สถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย และผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจพืชสวน ร่วมยืนยัน งานฮอร์ติ เอเชีย 2022 อีกหนึ่งงานแสดงสินค้าสำหรับอุตสาหกรรมเกษตรที่ไม่ควรพลาด!
เมื่อ : 27 เม.ย. 2565 ,
473 Views
(กรุงเทพ ประเทศไทย) - สถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย พร้อมด้วย วีเอ็นยู เอเชีย แปซิฟิค และ สมาคมเกษตรแห่งเยอรมัน สำนักงานประเทศไทย ผสานความร่วมมือกันจัดงานแถลงข่าว ฮอร์ติ เอเชีย ภายใต้แนวคิด ความท้าทายและการแก้ปัญหาเพื่อการเกษตรไทย ในวันจันทร์ที่ 25 เมษายน 2565 ณ ทำเนียบเอกอัครราชทูตเนเธอร์แลนด์ ถนนวิทยุ กรุงเทพฯ การเปิดงานอย่างเป็นทางการได้รับเกียรติจาก ดร. Gijs Theunissen DVM - อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายเกษตร) สถานเอกอัครราชทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมงานอย่างอบอุ่น หลังจากนั้นเข้าสู่ช่วงการนำเสนอข้อมูลที่น่าสนใจของแต่ละหน่วยงาน ซึ่งในครั้งนี้มีถึง 7 บริษัทร่วมแบ่งปันความรู้ในด้านของเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเกษตรที่จะมานำเสนอในตลาดเอเชียภายในงานแสดงสินค้าปีนี้
ดร. Gijs Theunissen DVM อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายเกษตร) สถานเอกอัครราชทูต เนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “สำหรับประเทศเนเธอร์แลนด์ ความท้าทายระดับโลกคือ การหาแหล่งอาหารที่ปลอดภัยและยั่งยืน โดยการเชื่อมโยงระหว่างอาหาร การเกษตร จีโนม และเทคโนโลยี สิ่งเหล่านี้ล้วนมีความสำคัญอย่างยิ่ง สิ่งที่สำคัญมากเช่นกัน คือ การผลิตโดยคำนึงถึงปัจจัยอื่นๆ อาทิ ภาวะโลกร้อน ดังนั้นเรามีการปรับใช้เทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาช่วย โดยภาคเอกชน ได้ร่วมมือกันกับสถาบันวิจัยและองค์กรภาครัฐอย่างใกล้ชิด เพื่อพัฒนาการปลูกพืชสวนต่อไป ซึ่งในงาน HORTI ASIA เกษตรกรสามารถเรียนรู้แนวคิดใหม่ๆ ในการแก้ปัญหาทางธุรกิจ รวมทั้งทำความเข้าใจเกี่ยวกับการปลูกพืชสวนอย่างยั่งยืนให้มากขึ้นอีกด้วย”
“งานฮอร์ติ เอเชีย - งานแสดงปัจจัยการผลิตทางการเกษตรและนวัตกรรมด้านการปลูกพืชผัก ไม้ผล และดอกไม้แห่งภูมิภาคเอเชีย จัดควบคู่กับงานอกริเทคนิก้า เอเชีย – งานแสดงเทคโนโลยีเครื่องจักรกลการเกษตรแห่งภูมิภาค จัดมาอย่างต่อเนื่องและพร้อมที่จะกลับมานำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเกษตรจากผู้ประกอบการจากนานาประเทศ ในปีนี้ผู้เข้าชมงานจะได้พบกับ 150 บริษัทผู้ผลิตทางการเกษตรชั้นนำจาก 26 ประเทศทั่วโลกที่พร้อมนำ 300 แบรนด์มานำเสนอภายในงาน โดยรับการสนับสนุนการจัดงานอย่างเป็นทางการจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ผู้ร่วมจัดงาน) พร้อมด้วยการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของพันธมิตรระดับประเทศอย่าง ประเทศเวียดนาม นอกจากการเยี่ยมชมนวัตกรรมต่างๆ ผู้เข้าชมงานสามารถจับจองที่นั่งในงานสัมมนาที่น่าสนใจหลากหลายหัวข้อมากกว่า 30 งานประชุม โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่ออัปเดตข่าวสารความรู้ทางการเกษตร ตลอดจนกิจกรรมการจับคู่กับคู่ค้าใหม่ๆ เพื่อการขยายธุรกิจ และการเยี่ยมชมพาวิลเลี่ยนที่น่าสนใจไม่ว่าจะเป็นพาวิลเลี่ยนจากนานาประเทศ พาวิลเลี่ยนการปลูกพืชแนวตั้ง การปลูกกัญชากัญชง ตลอดจนกิจกรรมการสาธิตโดรนเพื่อการเกษตรและเทคโนโลยีอีกมากมาย” คุณปนัดดา ก๋งม้า ผู้อำนวยการสายงานธุรกิจเกษตร-ปศุสัตว์ และฝ่ายผฏิบัติการ วีเอ็นยูฯ กล่าว
