเท่ากับว่า เวลานี้ไม่มีปัญหาใดที่ควรเร่งแก้ไขไปมากกว่าเรื่องปากท้อง ดังนั้นหากตนมีโอกาสเข้ามารับใช้ชาวกรุงเทพฯ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ใช้ชีวิตอยู่ในชุมชน ตนจะเร่งทำให้ได้พักหนี้ ให้คนจนได้มีงานทำ ทำงานได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง จะเร่งสร้างตลาดชุมชนให้คนมีที่ทำมาหากิน เร่งทำให้ระบบการสอนภาษาในโรงเรียนสังกัด กทม.ต้องสอนฟรีอย่างน้อย 3 ภาษา ไม่ใช่จำกัดอยู่แค่เฉพาะในโรงเรียนของลูกคนมีเงิน เพราะตนมั่นใจภาษาทำให้เงินในกระเป๋าเพิ่ม และภาษาจะเป็นกุญแจไปสู่องค์ความรู้ทั้งหมด
ท้ายที่สุด ดร.โฆสิต ย้ำว่า นอกจากนี้จะขอทำให้คนสามารถหากินได้ตลอด 24 ชั่วโมง สำนักงานเขตและสวนสาธารณะ ก็ต้องเปิดบริการได้ 24 ชั่วโมง โรงพยาบาลสังกัดกรุงเทพฯ ต้องเป็น SMART HOSPITAL เปิดตลอด 24 ชั่วโมงด้วยเพราะคนเลือกเวลาเจ็บป่วยไม่ได้ เรื่องระบบความปลอดภัยก็สำคัญ ต้องพัฒนาระบบ S.O.S.พร้อมวงจรปิดให้ครอบคลุม ทำ BKK GUARD ให้คนกรุงเทพปลอดภัย ยามชาวบ้านมีปัญหาให้แก้ไขต้องได้รับคำตอบจากผู้ว่าฯ และทีมงานภายใน 24 ชั่วโมง เพราะเราจะต้องทำงานกันแบบไม่หยุด ไม่พัก ไม่ปฏิเสธ หรือ Never Stop. Never Sleep. Never Say No.กันตลอด 24 ชั่วโมง