“ดิเอลฟ์ ไทยแลนด์” เปิดตัวครีม “นาโน ไวท์ บูสเตอร์” ทุ่มงบ 50 ล้านคว้าซูปตาร์ “อั้ม พัชราภา” อัดกลยุทธ์ออนไลน์ เจาะตลาดสกินแคร์โลกดันยอดขาย “พันล้าน” ปี 65
เมื่อ : 05 เม.ย. 2565 ,
515 Views
บริษัท ดิเอลฟ์ (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้จำหน่ายเครื่องสำอางซึ่งกำลังมาแรง และเป็นที่จับตาในธุรกิจความงาม เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้ชื่อ ดิเอลฟ์ นาโน ไวท์ บูสเตอร์ (The Elf NANO WHITE BOOSTER) นวัตกรรมเพิ่มความชุ่มชื้นให้รอยแห้งกร้าน ช่วยผิวกระจ่างใสด้วยการเติมอาหารให้กับผิวเพื่อให้ผิวได้รับการฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว และกระตุ้นให้ผิวสร้างเนื้อเยื่อคอลลาเจนขึ้นมาใหม่รักษารอยแผลต่าง ๆ อีกทั้งยังบำรุงลึกถึงเซลล์ผิวชั้นใน ด้วยสารสกัดโมเลกุลระดับนาโน จนเกิดการปรับสมดุลผิวให้ดียิ่งขึ้นจากภายในสู่ภายนอก พร้อมกันนี้ ผู้บริหารบริษัทฯ ยังทุ่มงบประมาณกว่า 50 ล้านบาท หวังเจาะตลาดออนไลน์เพิ่มมากขึ้น หลังจากคว้าตัวนักแสดงสาวและนางเอกซูเปอร์สตาร์ขวัญใจมหาชน อย่าง “อั้ม – พัชราภา ไชยเชื้อ” เป็นพรีเซนเตอร์ ดังสโลแกนที่ว่า "บูสเตอร์ดิเอลฟ์ ที่อั้มเลือก" โดยมี 2 ซีอีโอแห่ง ดิเอลฟ์ (ไทยแลนด์) อย่าง คุณสุดารัตน์ เป็งเส้า ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ คุณอรรถพงษ์ พาประจง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายกลยุทธ์ตลาดออนไลน์ ร่วมแถลงการณ์แผนการตลาดตั้งเป้าขยายธุรกิจและกลุ่มลูกค้า 1,000 ล้านบาท ในปี 65
คุณสุดารัตน์ เป็งเส้า ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดิเอลฟ์ (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 ที่เริ่มก่อตั้งแบรนด์ดิเอลฟ์ (The elf) จนถึงปัจจุบันสามารถออกผลิตภัณฑ์วางจำหน่ายแล้วทั้งหมด 3 ตัว โดยตัวแรกชื่อว่า นาโน ไวท์ เจล (NANO WHITE GEL) เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกายเนื้อเจล ช่วยฟื้นฟูให้ผิวขาวกระจ่างใส ถัดมาตัวที่ 2 ชื่อว่า นาโน ซันสกรีน (NANO SUNSCREEN) เป็นกันแดดเนื้อโลชัน ส่วนตัวที่ 3 ชื่อว่า นาโน ไวท์ โดส (NANO WHITE DOSE) เป็นไวท์เทนนิ่งเซรั่มบำรุงผิวกายสูตรเข้มข้น และล่าสุดผลิตภัณฑ์ตัวที่ 4 นาโน ไวท์ บูสเตอร์ (NANO WHITE BOOSTER) เป็นเนื้อครีมเข้มเข้มข้นที่จะช่วยฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงและขาวกระจ่างใส เมื่อใช้คู่กับนาโน ไวท์ โดส จะยิ่งช่วยให้ผลลัพธ์ที่ดีได้มากขึ้น
สำหรับผลิตภัณฑ์น้องใหม่ อย่าง นาโน ไวท์ บูสเตอร์ (NANO WHITE BOOSTER) เป็นเนื้อครีมบำรุงผิวกายสูตร พรีเมียม สัมผัสบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมลึกและซึมไว ฟื้นฟูล้ำลึกสู่ชั้นผิว กระจ่างใส ผิวฉ่ำ เนียนชุ่มชื้น อิ่มน้ำกว่าที่เคยตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ กลิ่นหอมเฉพาะจากประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ดิเอลฟ์ ประกอบกับสารสกัดพรีเมียม 12 ชนิด ที่ทีมนักวิจัยได้คิดค้นมาแล้วว่าปลอดภัยต่อผิวกาย และสามารถบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึกเหมาะกับทุกสภาพผิวของทุกคน
