ซินโครตรอนจัดประชุมและรับฟัง “Voice of User” เพื่อพัฒนาและยกระดับการให้บริการของสถาบันฯ

สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) จัดการประชุมกลุ่มผู้ใช้ประโยชน์แสงซินโครตรอน AUM2025 เปิดเวทีรับฟังเสียงจากผู้ใช้บริการ แลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ และข้อเสนอแนะ เพื่อพัฒนาและยกระดับการบริการแสงซินโครตรอนของสถาบันฯ ให้มีประสิทธิภาพและตอบสนองความต้องการงานวิจัยและนวัตกรรมได้ดียิ่งขึ้น
กรุงเทพมหานคร – รศ.ดร.สาโรช รุจิรวรรธน์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน เปิดการประชุมกลุ่มผู้ใช้ประโยชน์แสงซินโครตรอน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 (SLRI Annual User Meeting 2025: AUM2025) ระหว่างวันที่ 8 – 9 กันยายน พ.ศ. 2568 ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร โดยมีผู้ใช้บริการแสงซินโครตรอนจากภาครัฐ ภาคเอกชน และสถานศึกษา เข้าร่วมการประชุมกว่า 250 คน
“การประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ และรับข้อเสนอแนะจากผู้ใช้บริการแสงซินโครตรอนจากทุกภาคส่วน ทั้งภาคการศึกษา ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคอุตสาหกรรม โดยปีนี้มีกิจกรรม Voice of User: ระดมและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากผู้ใช้บริการแสงซินโครตรอน เพื่อร่วมกันพัฒนาและยกระดับการใช้ประโยชน์แสงซินโครตรอนของประเทศ ให้มีประสิทธิภาพและตอบสนองความต้องการงานวิจัยและนวัตกรรมได้ดียิ่งขึ้น”
ทั้งนี้ กลุ่มผู้ใช้บริการได้ระดมความคิดเห็นใน 5 ด้าน ได้แก่ ด้านระบบลำเลียงแสง ด้านเครื่องกำเนิดแสงซินโครตรอน(เครื่องเร่งอนุภาค) ด้านความปลอดภัย ด้านการให้บริการทั่วไป และด้านเครื่องกำเนิดแสงซินโครตรอนระดับพลังงาน 3 GeV ที่จะสร้างขึ้นใหม่ในอนาคต จากนั้นคณะกรรมการกลุ่มผู้ใช้แสงซินโครตรอน (UAC) นำโดย ศ.ดร.จักรพงษ์ แก้วขาว ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ประธานกรรมการกลุ่มผู้ใช้แสงซินโครตรอน ได้นำข้อคิดเห็นดังกล่าวมาพิจารณาแนวทางปรับปรุงการดำเนินของสถาบันฯ เพื่อพัฒนาการให้บริการที่สอดคล้องความต้องการของกลุ่มผู้ใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความคิดเห็นในการพัฒนาเครื่องกำเนิดแสงซินโครตรอนเครื่องใหม่ ที่กลุ่มผู้ใช้บริการต้องการให้เพิ่มขีดความสามารถจากเครื่องกำเนิดแสงซินโครตรอนเครื่องปัจจุบัน เพื่อยกระดับงานวิจัยและพัฒนาของประเทศ มีการเตรียมความพร้อมหรือสร้างความคุ้นเคยให้แก่ผู้ใช้บริการก่อนการใช้งานจริงกับเครื่องในอนาคต รวมถึงการสื่อสารในวงกว้าง เพื่อสร้างการรับรู้ให้แก่ผู้ใช้บริการในปัจจุบันและผู้ที่สนใจในอนาคต นับเป็นเวทีให้กลุ่มผู้ใช้ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาเครื่องกำเนิดแสงซินโครตรอนเครื่องใหม่ระดับพลังงาน 3 GeV ให้สามารถตอบโจทย์งานวิจัยและพัฒนาของประเทศได้อย่างยั่งยืน