คุณปนัดดา ก๋งม้า ผู้อำนวยการสายงานธุรกิจเกษตร-ปศุสัตว์ และฝ่ายผฏิบัติการ วีเอ็นยูฯ
ดร.สุนทร พิพิธแสงจันทร์ นายกสมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย ได้กล่าวว่า “การเกษตรเป็นมรดกของไทยที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น อีกทั้งชาวเกษตรกรรมและเกษตรกรเป็นดั่งท่อน้ำเลี้ยงของประเทศไทย งาน HORTI ASIA จะสามาถช่วยส่งเสริมในแง่ของการอัพเดทความรู้และความเข้าใจในเรื่องของการเกษตรที่แม่นยำ ความปลอดภัยของอาหาร และความยั่งยืนทางการเกษตรในประเทศไทยให้กับผู้ที่มาเยี่ยมชมงาน”
ดร.วิรัลดา ภูตะคาม หัวหน้าห้องปฏิบัติการวิจัยจีโนม หน่วยวิจัยเทคโนโลยีจีโนม ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้กล่าวว่า “สวทช. ทำงานเกี่ยวกับเทคโนโลยี จีโนม ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการปลูกพืชสวน ทาง สวทช. มีบริการตรวจจีโนมหลัก อยู่ทั้งหมด 3 รายการ คือ 1. Seed purity testing ที่ช่วยในการตรวจสอบชนิดพืชก่อนนำออกจำหน่าย และตรวจ DNA ของพืช ที่สามารถให้ผลตรวจได้ภายในสองวัน 2. การจัดลำดับ DNA ที่ใช้เทคโนโลยีการจัดลำดับทั้งแบบ long-read sequencing และ short-read sequencing. 3. เทคโนโลยี Genotyping-by-sequencing (GBS) เช่น reduced representation library (RRL) sequencing, targeted enrichment sequencing or amplicon sequencing) ในการศึกษา genetic variation ใน populations ของพืชเศรษฐกิจ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการระดับประเทศ”
คุณสุภัทรา เลิศวัฒนาเกียรติ ผู้เชี่ยวชาญด้านไม้ผล กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้กล่าวว่า “หลังจาก 3 ปีของการระบาดของโรคโควิท19 ที่ได้เปลี่ยนวิถีชีวิตของใครหลายๆคน การท่องเที่ยวเชิงเกษตรถือเป็นทางออกใหม่ สำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เป็นแหล่งเรียนรู้แห่งใหม่และเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ จุดแข็งของการท่องเที่ยวเชิงเกษตรคือ การมีจุดท่องเที่ยวตลอดปี นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปในสถานที่ต่างๆ ในแต่ละภูมิภาคเพื่อค้นหาสิ่งใหม่ๆที่น่าสนใจ โดยเฉพาะประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศที่อุดมไปด้วยทรัพยากรณ์ รวมถึง ผลไม้ตามฤดูกาล ขนมไทยชั้นเลิศ กาแฟที่เต็มไปด้วยคุณภาพ และอาหารต้นตำหรับหลากหลายชนิดที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณประโยชน์ งานแสดงสินค้าอย่างHORTI ASIA ก็เป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่น่าสนใจที่จะจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ให้กับเกษตรกรไทยต่อไป”
ในหัวข้อ ระบบโรงเรือนอัตโนมัติเพื่อการเพาะปลูกที่ยั่งยืน ถูกนำเสนอโดย Mr. Manuel Madani ผู้จัดการ บริษัท Priva South – East Asia (SEA) ได้กล่าวว่า “ผู้ประกอบการรุ่นใหม่เป็นกำลังสำคัญที่จะช่วยนำพาประเทศไทยไปสู่ระดับโลก โดยเฉพาะเกษตรกรรุ่นใหม่ ที่สนใจในการใช้เทคโนโลยีเพื่อการอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่นเดียวกับการทำโรงเรือนอัตโนมัติ การใช้เทคโนโลยีและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ตลอดจนการทำการเกษตรด้วยเทคโนโลยีที่ยั่งยืน สิ่งเหล่านี้เอง คือ อนาคตของธุรกิจเกษตรที่แท้จริง”