ด้าน คุณภัทรมน ภุมรินทร์ ที่ปรึกษาการตลาด กล่าวเสริมอีกว่า “ทั้งนี้ กลยุทธ์ด้านการตลาดเน้น “ระบบฝากส่ง” ช่วยตัวแทนประหยัดเวลา ลดต้นทุน พร้อมระบบการจัดเก็บสินค้าที่ได้รับมาตรฐาน ทำให้ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ดิเอลฟ์ โดยเฉพาะนาโน ไวท์ โดส (NANO WHITE DOSE) สามารถสร้างยอดการสั่งซื้อสินค้าได้มากกว่า 2 ล้านชิ้น ภายในระยะเวลาเพียง 1 ปี ทำให้ได้รับผลตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้า ทั้งรายเดิมซื้อซ้ำแล้วบอกต่อ และรายใหม่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากในยุคการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ตลาดออนไลน์กลายเป็นที่นิยม จึงเลือกใช้กลยุทธ์การขายผ่านตัวแทน มากกว่า 500 คนในระบบออนไลน์ ประกอบกับแบรนด์ดิเอลฟ์ มีโรงงานผลิตที่ได้รับรองมาตรฐาน ดังนั้น สินค้าทุกตัวผ่านการทดสอบแล้วจากอาสาสมัครมากกว่า 100 คน หลังจากที่ได้รับการพัฒนาสูตรโดยผู้เชี่ยวชาญจนกลายเป็นสูตรที่ดีที่สุด จึงมั่นใจได้ว่าสินค้าทุกตัวมีคุณภาพและความปลอดภัย ใช้แล้วเห็นผลจริงอย่างแน่นอน นอกจากคนในประเทศจะรู้จักแล้ว ยังวางแผนการตลาดเพื่อขยายฐานลูกค้าไปสู่ตลาดต่างประเทศ โดยจะเริ่มต้นจากประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคอาเซียน 10 ประเทศเป็นลำดับต่อไป ดังนั้น ภายในปี 65 จึงคาดหวังว่าธุรกิจจะสามารถเติบโตเพิ่มขึ้น 5 เท่า และดึงส่วนแบ่ง 10% จากตลาดสกินแคร์”
“สินค้าที่ลูกค้าเกิดการซื้อซ้ำ ก็คือเรื่องของการตลาดที่ไม่เคยหยุด อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้แบรนด์ประสบความสำเร็จ คือให้ความสำคัญกับความเสมอภาค ไม่เอารัดเอาเปรียบ ทำงานอย่างมืออาชีพและเป็นระบบ หัวใจเลยก็คือความซื่อสัตย์ ความจริงใจต่อลูกค้าและต่อตัวเอง” คุณสุดารัตน์ กล่าวทิ้งท้าย
อย่างไรก็ดี หากใครที่สนใจผลิตภัณฑ์ของบริษัท ดิเอลฟ์ (ไทยแลนด์) จำกัด The Elf (Thailand) Co.,Ltd. สามารถติดต่อสอบถามผ่านช่องทาง ตัวแทนจำหน่ายที่มีบัตรตัวแทน (ระบบฝากส่ง) เพื่อป้องกันสินค้าลอกเลียนแบบ, LINE OA : @theelf และ เฟซบุ๊กแฟนเพจ The Elf Thailand นอกจากนี้ ยังสามารถเข้าไปเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ได้ที่เว็บไซต์ https://www.theelfthailand.com/
คุณสุดารัตน์ เป็งเส้า ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดิเอลฟ์ (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 ที่เริ่มก่อตั้งแบรนด์ดิเอลฟ์ (The elf) จนถึงปัจจุบันสามารถออกผลิตภัณฑ์วางจำหน่ายแล้วทั้งหมด 3 ตัว โดยตัวแรกชื่อว่า นาโน ไวท์ เจล (NANO WHITE GEL) เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกายเนื้อเจล ช่วยฟื้นฟูให้ผิวขาวกระจ่างใส ถัดมาตัวที่ 2 ชื่อว่า นาโน ซันสกรีน (NANO SUNSCREEN) เป็นกันแดดเนื้อโลชัน ส่วนตัวที่ 3 ชื่อว่า นาโน ไวท์ โดส (NANO WHITE DOSE) เป็นไวท์เทนนิ่งเซรั่มบำรุงผิวกายสูตรเข้มข้น และล่าสุดผลิตภัณฑ์ตัวที่ 4 นาโน ไวท์ บูสเตอร์ (NANO WHITE BOOSTER) เป็นเนื้อครีมเข้มเข้มข้นที่จะช่วยฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงและขาวกระจ่างใส เมื่อใช้คู่กับนาโน ไวท์ โดส จะยิ่งช่วยให้ผลลัพธ์ที่ดีได้มากขึ้น
