เมื่อ : 28 เม.ย. 2565 , 427 Views
บัซซี่บีส์แนะระบบจัดการร้านค้า (POS) พร้อม 5 ฟีเจอร์สุดปัง ช่วยเพิ่มยอดขายธุรกิจร้านอาหาร

สำหรับคนที่จะเปิดร้านอาหารสักร้าน ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็ก กลาง หรือใหญ่ นอกจากเรื่องของรสชาติความอร่อย บรรยากาศดี และบริการที่น่าประทับใจ สิ่งที่ควรจะคำนึงถึงไม่แพ้กัน คือการมีโปรแกรม POS หรือที่เรียกกันว่า เครื่อง POS, ระบบ POS, โปรแกรมร้านอาหาร โดยฟังก์ชันทั่วไปของเครื่องนี้ นอกจากใช้คีย์ออเดอร์ และคิดเงินแล้ว ยังช่วยจัดการงานร้านได้ด้วยทั้งการแสดงสถานะโต๊ะว่าง ออเดอร์ จัดแปลนและโซนภายในร้าน และจัดการเรื่องการจอง หรือย้ายโต๊ะได้อย่างง่ายดาย   
 



นางสาวณัฐธิดา สงวนสิน ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ บริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด
 

แต่ในความเป็นจริง ระบบ POS สามารถใช้งานให้เกิดประโยชน์ได้มากกว่านั้น หากร้านค้าพิจารณาเลือกดีๆ โดยขอยกตัวอย่างฟังก์ชันการทำงานของเครื่อง BUZZEBEES POS หรือเรียกสั้นๆ ว่า B-POS ซึ่งนางสาวณัฐธิดา สงวนสิน ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ บริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด เล่าให้ฟังว่าบริษัทฯ ได้ออกแบบพัฒนาโซลูชั่น B-POS ขึ้นมาจาก pain point ของเจ้าของกิจการ ซึ่งฟังก์ชันที่เชื่อมต่อกับระบบ CRM (Customer Relationship Management) และมีความหลากหลายจะช่วยเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจได้ทุกขนาดทั้งเล็ก กลาง และใหญ่ได้ ซึ่งเหมาะจะใช้เป็นเครื่องมือในยุคโควิด-19   
 

   

ฟังก์ชันของ B-POS เหมาะกับร้านอาหารและร้านค้าปลีกทั่วไป


5 ฟีเจอร์ปังๆ และความคุ้มค่าของเครื่อง B-POS

1. เชื่อมต่อกับระบบ CRM ช่วยสร้างระบบสมาชิก สะสมคะแนน แลกของรางวัล โดยทั่วไป ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านขนม ส่วนใหญ่จะทำ CRM (Customer Relationship Management) อยู่แล้ว เช่น ระบบสะสมแต้ม ฉะนั้นการเลือก POS ที่เชื่อมต่อกับระบบ CRM ก็จะเอื้อประโยชน์กับธุรกิจมากกว่าใช้ POS แบบธรรมดาทั่วไป เพราะร้านค้าจะสามารถจัดการทุกอย่างได้ในที่เดียว เพื่อความสะดวกเวลาลูกค้ามาซื้อของ ร้านค้าจะเห็นข้อมูลและสามารถจัดการกับข้อมูล (Data) ได้สอดคล้องกับพฤติกรรมการใช้บริการของลูกค้าที่มีหลากหลายกลุ่ม ระบบที่ดีจะทำให้เจ้าของร้านหรือนักการตลาดสามารถวิเคราะห์พฤติกรรมการบริโภคของลูกค้าได้อย่างแม่นยำ และนำไปต่อยอดทำโปรโมชันหรือแคมเปญต่อยอดเพื่อให้ลูกค้าเกิดความภักดี (Brand Loyalty) และอยากกลับมาซื้อซ้ำหรือกลับมาใช้บริการที่ร้านอีก ซึ่งก็จะช่วยเพิ่มยอดขายและกำไรให้กับธุรกิจได้ ซึ่งหากใช้ระบบจัดการหน้าร้าน B-POS ก็จะสามารถเชื่อมต่อกับระบบสะสมแต้มอย่าง CRM PLUS by BUZZEBEES ได้อย่างสะดวกมากขึ้น 

2. จัดการออเดอร์หน้าร้าน พร้อมรองรับการขาย E-Voucher ผ่านช่องทางอื่นๆ นอกจากความสะดวกในการคีย์ออเดอร์ผ่านหน้าจอทัชสกรีน หรือการใช้เครื่องสแกนเนอร์ยิงสินค้าเวลาลูกค้ามาซื้อของหน้าร้านแล้ว ยังสามารถเชื่อมต่อระบบเข้ากับอุปกรณ์สื่อสารอื่นๆ เช่น มือถือ แท็บเล็ต ที่พนักงานที่ร้านใช้สำหรับ “คีย์ออเดอร์” ได้ สามารถจัดการออเดอร์ได้อย่างรวดเร็ว และช่วยลดโอกาสที่จะเกิดความผิดพลาดได้อย่างมาก และในยุคที่ใครๆ ก็มักจะช้อปออนไลน์ การซื้อ E-Voucher หรือ Deal ต่างๆ เป็นเทรนด์การซื้อสินค้าที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน ระบบ B-POS ก็สามารถรองรับการขาย E-Voucher ผ่าน Marketplace หรือช่องทางต่างๆ แล้วมาใช้งานกับเครื่อง B-POS ที่หน้าร้านได้ทันที เป็นการช่วยเพิ่มช่องทางการขาย ขยายธุรกิจไปยังกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ได้อีกด้วย
  