“กลุ่มเกษตรกรท้องถิ่นเป็นหนึ่งในกลุ่มเป้าหมายที่เรามุ่งเน้น ในปีนี้ทางผู้จัดการได้จัด Thailand Smart Farming Pavilion เพื่อแสดงให้เห็นว่า การทำฟาร์มอัจฉริยะ ไม่ได้มีไว้สำหรับเกษตรกรรายใหญ่เท่านั้น แต่มีไว้สำหรับเกษตรกรรายย่อยด้วย ซึ่งสามารถนำมาใช้ในรูปแบบต่างๆ อาทิ การใช้แอปพลิเคชันบนมือถือเพื่อการสาธิตโดรนทางการเกษตรภายในงาน ทางผู้จัดงานต้องการหารือร่วมกับเกษตรกรรุ่นใหม่ ร่วมกันแบ่งปันแนวคิดใหม่ๆ และแบ่งปันปัญหาต่างๆ เพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งการมาเยี่ยมชมงานในปีนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับทุกภาคส่วน” Ms. Katharina Staske กรรมการผู้จัดการ สมาคมเกษตแห่งเยอรมัน สำนักงานประเทศไทย (DLG THAI)
ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนเพื่อรับบัตรเข้าชมงานฟรีได้ที่ https://online-register.org/ata/register/index.php?code=media325
AGRITECHNICA ASIA & HORTI ASIA ระหว่างวันที่ 25-27 พฤษภาคม 2565 ณ ไบเทค กรุงเทพฯ
ดร. Gijs Theunissen DVM อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายเกษตร) สถานเอกอัครราชทูต เนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “สำหรับประเทศเนเธอร์แลนด์ ความท้าทายระดับโลกคือ การหาแหล่งอาหารที่ปลอดภัยและยั่งยืน โดยการเชื่อมโยงระหว่างอาหาร การเกษตร จีโนม และเทคโนโลยี สิ่งเหล่านี้ล้วนมีความสำคัญอย่างยิ่ง สิ่งที่สำคัญมากเช่นกัน คือ การผลิตโดยคำนึงถึงปัจจัยอื่นๆ อาทิ ภาวะโลกร้อน ดังนั้นเรามีการปรับใช้เทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาช่วย โดยภาคเอกชน ได้ร่วมมือกันกับสถาบันวิจัยและองค์กรภาครัฐอย่างใกล้ชิด เพื่อพัฒนาการปลูกพืชสวนต่อไป ซึ่งในงาน HORTI ASIA เกษตรกรสามารถเรียนรู้แนวคิดใหม่ๆ ในการแก้ปัญหาทางธุรกิจ รวมทั้งทำความเข้าใจเกี่ยวกับการปลูกพืชสวนอย่างยั่งยืนให้มากขึ้นอีกด้วย”
“งานฮอร์ติ เอเชีย - งานแสดงปัจจัยการผลิตทางการเกษตรและนวัตกรรมด้านการปลูกพืชผัก ไม้ผล และดอกไม้แห่งภูมิภาคเอเชีย จัดควบคู่กับงานอกริเทคนิก้า เอเชีย – งานแสดงเทคโนโลยีเครื่องจักรกลการเกษตรแห่งภูมิภาค จัดมาอย่างต่อเนื่องและพร้อมที่จะกลับมานำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเกษตรจากผู้ประกอบการจากนานาประเทศ ในปีนี้ผู้เข้าชมงานจะได้พบกับ 150 บริษัทผู้ผลิตทางการเกษตรชั้นนำจาก 26 ประเทศทั่วโลกที่พร้อมนำ 300 แบรนด์มานำเสนอภายในงาน โดยรับการสนับสนุนการจัดงานอย่างเป็นทางการจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ผู้ร่วมจัดงาน) พร้อมด้วยการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของพันธมิตรระดับประเทศอย่าง ประเทศเวียดนาม นอกจากการเยี่ยมชมนวัตกรรมต่างๆ ผู้เข้าชมงานสามารถจับจองที่นั่งในงานสัมมนาที่น่าสนใจหลากหลายหัวข้อมากกว่า 30 งานประชุม โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่ออัปเดตข่าวสารความรู้ทางการเกษตร ตลอดจนกิจกรรมการจับคู่กับคู่ค้าใหม่ๆ เพื่อการขยายธุรกิจ และการเยี่ยมชมพาวิลเลี่ยนที่น่าสนใจไม่ว่าจะเป็นพาวิลเลี่ยนจากนานาประเทศ พาวิลเลี่ยนการปลูกพืชแนวตั้ง การปลูกกัญชากัญชง ตลอดจนกิจกรรมการสาธิตโดรนเพื่อการเกษตรและเทคโนโลยีอีกมากมาย” คุณปนัดดา ก๋งม้า ผู้อำนวยการสายงานธุรกิจเกษตร-ปศุสัตว์ และฝ่ายผฏิบัติการ วีเอ็นยูฯ กล่าว
