กรมปศุสัตว์ออกหน่วยให้บริการโครงการสัตวแพทย์พระราชทานฯ ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี

กรมปศุสัตว์ ร่วมกับคณะสัตวแพทยศาสตร์ของมหาวิทยาลัยต่างๆ สมาคมด้านสัตวแพทย์ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดโครงการสัตวแพทย์พระราชทาน ในพระราชดำริ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยออกหน่วยให้บริการแก่เกษตรกรในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยงของเกษตรกรในพื้นที่ห่างไกล เป็นการพัฒนาอาชีพ และเพิ่มรายได้ของเกษตรกรให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น    

วันพุธที่ 28 พฤษภาคม 2568 เวลา 09.00 น. นายสัตวแพทย์บุญญกฤช ปิ่นประสงค์ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ เป็นประธานเปิดโครงการสัตวแพทย์พระราชทานฯ ว่าที่ ร.ต. ศุภมงคล บูชาถ่ายเทศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวต้อนรับ และนายสัตวแพทย์สามารถ ประสิทธิ์ผล ปศุสัตว์จังหวัดกาญจนบุรี กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดงานฯ ทั้งนี้ เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงมีพระราชดำริให้มีโครงการสัตวแพทย์พระราชทานเพื่อให้หน่วยงานวิชาชีพสัตวแพทย์ และวิชาชีพอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เข้าไปดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยงของเกษตรกรในพื้นที่ห่างไกล เป็นการพัฒนาอาชีพและเพิ่มรายได้ของเกษตรกรให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยมีคณะกรรมการโครงการสัตวแพทย์พระราชทานฯ หัวหน้าส่วนราชการ คณาจารย์ นิสิต นักศึกษา ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น พี่น้องเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ เข้าร่วมพิธีเปิดฯ ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอห้วยกระเจา อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี 

นายสัตวแพทย์บุญญกฤช ปิ่นประสงค์ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า การดำเนินงานโครงการสัตวแพทย์พระราชทานฯ เป็นงานที่สนองพระราชดำริของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการบริการประชาชนชาวไทย ให้มีความอยู่ดีกินดีโดยถ้วนหน้าและเสมอภาคกัน เป็นการแบ่งเบาพระราชกรณียกิจอีกทางหนึ่ง สร้างคุณประโยชน์ให้แก่เกษตรกรผู้ยากไร้อยู่ห่างไกลและขาดโอกาส โครงการสัตวแพทย์พระราชทานฯ เป็นความร่วมมือแบบบูรณาการของสัตวแพทย์ไทย และบุคลากรทุกภาคส่วนทั้งในส่วนของวิชาชีพสัตวแพทย์ และวิชาชีพอื่นๆ ต่างผนึกกำลังในการใช้เทคโนโลยี และวิชาการอันทันสมัยแขนงต่างๆ เพื่อบริการประชาชน ให้ได้ผลสำเร็จตามพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง นับเป็นความโชคดีของเกษตรกรจังหวัดกาญจนบุรี โดยเฉพาะอำเภอห้วยกระเจา ที่จะได้รับบริการจากบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ มีน้ำใจดีงาม ที่จะมาช่วยบรรเทาความเจ็บป่วยของสัตว์เลี้ยง และบรรเทาความทุกข์ร้อนของเกษตรกรของทุกท่าน

ด้านนายสัตวแพทย์สามารถ ประสิทธิ์ผล ปศุสัตว์จังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า เนื่องด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง ทรงห่วงใยพสกนิกรของพระองค์เป็นอย่างยิ่ง ทุกครั้งที่เสด็จเยี่ยมความเป็นอยู่ของราษฎร จะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมติดตามถวายงานตามรับสั่ง เพื่อพระราชทานความช่วยเหลือแก่เกษตรกร ทรงแนะนำการแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกษตรกรไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง รวมทั้งทรงพระราชทานแนวคิดใหม่ๆ ที่เหมาะสมกับสภาพความเป็นอยู่ในปัจจุบัน ทั้งหมดเป็นพระราชกรณียกิจที่แสดงถึงน้ำพระราชหฤทัยอันเปี่ยมล้นไปด้วยความเมตตา ทรงห่วงใยและปรารถนาดีต่อพสกนิกรของพระองค์ทั้งสิ้น โครงการสัตวแพทย์พระราชทานฯ เป็นงานที่สนองพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการบริการประชาชนชาวไทยให้มีความอยู่ดีกินดี  โดยถ้วนหน้าและเสมอภาคกัน เป็นการแบ่งเบาพระราชกรณียกิจอีกทางหนึ่ง สร้างคุณประโยชน์ให้แก่เกษตรกรผู้ยากไร้ อยู่ห่างไกลและขาดโอกาส กรมปศุสัตว์ในฐานะหน่วยงานหลักในการดำเนินงานโครงการสัตวแพทย์พระราชทาน ร่วมกับคณะสัตวแพทยศาสตร์ของมหาวิทยาลัยต่างๆ สมาคมด้านสัตวแพทย์ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ร่วมกันดำเนินงานโครงการสัตวแพทย์พระราชทานขึ้นมาตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ.2550 จนถึงปัจจุบัน 

ในปีงบประมาณ พ.ศ.2568 กรมปศุสัตว์ได้บูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานด้านปศุสัตว์ ในการพัฒนาบริการด้านสุขภาพสัตว์ ได้กำหนดจัดให้มีการดำเนินการโครงการสัตวแพทย์พระราชทานในพระราชดำริ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ขึ้นในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี โดยให้บริการในเขตพื้นที่อำเภอห้วยกระเจา ซึ่งมีเป้าหมายการให้บริการเกษตรกรจำนวนไม่น้อยกว่า 250 ราย สัตว์เลี้ยงได้รับการดูแลสุขภาพ จำนวน 4200 ตัว ได้แก่ สุนัขและแมว จำนวน 400 ตัว โคและกระบือ จำนวน 1000 ตัว แพะและแกะ จำนวน 300 ตัว และสัตว์ปีก จำนวน 2500 ตัว โดยมีคณาจารย์ นิสิต นักศึกษา สัตวแพทย์ และนักวิชาการจากส่วนกลางและส่วนภูมิภาคร่วมปฏิบัติงาน กำหนดดำเนินการระหว่างวันที่ 27 - 29 พฤษภาคม 2568 รวมระยะเวลา 3 วัน สำหรับกิจกรรมโครงการสัตวแพทย์พระราชทานฯ ครั้งนี้ ประกอบด้วย การตรวจรักษาพยาบาลสัตว์ทั้งด้านอายุรกรรม สูติกรรม และศัลยกรรม การฉีดวัคซีนป้องกันโรคสัตว์ การกำจัดปรสิตภายนอกและภายใน การเก็บตัวอย่างเพื่อตรวจวินิจฉัยโรคสัตว์ทางห้องปฏิบัติการ การฝึกอบรมให้ความรู้ แนะนำการเลี้ยงการดูแลสัตว์ให้ถูกสุขลักษณะ และการจัดนิทรรศการให้ความรู้ด้านปศุสัตว์และการเกษตรอื่นๆ เป็นต้น