สำหรับผลิตภัณฑ์น้องใหม่ อย่าง นาโน ไวท์ บูสเตอร์ (NANO WHITE BOOSTER) เป็นเนื้อครีมบำรุงผิวกายสูตร พรีเมียม สัมผัสบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมลึกและซึมไว ฟื้นฟูล้ำลึกสู่ชั้นผิว กระจ่างใส ผิวฉ่ำ เนียนชุ่มชื้น อิ่มน้ำกว่าที่เคยตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ กลิ่นหอมเฉพาะจากประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ดิเอลฟ์ ประกอบกับสารสกัดพรีเมียม 12 ชนิด ที่ทีมนักวิจัยได้คิดค้นมาแล้วว่าปลอดภัยต่อผิวกาย และสามารถบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึกเหมาะกับทุกสภาพผิวของทุกคน
ด้าน คุณภัทรมน ภุมรินทร์ ที่ปรึกษาการตลาด กล่าวเสริมอีกว่า “ทั้งนี้ กลยุทธ์ด้านการตลาดเน้น “ระบบฝากส่ง” ช่วยตัวแทนประหยัดเวลา ลดต้นทุน พร้อมระบบการจัดเก็บสินค้าที่ได้รับมาตรฐาน ทำให้ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ดิเอลฟ์ โดยเฉพาะนาโน ไวท์ โดส (NANO WHITE DOSE) สามารถสร้างยอดการสั่งซื้อสินค้าได้มากกว่า 2 ล้านชิ้น ภายในระยะเวลาเพียง 1 ปี ทำให้ได้รับผลตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้า ทั้งรายเดิมซื้อซ้ำแล้วบอกต่อ และรายใหม่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากในยุคการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ตลาดออนไลน์กลายเป็นที่นิยม จึงเลือกใช้กลยุทธ์การขายผ่านตัวแทน มากกว่า 500 คนในระบบออนไลน์ ประกอบกับแบรนด์ดิเอลฟ์ มีโรงงานผลิตที่ได้รับรองมาตรฐาน ดังนั้น สินค้าทุกตัวผ่านการทดสอบแล้วจากอาสาสมัครมากกว่า 100 คน หลังจากที่ได้รับการพัฒนาสูตรโดยผู้เชี่ยวชาญจนกลายเป็นสูตรที่ดีที่สุด จึงมั่นใจได้ว่าสินค้าทุกตัวมีคุณภาพและความปลอดภัย ใช้แล้วเห็นผลจริงอย่างแน่นอน นอกจากคนในประเทศจะรู้จักแล้ว ยังวางแผนการตลาดเพื่อขยายฐานลูกค้าไปสู่ตลาดต่างประเทศ โดยจะเริ่มต้นจากประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคอาเซียน 10 ประเทศเป็นลำดับต่อไป ดังนั้น ภายในปี 65 จึงคาดหวังว่าธุรกิจจะสามารถเติบโตเพิ่มขึ้น 5 เท่า และดึงส่วนแบ่ง 10% จากตลาดสกินแคร์”
“สินค้าที่ลูกค้าเกิดการซื้อซ้ำ ก็คือเรื่องของการตลาดที่ไม่เคยหยุด อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้แบรนด์ประสบความสำเร็จ คือให้ความสำคัญกับความเสมอภาค ไม่เอารัดเอาเปรียบ ทำงานอย่างมืออาชีพและเป็นระบบ หัวใจเลยก็คือความซื่อสัตย์ ความจริงใจต่อลูกค้าและต่อตัวเอง” คุณสุดารัตน์ กล่าวทิ้งท้าย
อย่างไรก็ดี หากใครที่สนใจผลิตภัณฑ์ของบริษัท ดิเอลฟ์ (ไทยแลนด์) จำกัด The Elf (Thailand) Co.,Ltd. สามารถติดต่อสอบถามผ่านช่องทาง ตัวแทนจำหน่ายที่มีบัตรตัวแทน (ระบบฝากส่ง) เพื่อป้องกันสินค้าลอกเลียนแบบ, LINE OA : @theelf และ เฟซบุ๊กแฟนเพจ The Elf Thailand นอกจากนี้ ยังสามารถเข้าไปเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ได้ที่เว็บไซต์ https://www.theelfthailand.com/