คุณปนัดดา ก๋งม้า ผู้อำนวยการสายงานธุรกิจเกษตร-ปศุสัตว์ และฝ่ายผฏิบัติการ วีเอ็นยูฯ
ดร.สุนทร พิพิธแสงจันทร์ นายกสมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย ได้กล่าวว่า “การเกษตรเป็นมรดกของไทยที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น อีกทั้งชาวเกษตรกรรมและเกษตรกรเป็นดั่งท่อน้ำเลี้ยงของประเทศไทย งาน HORTI ASIA จะสามาถช่วยส่งเสริมในแง่ของการอัพเดทความรู้และความเข้าใจในเรื่องของการเกษตรที่แม่นยำ ความปลอดภัยของอาหาร และความยั่งยืนทางการเกษตรในประเทศไทยให้กับผู้ที่มาเยี่ยมชมงาน”
คุณสุภัทรา เลิศวัฒนาเกียรติ ผู้เชี่ยวชาญด้านไม้ผล กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้กล่าวว่า “หลังจาก 3 ปีของการระบาดของโรคโควิท19 ที่ได้เปลี่ยนวิถีชีวิตของใครหลายๆคน การท่องเที่ยวเชิงเกษตรถือเป็นทางออกใหม่ สำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เป็นแหล่งเรียนรู้แห่งใหม่และเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ จุดแข็งของการท่องเที่ยวเชิงเกษตรคือ การมีจุดท่องเที่ยวตลอดปี นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปในสถานที่ต่างๆ ในแต่ละภูมิภาคเพื่อค้นหาสิ่งใหม่ๆที่น่าสนใจ โดยเฉพาะประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศที่อุดมไปด้วยทรัพยากรณ์ รวมถึง ผลไม้ตามฤดูกาล ขนมไทยชั้นเลิศ กาแฟที่เต็มไปด้วยคุณภาพ และอาหารต้นตำหรับหลากหลายชนิดที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณประโยชน์ งานแสดงสินค้าอย่างHORTI ASIA ก็เป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่น่าสนใจที่จะจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ให้กับเกษตรกรไทยต่อไป”
ในหัวข้อ ระบบโรงเรือนอัตโนมัติเพื่อการเพาะปลูกที่ยั่งยืน ถูกนำเสนอโดย Mr. Manuel Madani ผู้จัดการ บริษัท Priva South – East Asia (SEA) ได้กล่าวว่า “ผู้ประกอบการรุ่นใหม่เป็นกำลังสำคัญที่จะช่วยนำพาประเทศไทยไปสู่ระดับโลก โดยเฉพาะเกษตรกรรุ่นใหม่ ที่สนใจในการใช้เทคโนโลยีเพื่อการอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่นเดียวกับการทำโรงเรือนอัตโนมัติ การใช้เทคโนโลยีและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ตลอดจนการทำการเกษตรด้วยเทคโนโลยีที่ยั่งยืน สิ่งเหล่านี้เอง คือ อนาคตของธุรกิจเกษตรที่แท้จริง”
“กลุ่มเกษตรกรท้องถิ่นเป็นหนึ่งในกลุ่มเป้าหมายที่เรามุ่งเน้น ในปีนี้ทางผู้จัดการได้จัด Thailand Smart Farming Pavilion เพื่อแสดงให้เห็นว่า การทำฟาร์มอัจฉริยะ ไม่ได้มีไว้สำหรับเกษตรกรรายใหญ่เท่านั้น แต่มีไว้สำหรับเกษตรกรรายย่อยด้วย ซึ่งสามารถนำมาใช้ในรูปแบบต่างๆ อาทิ การใช้แอปพลิเคชันบนมือถือเพื่อการสาธิตโดรนทางการเกษตรภายในงาน ทางผู้จัดงานต้องการหารือร่วมกับเกษตรกรรุ่นใหม่ ร่วมกันแบ่งปันแนวคิดใหม่ๆ และแบ่งปันปัญหาต่างๆ เพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งการมาเยี่ยมชมงานในปีนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับทุกภาคส่วน” Ms. Katharina Staske กรรมการผู้จัดการ สมาคมเกษตแห่งเยอรมัน สำนักงานประเทศไทย (DLG THAI)
ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนเพื่อรับบัตรเข้าชมงานฟรีได้ที่ https://online-register.org/ata/register/index.php?code=media325
AGRITECHNICA ASIA & HORTI ASIA ระหว่างวันที่ 25-27 พฤษภาคม 2565 ณ ไบเทค กรุงเทพฯ