เมื่อ : 15 ส.ค. 2564 , 1178 Views
สบส.เปิดสถิติออกกำลังกายช่วงโควิด 19 “เดินเร็ว” สุดฮิตวัยทำงาน
           กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) เปิดสถิติพฤติกรรมการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ  ในกลุ่มวัยทำงาน ให้เข้ากับสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 เผยประเภทของการออกกำลังกายยอดนิยมอันดับแรก คือ เดินเร็วร้อยละ 43.6 เป็นการออกกำลังกายยอดฮิตและประชาชนมักจะใช้เวลาออกกำลังกายต่อเนื่องประมาณ 30 นาที
 

 
             นพ.ธเรศ  กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.) กล่าวว่า ได้ดำเนินการเฝ้าระวังพฤติกรรมสุขภาพ เรื่องพฤติกรรมการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ โดยการสำรวจความคิดเห็นผ่านระบบออนไลน์ ในกลุ่มวัยทำงานอายุระหว่าง 15 - 59 ปี เรื่อง พฤติกรรมการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ดำเนินการใน 76 จังหวัดทั่วประเทศ ระหว่างเดือนเมษายน - พฤษภาคม 2564 (เป็นช่วงเริ่มต้นผ่อนคลายมาตรการ การควบคุมโรคโควิด 19) ผลการสำรวจ พบว่าวัยทำงานนิยมออกกำลังกายสูงสุด 3 อันดับแรก คือ เดินเร็ว โดยกลุ่มตัวอย่างเกือบครึ่งหนึ่ง คือ 43.6 %  ที่ยังคงออกกำลังกายประเภทนี้แม้ในสถานการณ์โรคโควิด 19 ยังคงแพร่ระบาด อันดับที่สอง คือ วิ่งเหยาะ 27.9%  อันดับที่สาม คือ ปั่นจักรยาน  19.9 %  ซึ่งจะเห็นได้ว่าการเดินเร็วเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมสำหรับคนทำงาน  

             นพ.ธเรศ กล่าวว่า ในช่วงที่ต้องทำงานที่บ้าน (Work From Home) การออกกําลังกายเป็นกลไก ที่สําคัญในการเสริมสุขภาพทำให้ร่างกายแข็งแรง มีภูมิคุ้มกัน โดยการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ  ต้องใช้วิธีค่อยทำค่อยไป ให้ทุกส่วนของร่างกายได้ออกกำลังกาย เพื่อให้ร่างกายได้เคลื่อนไหวและใช้แรงกล้ามเนื้อ  จะทำให้มีสุขภาพดี รู้สึกผ่อนคลายไม่เครียด ควรทำสม่ำเสมอ ให้ได้  3 - 5 วันต่อสัปดาห์ ต่อเนื่องนาน ครั้งละ 20 - 60 นาที  จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงของระบบหัวใจ ปอด และกล้ามเนื้อ  การออกกําลังกายอย่างสม่ำเสมอ  ทําให้เกิดความแข็งแรงสมบูรณ์ของร่างกายในด้านการป้องกันโรค คือ ช่วยลดความเสี่ยง  และปัจจัยที่ก่อให้เกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่สําคัญ เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด ความดันโลหิตสูง ความอ้วนและช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ฯลฯ การเดินเป็นวิธีรักษาสุขภาพที่ทำได้ง่าย ๆ ไม่สิ้นเปลือง เป็นอิสระและไม่ต้องใช้อุปกรณ์ ทุกเพศทุกวัยสามารถทำได้และปลอดภัย เป็นวิธีการออกกำลังกายที่ไม่ทำให้ร่างกายเหนื่อยล้าจนเกินไป เกิดแรงกระแทกที่ข้อเท้าต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่มีน้ำหนักมาก สิ่งสำคัญในการเดินออกกำลังกาย คือ ท่าเดิน ไม่ควรก้าวยาวจนเกินไป ควรก้าวสั้นๆ แต่ถี่ แกว่งแขนตามธรรมชาติ สวมรองเท้า ที่เหมาะแก่การเดิน ควรเป็นรองเท้าที่มีพื้นกันแรงกระแทกและรองรับอย่างมั่นคง  ก่อนและหลังการเดิน ควรอบอุ่นร่างกายและยืดกล้ามเนื้อ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอาการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นจากการออกกำลังกาย 
 

 
            ด้านนางสาวมะลิ ไพฑูรย์เนรมิต ผู้อำนวยการกองสุขศึกษา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวว่า การออกกำลังกายในวัยทำงานนี้นับว่ามีความจำเป็นมาก เพราะร่างกายต้องได้รับการรักษาและฟื้นฟูในส่วนที่สึกหรอไปจากการทำงาน การมีพฤติกรรมเนือยนิ่งหรือการนั่งติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน จะส่งผลต่อการเจ็บป่วยและเสียชีวิตจากกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หลอดเลือดหัวใจ และสมอง สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19  ประชาชนควรเลือกออกกำลังกายที่ไม่เสี่ยง  ต่อการติดเชื้อ และควรทำอย่างเป็นประจำสม่ำเสมอ สามารถใช้พื้นที่บริเวณบ้านออกกำลังกาย ไม่จำเป็นต้องออกไปข้างนอกเพื่อความปลอดภัย ทั้งนี้ เมื่อนั่งทำงานเป็นระยะเวลานาน ควรลุกขึ้นยืดเหยียดกล้ามเนื้อทุกๆ 1 ชั่วโมง อาจจะใช้แอพพลิเคชั่นเปิดคลิปออกกำลังกายที่บ้าน โยคะ หรือการทำงานบ้าน เช่น กวาดบ้าน ถูบ้าน รวมทั้งกินอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ ปรุงสุกด้วยความร้อน ลดหวาน มัน เค็ม หลีกเลี่ยง  การกินอาหารร่วมกัน งดการจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ทั้งภายในและภายนอกบ้าน และควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อยวันละ  7 - 9 ชั่วโมง 
           สามารถติดต่อผ่านช่องทางการติดต่อของกองสุขศึกษา ผ่านช่องทาง Facebook และเว็บไซต์กองสุขศึกษา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ http://www.hed.go.th