3. รองรับระบบจ่ายเงินออนไลน์หลากหลายรูปแบบ พร้อมตรวจสอบการทำรายการอย่างแม่นยำ B-POS สามารถรองรับการจ่ายเงินได้หลากหลายรูปแบบ และหากใช้ร่วมกับระบบ E-Payment ของ Buzzebees จะทำให้การรับชำระเงินนั้นสมบูรณ์แบบมากขึ้น โดยเป็นการเพิ่มตัวเลือกให้ร้านค้ารับชำระเงินผ่าน E-Wallet ชั้นนำของประเทศไทย เช่น  ShopeePay, TrueMoney Wallet, AliPay, Dolfin หรือแม้แต่ Sabuy Money จากนั้นรายการชำระเงินจะอัปเดตข้อมูลการชำระเงินออเดอร์นั้นๆ เข้าระบบทันที พนักงานขายหน้าร้านหรือเจ้าของร้านสามารถตรวจสอบรายการได้แบบเรียลไทม์ เพิ่มความรวดเร็วในการเช็คยอดเงิน พร้อมกับมีสรุปรายงานการชำระเงินแยกแต่ละช่องทางให้ดูด้วย ง่ายต่อการเรียกดู ทำให้เจ้าของร้านสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ทุกเวลา ช่วยในการตรวจสอบการทำงานของพนักงานได้อย่างรอบด้านมากขึ้น ทำให้เกิดความแม่นยำและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
 
นอกจากนี้ ยังสามารถดึงข้อมูลเพื่อเช็คยอดขายรายวัน ได้ทั้งแบบสรุป และแบบเชิงลึก ซึ่งสะดวกรวดเร็วมากกว่าที่จะใช้วิธีการคำนวณแบบเดิมๆ โดยการใช้คน และหากเกิดปัญหาขึ้นก็สามารถแก้ไขได้ทันท่วงที
  
4. ความปลอดภัยแน่นหนา เจ้าของร้านตรวจสอบหลังบ้านได้แบบเรียลไทม์ บางครั้งเจ้าของธุรกิจอาจไม่มีเวลามานั่งเฝ้าหน้าร้านได้ทุกวัน การมีระบบ B-POS ก็เสมือน ‘ผู้ช่วยมือขวา’ ที่เข้ามาช่วยเพิ่มความสะดวก ไม่ใช่แค่การดึงข้อมูลผ่านหน้าจอของ B-POS เท่านั้น แต่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ก็สามารถตรวจสอบข้อมูลหลังบ้านผ่านอุปกรณ์ของตัวเองได้ ทั้งติดตามยอดขายรายชั่วโมงผ่าน Manager Application ที่เจ้าของร้านหรือผู้จัดการตั้งค่าผู้ใช้งาน ประเภทและรายการสินค้าได้เอง อัปเดตยอดและสินค้าขายได้แบบรายชั่วโมงไปจนถึงตรวจเช็คสินค้าคงคลังว่ามีเข้า-ออกมากน้อยเพียงใด รวมถึงสามารถบริหารสต็อก และควบคุมวัตถุดิบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถควบคุมต้นทุนและติดตามแก้ไขข้อผิดพลาดได้อย่างละเอียดครบถ้วนผ่าน Website Portal ได้ด้วยเช่นกัน
 
ที่สำคัญ ตัวระบบยังมีฟังก์ชันการจำกัดสิทธิการใช้งาน (Control User Authorization) เสริมความแข็งแกร่งด้านความปลอดภัยให้กับร้านค้า โดยสามารถจำกัดสิทธิการเข้าถึงฟีเจอร์การคิดเงิน, Void บิล, เปิดลิ้นชักเก็บเงิน, ตั้งค่าร้าน, แก้ไขสต็อกสินค้า และการรับออเดอร์จากแท็บเล็ตได้ตามความต้องการ 

5. รองรับระบบแฟรนไชส์ (Franchise) ไม่ว่าจะมีสาขาอยู่แล้ว หรือวางแผนจะเปิดสาขาหรือแฟรนไชส์ในอนาคต ระบบ B-POS ช่วยเจ้าของกิจการให้ดูยอดขายได้ทั้งแบบรายสาขาและแบบภาพรวม, เชื่อมระบบการสั่งซื้อวัตถุดิบได้จากร้านแฟรนไชส์หลัก และรองรับไปถึงระบบคลัง Warehouse และการ Transfer สต็อกสินค้า รวมถึงเชื่อมต่อระบบสะสมแต้มได้ครบทุกสาขาด้วย ให้ลูกค้าสะดวกสบายไม่ว่าจะเข้ารับบริการจากสาขาใดก็ตาม
 
ด้วยการแข่งขันทางธุรกิจในยุคดิจิทัลที่โลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การมีระบบจัดการร้านค้าอย่าง B-POS จะช่วยให้บริหารธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่ง Buzzebees พร้อมให้คำปรึกษาแนะนำและเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเพิ่มกลยุทธ์ทางการตลาดให้ทั้งกับร้านอาหารและร้านค้าปลีกทั่วไป เพื่อสร้างยอดขายให้ได้มากขึ้น รวมถึงช่วยรักษาฐานลูกค้าได้ในระยะยาว พร้อมรองรับระบบใหม่ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์ทั้งงานขายและงานหลังร้านได้ในเวลาเดียวกัน 

ทั้งนี้ ระบบจัดการหน้าร้าน BUZZEBEES POS (B-POS) เป็นหนึ่งในบริการ BUZZEBEES RETAIL SOLUTION เริ่มต้นเพียงเดือนละ 490 บาทเท่านั้น ผู้สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://crm.buzzebees.com/ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบ POS ได้ที่โทร. 02-645-1212