เมื่อ : 07 ก.ย. 2568 , 159 Views
SACIT ส่งเสริมคนรุ่นใหม่ผู้สืบสานงานหัตถศิลป์ไทยจากภูมิปัญญา “เครื่องทองสุโขทัย-ดอกไม้ไหวล้านนา”  ผลักดันทุนทางวัฒนธรรมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ประเทศ

กรุงเทพฯ 5 กันยายน 2568 - สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) หรือ SACIT ยังคงเดินหน้าส่งเสริมคนรุ่นใหม่ที่ยังสืบสานภูมิปัญญาการทำเครื่องประดับโบราณ อาทิ เครื่องทองที่สะท้อนอัตลักษณ์พื้นถิ่นชาวสุโขทัย และหัตถกรรมดอกไม้ไหวของชาวล้านนา หัตถศิลป์อันสะท้อนเอกลักษณ์ของมรดกชาติไทยได้อย่างเด่นชัด และเพิ่มมูลค่างานหัตถกรรมด้วยการปรับดีไซน์ให้ร่วมสมัย พร้อมส่งเสริมให้หัตถกรรมเป็นหนึ่งในทุนทางวัฒนธรรมที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์อย่างยั่งยืนต่อไป

 

ผศ.ดร.อนุชา ทีรคานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย เปิดเผยว่า เพื่อตอกย้ำภารกิจของ SACIT กับบทบาทการเป็นนักปั้นดาวแห่งหัตถศิลป์ไทยเชื่อมความงามไกลสู่สากล (Nurturing Thai Crafts to Global Trends) SACIT จึงให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมผู้สร้างสรรค์ผลงานศิลปหัตถกรรมไทยรุ่นใหม่ที่สืบสานภูมิปัญญาการทำเครื่องประดับอย่างโบราณ สะท้อนอัตลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่น ผ่านการปรับประยุกต์จากงานดีไซน์รูปแบบดั้งเดิม สู่สินค้ากลุ่มไลฟ์สไตล์ที่เพิ่มเสน่ห์ดึงดูดให้ชิ้นงานสามารถคงอยู่ร่วมกับวิถีชีวิตของผู้คนในยุคสมัยและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง ตลอดจนตอบโจทย์เรื่องฟังก์ชันการใช้งานโดยยังคงแฝงไว้ซึ่งรากเหง้าของภูมิปัญญา ทั้งนี้ มีวัตถุประสงค์หลักในการเสริมสร้างโอกาสการผลักดันกลุ่มงานหัตถศิลป์ในแขนงต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในทุนวัฒนธรรมที่มีศักยภาพที่สามารถเพิ่มมูลค่างานหัตถกรรมไทย จนนำมาสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศไทยได้อย่างยั่งยืน

 

“สำหรับแบรนด์ผู้ประกอบการที่สามารถสร้างสรรค์ผลงานสะท้อนเอกลักษณ์ของมรดกชาติไทยได้อย่างโดดเด่น น่าสนใจ และยังคงไว้ซึ่งรากเหง้าของภูมิปัญญาท้องถิ่น อาทิ แบรนด์บ้านทองสมสมัย (เครื่องทองสุโขทัย) มรดกภูมิปัญญาล้ำค่าที่สะท้อนให้เห็นถึงอัตลักษณ์ความเลอค่าของวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า โดย นายปราโมทย์ เขาเหิน ครูช่างศิลปหัตถกรรม ปี 2568 และ แบรนด์มาลากาญจน์ หัตถกรรมดอกไม้ไหว ที่อาศัยความประณีต วิจิตรบรรจง โดย นายนวภัสร์ ตันติคุณาวงศ์ ทายาทช่างศิลปหัตถกรรม ประจำปี 2562”

 

นายปราโมทย์ เขาเหิน ครูช่างศิลปหัตถกรรม ประจำปี 2568 ประเภทเครื่องโลหะ (งานเครื่องทองสุโขทัย) และทายาทแบรนด์ “บ้านทองสมสมัย” แห่ง อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย เปิดเผยว่า ตลอดทศวรรษที่ผ่านมาแบรนด์บ้านทองสมสมัย ซึ่งก่อตั้งโดยนางสมสมัย เขาเหิน ครูศิลป์แผ่นดิน ปี 2553 ผู้เป็นมารดา ได้เติบโตและเป็นที่รู้จักในวงกว้าง โดยได้รับการสนับสนุนจากสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) หรือ SACIT มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการมอบโอกาสให้นำผลิตภัณฑ์มาจัดจำหน่ายในงานสำคัญต่าง ๆ ทั้งนี้ งานหัตถกรรมเครื่องทองสุโขทัยของบ้านทองสมสมัย ไม่เพียงโดดเด่นด้วยผลงานวิจิตรศิลป์และพุทธศิลป์หาชมยาก แต่ยังสะท้อนศิลปะแห่งทองสุโขทัยสู่สินค้ากลุ่มไลฟ์สไตล์ยอดนิยม ได้แก่ ชุดเครื่องประดับทองคำบริสุทธิ์ 99.99% ทั้งสร้อยคอ แหวน กำไลข้อมือ และผลงานระดับมาสเตอร์พีซอย่าง “สร้อยคอมะเฟืองทอง” ซึ่งต้องอาศัยทักษะช่างฝีมือชั้นสูงในการสร้างสรรค์ซึ่งแต่ละชิ้นงานมีเอกลักษณ์โดดเด่นและความแตกต่างในรายละเอียดเชิงเทคนิคที่ไม่ซ้ำกัน  โดยมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายส่วนใหญ่เป็นคนไทยที่ให้ความนิยมเลือกซื้อสวมใส่ออกงานในวาระสำคัญ และเก็บสะสมเป็นสมบัติของวงศ์ตระกูล ตลอดจนมอบเป็นของกำนัลล้ำค่าให้แก่แขกบ้านแขกเรือนคนสำคัญในวาระพิเศษต่าง ๆ  

 

ด้าน นายนวภัสร์ ตันติคุณาวงศ์ ทายาทช่างศิลปหัตถกรรม ประจำปี 2562 ประเภทเครื่องเงินเครื่องทอง และเครื่องโลหะ ผู้เชี่ยวชาญงานหัตถกรรมดอกไม้ไหว เจ้าของแบรนด์มาลากาญจน์ (MALAKARN) กล่าวว่า ปัจจุบันงานเครื่องโลหะไม่ได้จำกัดอยู่เพียงเฉพาะในทางพุทธศาสนาเพียงเท่านั้น แต่ยังสามารถที่จะพัฒนาและนำเอาเทคนิคดั้งเดิมมาสร้างสรรค์และต่อยอดการออกแบบเป็นผลงานศิลป์เชิงประยุกต์ที่ตอบโจทย์การใช้งานสำหรับชีวิตประจำวันได้ เช่น “ดอกไม้ไหว” ซึ่งทำจากโลหะมีค่าอย่างเงิน หรือทอง แม้เป็นวัตถุดิบที่มีความแข็งแรงแต่กลับสามารถนำมาสร้างสรรค์-ออกแบบ จนได้ผลงานปิ่นดอกไม้ที่มีความประณีตอ่อนช้อยและพลิ้วไหว ซึ่งอาศัยองค์ความรู้และกระบวนการอันพิถีพิถันของช่างฝีมือสะท้อนอัตลักษณ์เชิงวัฒนธรรมของชาวล้านนาที่สืบทอดต่อกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ นอกจากนี้ แบรนด์มาลากาญจน์ได้ต่อยอดศิลปะจากแผ่นโลหะให้มีรูปแบบที่หลากหลายและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเฉพาะการสร้างสรรค์ช่อดอกไม้โลหะที่ได้รับแรงบันดาลใจจากดอกไม้สดนานาชนิด เช่น ดอกพิกุล ดอกจำปา ดอกโชค (ดอกไคร้ย้อย) และผลงานดอกไม้ที่สร้างสรรค์จากจินตนาการโดยนำเอาลักษณะของดอกไม้จริงมาดัดแปลงจนเกิดเป็นดอกไม้ชนิดใหม่ ทำให้ดูมีความทันสมัยเหมาะสำหรับใช้เป็นเครื่องประดับตกแต่งผมสตรี ปิ่นปักผม หรือใช้ประดับในการแสดงนาฏศิลป์พื้นเมือง ตลอดจนประยุกต์เป็นสิ่งของตกแต่งอาคารบ้านเรือน โดยเพิ่มมูลค่าด้วยการประดับหินสีเพื่อสร้างสีสันและความน่าสนใจให้กับชิ้นงานมากยิ่งขึ้น

 

"รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์ศิลปหัตถกรรมที่หาชมได้ยากให้คงอยู่คู่ผืนแผ่นดินไทย และการได้รับความสนับสนุนจาก SACIT ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ช่างฝีมืออย่างเราสามารถสืบสานต่อยอด และสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักเพื่อให้งานศิลปะแขนงนี้อยู่ได้ในทุกยุคทุกสมัย" นายนวภัสร์ กล่าวทิ้งท้าย

 

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลข่าวสาร ของสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) ได้ที่เว็บไซต์ https://sacit.or.th/th  หรือเข้าชมรายละเอียดเพิ่มเติมพร้อมอัปเดตกิจกรรมงานคราฟต์ต่าง ๆ ที่น่าสนใจได้ทาง TikTok SACIT Official https://www.tiktok.com/@sacit_official